The Relationship Between Exercise S

The Relationship Between Exercise Stage of Change and Job Strain Variables
by Lubonovich, Phoebe

Abstract (Summary)
The detrimental effects of job strain were the same detrimental effects that regular exercise impacted and often prevented. The purpose of this study was to use Prochaska's stages of change model and Karasek's job strain model to determine relationships between perceived job strain variables and exercise stage of change. A questionnaire was administered to 905 corporate associates that measured exercise stage of change, job strain, job control, job demand, and social support. The survey response rate was 62.8% (n=568). The proportions of participants in each stage were: precontemplation 7% (n=40), contemplation 13.7% (n=78), preparation 29.9% (n=170), action 14.4% (n=82), and maintenance 34.9% (n=198). Participant mean scores reflected national average scores in job control and social support, but were higher in job demands. The majority of participants were Caucasian (84.5%) women (68.3%)close to 40 years of age who worked approximately 42 hours a week in a position held for longer than 6 months. Pearson correlation results indicated significant relationships between exercise stage of change and both job control and job strain. As exercise stage of change progressed towards the maintenance stage, job control increased and job strain decreased.Women scored significantly lower in job control and higher in job strain than men scored. ANOVA tests showed significant differences in both job control and job strain levels between the preparation and maintenance exercise stages of change. Maintainers scored significantly higher in job control and significantly lower in job strain than preparers scored. This study reinforces the role of exercise adherence initiatives in the design of corporate stress management programs. Employees engaging in regular exercise for durations longer than 6 months perceive the lowest levels of job strain and the highest levels of job control. Employees who do not exercise regularly, but are preparing to within 30 days, perceive less job control and higher job strain. Employees in the preparation stage may need tailored help to overcome barriers such as low control and high strain. Because this study shows that job strain is related to exercise behavior, integrative efforts should be made to simultaneously reduce job strain and enhance progression through the exercise stages of change.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ความสัมพันธ์ระหว่างตัวแปรความเครียดงานและเวทีออกกำลังกายการเปลี่ยนแปลงโดย Lubonovich พีบีบทคัดย่อ (สรุป)ผลเสียของความเครียดงานผลเสียเดียวที่ได้รับผลกระทบกาย และมักจะป้องกันได้ วัตถุประสงค์ของการศึกษานี้คือการ ใช้ของ Prochaska ขั้นตอนของการเปลี่ยนแปลงรุ่น และรุ่นสายพันธุ์งานของ Karasek เพื่อกำหนดความสัมพันธ์ระหว่างการรับรู้งานตัวแปรความเครียด และออกกำลังกายขั้นตอนของการเปลี่ยนแปลง แบบสอบถามถูกปกครองไปร่วมองค์กร 905 ที่วัดระยะออกกำลังกายเปลี่ยนแปลง สายงาน ควบคุมงาน ความต้องการงาน และสนับสนุนทางสังคม อัตราการตอบรับแบบสำรวจเป็น 62.8% (n = 568) มีสัดส่วนของผู้เรียนในแต่ละขั้นตอน: precontemplation 7% (n = 40), สมาธิ 13.7% (n = 78), เตรียม 29.9% (n = 170), ดำเนินการ 14.4% (n = 82), และการบำรุงรักษา 34.9% (n = 198) ผู้เรียนหมายถึงคะแนนประกอบด้วยคะแนนเฉลี่ยชาติในงานควบคุมและสนับสนุนทางสังคม แต่สูงในความต้องการงาน ส่วนใหญ่ของผู้เข้าร่วมถูกผู้หญิงผิวขาว (84.5%) (68.3%)close ถึงปี 40 ที่ทำงานประมาณ 42 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ในตำแหน่งรอนานกว่า 6 เดือน ผลสหสัมพันธ์เพียร์สันระบุที่สำคัญความสัมพันธ์ระหว่างการออกกำลังกายขั้นตอนของการเปลี่ยนแปลงและทั้งสายงานและควบคุมงาน เป็นขั้นตอนของการออกกำลังกาย เปลี่ยนแปลงก้าวหน้าไปสู่ขั้นตอนการบำรุงรักษา ควบคุมงานที่เพิ่มขึ้น และลดความเครียดงาน ผู้หญิงคะแนนต่ำในงานควบคุมอย่างมีนัยสำคัญ และสูงขึ้นในสายงานมากกว่าผู้ชายที่ทำประตู การทดสอบ ANOVA แสดงให้เห็นความแตกต่างกันในการควบคุมงานทั้งสอง และระดับความเครียดของงานระหว่างการเตรียมการและการบำรุงรักษาออกกำลังกายขั้นตอนของการเปลี่ยนแปลง ฟันคะแนนสูงขึ้นอย่างมีนัยสำคัญในการควบคุมงาน และลดในงานเครียดกว่าผู้จัดเตรียมทำประตู การศึกษานี้ช่วยเสริมบทบาทของโครงการยึดมั่นออกกำลังกายในการออกแบบโปรแกรมการจัดการความเครียดขององค์กร พนักงานในการออกกำลังกายปกติสำหรับระยะเวลานานกว่า 6 เดือนรับรู้ระดับต่ำสุดของสายงานและควบคุมงานระดับสูง พนักงานที่ไม่ออกกำลังกายสม่ำเสมอ แต่มีการเตรียมการภายใน 30 วัน รับรู้งานควบคุมน้อยลงและความเครียดในงานสูง พนักงานในขั้นตอนการเตรียมอาจต้องช่วยปรับให้เอาชนะอุปสรรคเช่นควบคุมต่ำและความเครียดสูง เพราะการศึกษานี้แสดงให้เห็นว่า สายงานเกี่ยวข้องกับพฤติกรรมการออกกำลังกาย ความพยายามบูรณาการควรจะทำเพื่อลดความเครียดงานพร้อมกัน และเพิ่มความก้าวหน้าผ่านขั้นตอนการออกกำลังกายการเปลี่ยนแปลง

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ความสัมพันธ์ระหว่างขั้นตอนการใช้สิทธิของการเปลี่ยนแปลงและงานตัวแปรความเครียด
โดย Lubonovich พีบี

บทคัดย่อ (สรุป)
ผลอันตรายของความเครียดจากการทำงานมีผลอันตรายเดียวกันกับที่ออกกำลังกายเป็นประจำและมักจะส่งผลกระทบต่อการป้องกัน วัตถุประสงค์ของการศึกษาครั้งนี้คือการใช้ขั้นตอน Prochaska ของแบบจำลองการเปลี่ยนแปลงรูปแบบและความเครียดจากการทำงาน Karasek เพื่อตรวจสอบความสัมพันธ์ระหว่างการรับรู้ตัวแปรความเครียดจากการทำงานและขั้นตอนการออกกำลังกายของการเปลี่ยนแปลง แบบสอบถามได้รับการบริหารให้กับ 905 บริษัท ร่วมขององค์กรที่วัดขั้นตอนการออกกำลังกายของการเปลี่ยนแปลงความเครียดจากการทำงานควบคุมงานมีความต้องการงานและการสนับสนุนทางสังคม อัตราการตอบสนองการสำรวจได้ 62.8% (n = 568) สัดส่วนของผู้เข้าร่วมในแต่ละขั้นตอนมีดังนี้ precontemplation 7% (n = 40), ฌาน 13.7% (n = 78) เตรียม 29.9% (n = 170), การกระทำ 14.4% (n = 82) และการบำรุงรักษา 34.9% ( n = 198) ผู้เข้าร่วมการสะท้อนให้เห็นถึงค่าเฉลี่ยคะแนนเฉลี่ยของประเทศในการควบคุมงานและการสนับสนุนทางสังคม แต่มีความต้องการที่สูงขึ้นในงาน ส่วนใหญ่ของผู้เข้าร่วมเป็นคนผิวขาว (84.5%) ผู้หญิง (68.3%) ใกล้เคียงกับอายุ 40 ปีที่ทำงานประมาณ 42 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ในตำแหน่งที่จัดขึ้นเป็นเวลานานกว่า 6 เดือน ผลการสหสัมพันธ์เพียร์สันชี้ให้เห็นความสัมพันธ์ที่สำคัญระหว่างขั้นตอนการออกกำลังกายของการเปลี่ยนแปลงและการควบคุมทั้งการทำงานและความเครียดจากการทำงาน ในฐานะที่เป็นขั้นตอนการออกกำลังกายของการเปลี่ยนแปลงความก้าวหน้าไปสู่ขั้นตอนการบำรุงรักษาและการควบคุมงานที่เพิ่มขึ้นและความเครียดจากการทำงาน decreased.Women คะแนนอย่างมีนัยสำคัญที่ต่ำกว่าในการควบคุมการทำงานและสูงขึ้นในความเครียดจากการทำงานมากกว่าผู้ชายคะแนน การทดสอบ ANOVA แสดงให้เห็นความแตกต่างอย่างมีนัยสำคัญทั้งในการควบคุมการทำงานและความเครียดจากการทำงานในระดับระหว่างการเตรียมการและการออกกำลังกายการบำรุงรักษาในขั้นตอนของการเปลี่ยนแปลง Maintainers คะแนนที่สูงขึ้นอย่างมีนัยสำคัญในการควบคุมการทำงานและอย่างมีนัยสำคัญลดลงในความเครียดจากการทำงานกว่าจัดทำคะแนน การศึกษาครั้งนี้ตอกย้ำบทบาทของความคิดริเริ่มการออกกำลังกายการยึดมั่นในการออกแบบโปรแกรมการจัดการความเครียดขององค์กร พนักงานมีส่วนร่วมในการออกกำลังกายเป็นประจำในระยะเวลาไม่เกิน 6 เดือนรับรู้ระดับต่ำสุดของความเครียดจากการทำงานและผู้บริหารระดับสูงของการควบคุมงาน พนักงานที่ไม่ได้ออกกำลังกายเป็นประจำ แต่มีการเตรียมการภายใน 30 วันรับรู้การควบคุมงานน้อยลงและความเครียดจากการทำงานที่สูงขึ้น พนักงานในขั้นตอนการเตรียมการอาจต้องการความช่วยเหลือเหมาะกับเอาชนะอุปสรรคเช่นการควบคุมต่ำและความเครียดสูง เนื่องจากการศึกษาครั้งนี้แสดงให้เห็นว่าความเครียดจากการทำงานที่เกี่ยวข้องกับพฤติกรรมการออกกำลังกายความพยายามบูรณาการควรจะทำไปพร้อม ๆ กันลดความเครียดจากการทำงานและเพิ่มความก้าวหน้าผ่านขั้นตอนการออกกำลังกายของการเปลี่ยนแปลง