Electricity travels along a wire a

Electricity travels along a wire a long way very quickly. It is used to make heat or light and work machines. And it is important in modern message- sending. The electric telegraph was invented in 1835, just after the first railway was built. It is possible for us to send a message quickly a long way without a messenger. The message is taken with the help of electricity along a wire. By one method, the electricity is allowed to go for a shorter or longer time and is then stopped. The electricity is broken up into short and long signals. These are known as dots and dashes. Dots and dashes are written on paper The signals are sent by a key. One is shown in the like this picture on this page. The key is pressed down so that the points A and B in the picture touch each other. When this happens, electricity passes from one point to the other and then along the wire. When the key is open (as in the picture), A and B do not touch, and no electricity can pass. At the other end of the wire the electric signals are turned into signals that we can see or hear. So each short or long signal is changed into the movement of a needle backwards and forwards. By watching this, or listening to the sounds, a person can read the dots and dashes, when someone sends them to him. How can dots and dashes mean anything? Each letter of the alphabet is a different group of dots and dashes. This alphabet of dots and dashes is known as the morse code. It is written like this:

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ไฟฟ้าเดินทางไปตามเส้นลวดยาวทางอย่างรวดเร็ว มันถูกใช้เพื่อทำให้แสงหรือความร้อน และเครื่องทำงาน และมันเป็นสิ่งสำคัญในการส่งข้อความทันสมัย- โทรเลขไฟฟ้าถูกคิดค้นในปีค.ศ. 1835 หลังจากสร้างทางรถไฟครั้งแรก เป็นไปได้ที่เราจะส่งข้อความได้อย่างรวดเร็วระยะทางโดยไม่มี ข้อความจะนำมา ด้วยความช่วยเหลือของไฟฟ้าไปตามลวด โดยวิธีหนึ่ง ไฟฟ้าได้รับอนุญาตให้ไปเป็นเวลาสั้น หรือยาว และหยุดทำงานแล้ว ไฟฟ้าจะแตกออกเป็นสัญญาณสั้น และยาว เหล่านี้จะเป็นจุดและเส้นประ จุดและเส้นประที่เขียนบนกระดาษที่ส่งสัญญาณ โดยคีย์ หนึ่งแสดงในดังรูปบนหน้านี้ คีย์ถูกกดลงที่จุด A และ B ในรูปสัมผัสกัน เมื่อเกิดเหตุการณ์นี้ ไฟฟ้าผ่านจากจุดหนึ่งไปอื่น ๆ แล้ว ไปในสาย เมื่อปุ่มถูกเปิด (ดังรูป), A และ B ไม่ touch และไม่ใช้ไฟฟ้าสามารถผ่าน อีกด้านของสาย สัญญาณไฟฟ้าจะกลายเป็นสัญญาณที่เราสามารถเห็น หรือได้ยิน ดังนั้นแต่ละสัญญาณสั้น หรือยาวมีการเปลี่ยนแปลงเป็นการเคลื่อนที่ของเข็มถอยหลัง และส่งต่อ โดยดูนี้ หรือฟังเสียง บุคคลที่สามารถอ่านจุดและเส้นประ เมื่อมีคนส่งให้เขา วิธีสามารถจุดและเส้นประหมายถึง อะไร แต่ละตัวอักษรของตัวอักษรคือ กลุ่มแตกต่างกันของจุดและเส้นประ อักษรนี้ของจุดและเส้นประเรียกว่ารหัสมอร์ส มันเขียนไว้ดังนี้:

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ไฟฟ้าเดินทางไปตามสายทางยาวอย่างรวดเร็ว มันถูกใช้เพื่อให้ความร้อนหรือแสงและการทำงานของเครื่อง และเป็นสิ่งสำคัญในการส่ง message- ทันสมัย โทรเลขไฟฟ้าถูกคิดค้นในปี 1835 หลังจากที่รถไฟเป็นครั้งแรกที่ถูกสร้างขึ้น มันเป็นไปได้ที่เราจะส่งข้อความได้อย่างรวดเร็วเป็นทางยาวโดยไม่ต้องส่งสาร ข้อความที่ถูกนำมาด้วยความช่วยเหลือของการไฟฟ้าพร้อมลวด โดยวิธีการหนึ่ง, ไฟฟ้าได้รับอนุญาตให้ไปเป็นเวลาสั้นหรือยาวและจะหยุดการทำงานแล้ว ไฟฟ้าถูกแบ่งออกเป็นสัญญาณสั้นและระยะยาว เหล่านี้เรียกว่าจุดและขีดกลาง จุดและขีดกลางจะถูกเขียนลงบนกระดาษสัญญาณจะถูกส่งโดยคีย์ หนึ่งคือการแสดงในภาพเช่นนี้ในหน้านี้ ที่สำคัญคือการกดลงเพื่อให้จุด A และ B ในภาพสัมผัสกัน เมื่อเกิดเหตุการณ์นี้ผ่านการผลิตไฟฟ้าจากจุดหนึ่งไปยังอีกแล้วก็ไปตามเส้นลวด เมื่อที่สำคัญคือเปิด (ในภาพ), A และ B ไม่ได้สัมผัสและไม่มีไฟฟ้าสามารถผ่าน ที่ปลายอีกด้านของสายสัญญาณไฟฟ้าจะกลายเป็นสัญญาณว่าเราสามารถมองเห็นหรือได้ยิน ดังนั้นสั้นหรือยาวแต่ละสัญญาณจะถูกเปลี่ยนเป็นความเคลื่อนไหวของเข็มต่องแต่ง โดยการเฝ้าดูนี้หรือฟังเสียงคนสามารถอ่านจุดและขีดกลางเมื่อมีคนส่งพวกเขาไปให้เขา วิธีที่สามารถจุดและขีดกลางหมายถึงอะไร? ตัวอักษรแต่ละกลุ่มแตกต่างกันของจุดและขีดกลาง ตัวอักษรของจุดและขีดกลางนี้เป็นที่รู้จักกันเป็นรหัสมอร์ส มันเขียนไว้เช่นนี้

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ไฟฟ้า เดินทางตามเส้นทางสายไกลมากอย่างรวดเร็ว มันถูกใช้เพื่อสร้างความร้อนหรือเครื่องจักร งาน แสง และ เงา และมันเป็นสิ่งสำคัญในสมัยใหม่ข้อความ -- ส่ง โทรเลขไฟฟ้าถูกคิดค้นในปี 1835 , หลังจากรถไฟแรกที่ถูกสร้างขึ้น มันเป็นไปได้สำหรับเราที่จะส่งข้อความได้อย่างรวดเร็ว ไกลโดย Messenger ข้อความที่ถ่ายด้วยการใช้ไฟฟ้าตามสายไฟ โดยวิธีหนึ่ง ไฟฟ้าจะได้รับอนุญาตให้เข้าไปในเวลาสั้นหรือยาว แล้วหยุด ไฟฟ้าจะแตกออกเป็นสั้น และ ยาว สัญญาณ เหล่านี้เป็นที่รู้จักกันเป็นจุดและขีดกลาง . จุดและขีดเขียนบนกระดาษ สัญญาณจะถูกส่งโดยคีย์ หนึ่งคือแสดงในชอบรูปนี้ในหน้านี้ คีย์ถูกกด ลง เพื่อให้จุด A และ B ในรูปสัมผัสแต่ละอื่น ๆ เมื่อเกิดเหตุการณ์นี้ , ไฟฟ้าผ่านจากจุดหนึ่งไปยังอีก แล้วก็ไปตามสาย เมื่อคีย์เปิด ( ตามในรูป ) A และ B ไม่แตะต้อง และไม่มีไฟฟ้า สามารถผ่าน ที่ปลายสายสัญญาณไฟฟ้าจะกลายเป็นสัญญาณที่เราเห็น หรือได้ยิน ดังนั้นแต่ละสั้น หรือยาว สัญญาณจะเปลี่ยนเป็นการเคลื่อนไหวของเข็มถอยหลังแล้วเดินหน้า จากการดู หรือฟังเสียง บุคคลสามารถอ่านจุดและขีด เมื่อใครส่งมันให้เขา ทำไมจุดและขีดกลางหมายถึงอะไร ? ตัวอักษรของตัวอักษรแต่ละกลุ่มที่แตกต่างกันของจุดและขีด . นี้ตัวอักษรของจุดและขีดกลางเป็นที่รู้จักกันเป็นรหัสมอส มันเขียนอย่างนี้