Last year, some of the biggest fire

Last year, some of the biggest fires in recent history burned through parts of Indonesia.

The fires sent huge clouds of smoke across Indonesia and its neighbors. They also produced large amounts of carbon dioxide. Studies have linked increasing carbon dioxide levels to rising temperatures in Earth’s atmosphere.

For years, Indonesian farmers and businesses have cleared land for agriculture by setting fire to fields and undeveloped areas. This year’s fire season is to begin soon. But measures to limit the burning are now in place.

One of Indonesia’s top exports and most popular agricultural products is palm oil. It is used in snack foods and cosmetics.

Palm trees grow mainly in what was once peatland – wet areas where dead organic material is plentiful. Peatland was dried for agriculture in the quickest way possible – illegal draining and burning of the land.

This kind of farming was responsible for some of the worst fires in history. The fires created clouds so large they spread into neighboring countries. Such fires can release more carbon dioxide than the amount produced in the entire United States.

Woro Supartinah directs The Network for Riau Forest Rescue, a non-governmental organization on the island of Sumatra. Her group studies forest fires and their destruction through satellite information and reports by members.

“Dried peatland has become the gasoline for any triggers for the fires…Riau province has lost around five million hectares of natural forest. Now, currently we only have 1.6 million (Hectares) of natural forest from seven million that we had in the late (19)80s."

This year, scientists are blaming the weather event called El Nino for reduced rainfall and drier than normal conditions across Indonesia. But for the first time, policing efforts have stopped the fires on large farms, known as plantations.

Edwar Sanger is the head of the National Disaster Management Authority in Riau. He said his government agency is prepared to control the burning.

“…We have already made a commitment that what had happened in the past years will not happen again."

Communities across Indonesia have developed different ways to prevent and fight fires. Some are blocking waterways once used to drain water from the land. This helps to reduce the risk of fire.

Other communities have their own fire departments or firefighters. And some farmers have stopped growing palm trees and, instead, are planting different crops.

With the dangerous fire season soon to begin, these efforts and others will be put to the test.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ปี บางส่วนของไฟที่ใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ล่าเขียนผ่านส่วนต่าง ๆ ของประเทศอินโดนีเซียไฟส่งเมฆใหญ่ของควันในอินโดนีเซียและประเทศเพื่อนบ้าน นอกจากนี้พวกเขายังผลิตก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์จำนวนมาก การศึกษามีการเชื่อมโยงเพิ่มระดับคาร์บอนไดออกไซด์สูงขึ้นอุณหภูมิในชั้นบรรยากาศของโลกปี ชาวอินโดนีเซียและธุรกิจได้ล้างที่ดินสำหรับการเกษตร โดยการตั้งไฟเขตและพื้นที่บริเวณ ฤดูกาลปีนี้ไฟจะเริ่มเร็ว ๆ นี้ แต่มาตรการการจำกัดการเผาไหม้ขณะนี้อยู่ในสถานที่หนึ่งของอินโดนีเซียส่งออกชั้นนำและสินค้าเกษตรที่นิยมมากที่สุดคือน้ำมันปาล์ม มันถูกใช้ในขนมขบเคี้ยวและเครื่องสำอางต้นปาล์มเติบโตในสิ่งที่เคย peatland – พื้นที่เปียกที่ตายดิบอุดมสมบูรณ์ Peatland คือแห้งสำหรับการเกษตรมาได้ – ระบายน้ำ และการเผาไหม้ของแผ่นดินที่ผิดกฎหมายชนิดนี้ทำการเกษตรรับผิดชอบของไฟที่แย่ที่สุดในประวัติศาสตร์ ไฟสร้างเมฆขนาดใหญ่ที่มีแพร่กระจายเข้าสู่ประเทศเพื่อนบ้าน ไฟไหม้ดังกล่าวสามารถปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์มากขึ้นกว่าจำนวนที่ผลิตในไทยทั้งหมดWoro Supartinah นำเครือข่ายสำหรับกู้ภัยป่าเรียว เป็นองค์กรเอกชนบนเกาะสุมาตรา เธอศึกษากลุ่มป่าไฟไหม้และการทำลายของพวกเขาผ่านดาวเทียมข้อมูลและรายงาน โดยสมาชิก"Peatland แห้งกลายเป็น น้ำมันเบนซินสำหรับทริกเกอร์ใด ๆ สำหรับไฟ... เรียวได้สูญเสียป่าธรรมชาติประมาณ 5 ล้านไร่ เดี๋ยวนี้ ขณะนี้เรามีเพียง 1.6 ล้าน (ไร่) ป่าธรรมชาติจากล้านเจ็ดที่เรามีใน (19) ช่วงปลาย 80s "ปีนี้ นักวิทยาศาสตร์มีโทษเหตุการณ์สภาพอากาศที่เรียกว่าเอลนิโน สำหรับปริมาณน้ำฝนลดลง และแห้งมากกว่าสภาวะปกติอินโดนีเซีย แต่ครั้งแรก พยายามรักษาหยุดไฟในฟาร์มขนาดใหญ่ เป็นสวนEdwar Sanger เป็นหัวหน้าหน่วยงานจัดการภัยพิบัติแห่งชาติใน Riau เขากล่าวว่า หน่วยงานรัฐบาลของเขาได้เตรียมที่จะควบคุมการเผาไหม้“… เราได้ทำแล้วมันได้เกิดขึ้นในอดีตปีจะไม่เกิดขึ้นอีก"ชุมชนอินโดนีเซียได้พัฒนาวิธีการป้องกัน และต่อสู้ไฟไหม้ บางส่วนจะบล็อกน้ำเมื่อถูกใช้เพื่อระบายน้ำจากแผ่นดิน นี้ช่วยลดความเสี่ยงจากไฟไหม้ชุมชนอื่น ๆ มีแผนกดับเพลิงหรือนักผจญเพลิงของตนเอง และเกษตรกรบางส่วนหยุดเจริญเติบโตต้นปาล์ม แทน มีการปลูกพืชที่แตกต่างกันกับฤดูกาลไฟอันตรายโดยเร็วเพื่อเริ่มต้น ความพยายามเหล่านี้และอื่น ๆ จะถูกนำไปทดสอบ

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ปีที่ผ่านมาบางส่วนของการเกิดเพลิงไหม้ที่ใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ที่ผ่านมาเผาผ่านส่วนของอินโดนีเซีย.

ไฟส่งเมฆใหญ่ของควันทั่วประเทศอินโดนีเซียและประเทศเพื่อนบ้าน พวกเขายังผลิตจำนวนมากของก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ มีการศึกษาที่เชื่อมโยงกับการเพิ่มระดับการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ที่มีอุณหภูมิที่เพิ่มขึ้นในชั้นบรรยากาศของโลก.

ปีที่ผ่านมาเกษตรกรอินโดนีเซียและธุรกิจได้เคลียร์ที่ดินสำหรับการเกษตรโดยการตั้งค่าไฟเผาไร่นาและการพัฒนาพื้นที่ ฤดูกาลไฟในปีนี้คือการเริ่มต้นในเร็ว ๆ นี้ แต่มาตรการที่จะ จำกัด การเผาไหม้อยู่ในขณะนี้ในสถานที่.

หนึ่งของการส่งออกชั้นนำของอินโดนีเซียและผลิตภัณฑ์ทางการเกษตรได้รับความนิยมมากที่สุดคือน้ำมันปาล์ม มันถูกใช้ในขนมขบเคี้ยวและเครื่องสำอาง.

ต้นปาล์มเติบโตส่วนใหญ่ในสิ่งที่ครั้งหนึ่งเคยเป็นป่าพรุ - บริเวณที่เปียกชื้นที่สารอินทรีย์ตายอุดมสมบูรณ์ ป่าพรุแห้งเพื่อการเกษตรในวิธีที่เร็วที่สุดที่เป็นไปได้. - ระบายน้ำที่ผิดกฎหมายและการเผาไหม้ของที่ดิน

ประเภทของการทำฟาร์มนี้เป็นผู้รับผิดชอบสำหรับบางส่วนของการเกิดเพลิงไหม้ที่เลวร้ายที่สุดในประวัติศาสตร์ ไฟเมฆขนาดใหญ่ที่สร้างขึ้นเพื่อให้พวกเขาแพร่กระจายเข้าไปในประเทศเพื่อนบ้าน เกิดเพลิงไหม้ดังกล่าวสามารถปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์มากกว่าจำนวนที่ผลิตในทั้งสหรัฐอเมริกา.

Woro Supartinah นำเครือข่ายสำหรับเรียวป่ากู้ภัยซึ่งเป็นองค์กรที่ไม่ใช่ภาครัฐบนเกาะสุมาตรา กลุ่มของเธอศึกษาไฟป่าและการทำลายล้างของพวกเขาผ่านข้อมูลดาวเทียมและรายงานโดยสมาชิก.

"ป่าพรุแห้งได้กลายเป็นน้ำมันสำหรับการเรียกใด ๆ สำหรับการเกิดเพลิงไหม้ ... จังหวัดเรียวได้หายไปประมาณห้าล้านไร่ป่าธรรมชาติ ตอนนี้ในขณะนี้เรามีเพียง 1.6 ล้าน (ไร่) ของป่าธรรมชาติจากเจ็ดล้านที่เรามีในช่วงปลาย (19) 80. "

ในปีนี้นักวิทยาศาสตร์กำลังโทษเหตุการณ์สภาพอากาศที่เรียกว่าเอลนีโญสำหรับลดปริมาณน้ำฝนและแห้งกว่าสภาวะปกติทั่ว อินโดนีเซีย. แต่เป็นครั้งแรกที่ความพยายามรักษาได้หยุดการเกิดเพลิงไหม้ในฟาร์มขนาดใหญ่ที่รู้จักกันในสวน.

Edwar แซงเจอร์เป็นหัวหน้าของผู้มีอำนาจในการบริหารจัดการภัยพิบัติแห่งชาติในเรียว. เขากล่าวว่าหน่วยงานรัฐบาลของเขาเตรียมที่จะควบคุมการเผาไหม้.

" ... เราได้ทำแล้วมีความมุ่งมั่นว่าสิ่งที่เกิดขึ้นในปีที่ผ่านมาจะไม่เกิดขึ้นอีกครั้ง ".

ชุมชนทั่วประเทศอินโดนีเซียได้มีการพัฒนาวิธีการที่แตกต่างกันในการป้องกันและระงับอัคคีภัย บางคนมีการปิดกั้นทางน้ำครั้งเดียวที่ใช้ในการระบายน้ำออกจากที่ดิน ซึ่งจะช่วยลดความเสี่ยงของการเกิดไฟไหม้.

ชุมชนอื่น ๆ มีหน่วยงานดับเพลิงของตัวเองหรือนักดับเพลิง และเกษตรกรบางส่วนได้หยุดการเจริญเติบโตต้นปาล์มและแทนที่จะมีการปลูกพืชที่แตกต่างกัน.

กับฤดูกาลไฟอันตรายในเร็ว ๆ นี้จะเริ่มต้นความพยายามเหล่านี้และอื่น ๆ จะนำไปทดสอบ