3. Study Plan (Attachment #3): The

3. Study Plan (Attachment #3): The first section is very similar to research plan; what applicant will do during his research. It’s been public secret now that almost nobody will have his own privilege to conduct his research, but he needs to work on project his lab has/offers. So what is the point of this part? It merely measures applicant’s seriousness in applying to the program and to check his understanding on his research field. Almost nobody will do the one he once wrote on his research plan but accepted student normally has solid background of research and clear vision of his research. The second part deals with applicant’s plan after completing the program. The purpose is almost very similar to the 2nd item and to the 1st part of this item: to check the long-term vision of applicant. Saying that he wants to get master degree for a long life work (such as becoming diplomat for his country, Chemistry teaching professor, etc) will be much better then just saying willingness to explore Korean culture.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

3. ศึกษาแผน (เอกสารแนบ 3 อันดับ): ส่วนแรกจะคล้ายกับวิจัยแผน ผู้ใดจะทำในระหว่างการวิจัยของเขา มันได้ลับสาธารณะขณะที่เกือบไม่มีใครจะมีสิทธิ์ของตัวเองเพื่อดำเนินการวิจัยของเขา แต่เขาต้องทำงานในห้องแล็บของเขาที่ได้/ข้อเสนอโครงการ ดังนั้น จุดของส่วนนี้คืออะไร มันเพียงมาตรการอย่างจริงจังของผู้สมัครในการใช้โปรแกรม และ การตรวจสอบความเข้าใจของเขาในสนามวิจัยของเขา เกือบไม่มีใครจะทำหนึ่งเขาเขียนแผนงานวิจัยของเขา แต่ยอมรับนักเรียนปกติมีพื้นหลังทึบของวิจัยและวิสัยทัศน์ที่ชัดเจนของการวิจัยของเขา ส่วนที่สองข้อเสนอแผนของผู้สมัครหลังจากจบโปรแกรม วัตถุประสงค์คือเกือบคล้าย กับรายการที่ 2 และส่วน 1 ของรายการนี้: การตรวจสอบวิสัยทัศน์ระยะยาวของผู้สมัคร บอกว่า เขาต้องการขอรับปริญญาสำหรับชีวิตทำงานยาวนาน (เช่นเป็นทูตสำหรับประเทศของเขา อาจารย์สอนเคมี ฯลฯ) จะดีกว่าแค่พูดตั้งใจจะสำรวจวัฒนธรรมเกาหลี

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

3. แผนการศึกษา (เอกสารแนบ # 3): ส่วนแรกจะคล้ายกับแผนวิจัย สิ่งที่ผู้สมัครจะทำในระหว่างการวิจัยของเขา มันเป็นความลับของประชาชนในขณะนี้ว่าเกือบจะไม่มีใครมีสิทธิ์ของตัวเองเพื่อดำเนินการวิจัยของเขา แต่เขาต้องการที่จะทำงานในโครงการมีห้องแล็บของเขา / ข้อเสนอ ดังนั้นสิ่งที่เป็นจุดของส่วนนี้หรือไม่? มันเป็นเพียงการวัดความรุนแรงของผู้ยื่นคำขอในการประยุกต์ใช้ในการเขียนโปรแกรมและการตรวจสอบความเข้าใจของเขาบนสนามการวิจัยของเขา ไม่มีใครเกือบจะทำอย่างใดอย่างหนึ่งที่เขาเคยเขียนในการวางแผนการวิจัยของเขาได้รับการยอมรับ แต่นักเรียนปกติมีพื้นหลังเป็นของแข็งของการวิจัยและวิสัยทัศน์ที่ชัดเจนของการวิจัยของเขา ส่วนที่สองเกี่ยวข้องกับแผนของผู้ยื่นคำขอหลังจากจบโปรแกรม จุดประสงค์คือเกือบจะคล้ายกันมากกับรายการที่ 2 และในส่วนที่ 1 ของรายการนี้: การตรวจสอบวิสัยทัศน์ระยะยาวของผู้สมัคร บอกว่าเขาต้องการที่จะได้รับการศึกษาระดับปริญญาโทสำหรับการทำงานชีวิตยาว (เช่นกลายเป็นทูตสำหรับประเทศของเขาเคมีอาจารย์สอน ฯลฯ ) จะดีขึ้นมากแล้วแค่บอกความตั้งใจที่จะสำรวจวัฒนธรรมเกาหลี

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

3 . แผนการศึกษา ( เอกสารแนบ # 3 ) : ส่วนแรกจะคล้ายกับการวิจัยวางแผน ; ผู้สมัครสิ่งที่จะทำในระหว่างการวิจัยของเขา มันเป็นข่าวลับที่เกือบจะไม่มีใครมีสิทธิพิเศษของเขาเองที่จะดำเนินการวิจัยของเขา แต่เขาต้องทำงานในโครงการที่แล็บของเขาได้ / มี ดังนั้นสิ่งที่เป็นจุดของส่วนนี้ มันเป็นเพียงมาตรการความจริงจังของผู้สมัครในการประยุกต์ใช้กับโปรแกรมและการตรวจสอบความเข้าใจของเขาในด้านงานวิจัย เกือบจะไม่มีใครทำ คนที่เขาเคยเขียนในแผนวิจัยของเขา แต่ยอมรับนักเรียน ปกติมีพื้นแข็งของการวิจัยและวิสัยทัศน์ที่ชัดเจนของงานวิจัย ส่วนที่สองเกี่ยวข้องกับแผนของผู้สมัครหลังจากเสร็จสิ้นการโปรแกรม จุดประสงค์คือเกือบจะคล้ายกันมากกับรายการที่ 2 และ 1 ส่วนหนึ่งของรายการนี้ : ตรวจสอบวิสัยทัศน์ระยะยาวของผู้สมัคร บอกว่าเขาต้องการที่จะได้รับปริญญาโท สำหรับชีวิตการทำงานที่ยาวนาน เช่น การเป็นนักการฑูตที่ประเทศของเขา อาจารย์สอนเคมี ฯลฯ ) จะดีขึ้นมากแล้ว แค่บอกว่ายินดีที่จะสำรวจวัฒนธรรมเกาหลี