Cambodia should have sovereignty ov

Cambodia should have sovereignty over disputed land around the Preah Vihear temple on the border with Thailand, the UN's highest court has ruled.

The International Court of Justice in the Hague said Thailand must withdraw any soldiers from the area.

The long-standing rift has previously led to clashes between the two nations, who both lay claim to the land.

A 1962 verdict by the court declared the temple to be Cambodian, but did not rule on the area around it.

Cambodia sought a clarification of the ruling two years ago, after fighting erupted.

Delivering the judgement, Peter Tomka, president of the International Court of Justice, said the court had decided "that Cambodia had sovereignty over the whole territory of the promontory of Preah Vihear".

"In consequence, Thailand was under an obligation to withdraw from that territory the Thai military or police forces or other guards or keepers that were stationed there," he said.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

กัมพูชาควรจะมีอำนาจอธิปไตยเหนือที่ดินพิพาทรอบพระอุโบสถพระวิหารที่ชายแดนกับประเทศไทย, ศาลสูงสุดของสหประชาชาติได้ปกครอง.

ศาลยุติธรรมระหว่างประเทศที่กรุงเฮกกล่าวว่าไทยต้องถอนทหารออกจากพื้นที่.

ยาว ยืนแตกแยกก่อนหน้านี้ได้นำไปสู่​​การปะทะกันระหว่างประเทศทั้งสองที่ทั้งสองเรียกร้องไปยังดินแดน.

1962 คำตัดสินจากศาลประกาศวัดจะกัมพูชา แต่ไม่ได้ปกครองพื้นที่รอบ ๆ .

กัมพูชาพยายามที่ชัดเจนของการพิจารณาคดีสองปีที่ผ่านมาหลังจากที่การต่อสู้ปะทุขึ้น

ส่งมอบการตัดสินปีเตอร์ Tomka ประธานของศาลระหว่างประเทศของความยุติธรรมกล่าวว่าศาลได้ตัดสินใจ "ที่กัมพูชามีอำนาจอธิปไตยเหนือดินแดนทั้งหมดของแหลมของเขาพระวิหาร"

"ผลในประเทศไทยอยู่ภายใต้ภาระที่จะต้องถอนตัวออกจากดินแดนที่ทหารไทยหรือกองกำลังตำรวจหรือเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยอื่น ๆ หรือยามเฝ้าประตูที่ถูกประจำการที่นั่น" เขากล่าว.

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

กัมพูชามีอำนาจอธิปไตยเหนือแผ่นดินมีข้อโต้แย้งสถานวัดวิหารบนชายแดนกับประเทศไทย ศาลสูงสุดของสหประชาชาติได้ปกครอง

นานาชาติศาลยุติธรรมในเดอะเฮกกล่าวว่า ไทยต้องถอนทหารใด ๆ จากตั้ง

ริฟท์ยาวนานก่อนหน้านี้ได้นำการปะทะกันระหว่างสองประเทศ ซึ่งทั้งสองวางเพื่อแผ่นดิน

คำพิพากษาปี 1962 ศาลประกาศวัดจะ กัมพูชา แต่ไม่ได้ปกครองบริเวณรอบ ๆ มัน

กัมพูชาขอชี้แจงหุสองปีที่ผ่านมา หลังจากการต่อสู้ปะทุ

ส่งการตัดสิน ปีเตอร์ Tomka ประธานาธิบดีนานาชาติศาลยุติธรรม ว่า ศาลได้ตัดสินใจ "ว่า กัมพูชามีอธิปไตยเหนือดินแดนทั้งหมดของ promontory ของวิหาร"

"ในผล ไทยได้ภายใต้ข้อผูกมัดที่จะถอนจากเขตทหารไทย หรือทหารตำรวจ หรือยาม หรืออื่น ๆ ใครที่ได้ที่คุมอยู่มี เขากล่าวว่า .

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

กัมพูชาควรจะมีอำนาจอธิปไตยเหนือดินที่พิพาทกันอยู่โดยรอบปราสาทพระขรรค์ vihear วัดที่อยู่บนเขตแดนกับประเทศไทยศาลสูงสุดของสหประชาชาติที่มีคำพิพากษา.

ระหว่างประเทศที่มีความยุติธรรมในกรุงเฮกบอกว่าประเทศไทยจะต้องถอนทหารออกจากพื้นที่.

รอยแตกยาว - ยืนอยู่ได้นำไปสู่ in Mideast Clashes ระหว่างทั้งสองประเทศที่ทั้งสองอ้างสิทธิในที่ดินที่.

ก่อนหน้านี้ปี 1962 ตามคำพิพากษาของศาลที่ได้ประกาศว่าเป็นวัดที่เป็นชาวกัมพูชาแต่ก็ไม่ได้มีสาเหตุมาจากกฎในบริเวณที่อยู่โดยรอบ.

กัมพูชาพยายามชี้แจงรายละเอียดของคำพิพากษาที่สองปีที่แล้วหลังจากการต่อสู้กับการปะทุขึ้น

การพิพากษาคดีที่ปีเตอร์ tomka กรรมการผู้จัดการใหญ่ของศาลที่มีความยุติธรรมกล่าวว่าศาลได้มีมติ"ที่ประเทศกัมพูชามีอำนาจอธิปไตยเหนือดินแดนทั้งหมดของแหลมของปราสาทพระขรรค์ vihear "

"ที่มีอยู่ในประเทศไทยก็จะส่งผลตาม ภาระ หน้าที่ในการถอนตัวออกจากดินแดนที่กองกำลังทหารหรือตำรวจไทยหรือใบมีดอื่นหรือผู้รักษาประตูที่มีประจำการอยู่มี"