Borobudur, or Barabudur, is a 9th-c

Borobudur, or Barabudur, is a 9th-century Mahayana Buddhist Temple in Magelang, Central Java, Indonesia. The monument consists of six square platforms topped by three circular platforms and is decorated with 2,672 relief panels and 504 Buddha statues.[1] A main dome, located at the center of the top platform, is surrounded by 72 Buddha statues each of which is seated inside a perforated stupa. It is the world’s largest Buddhist temple,[2][3] as well as one of the greatest Buddhist monuments in the world.[4]

Built in the 9th century during the reign of the Sailendra Dynasty, the temple was designed in Javanese Buddhist architecture, which blends the Indonesian indigenous cult of ancestor worship and the Buddhist concept of attaining Nirvana.[4] The temple also demonstrates the influences of Gupta art that reflects India's influence on the region, yet there are enough indigenous scenes and elements incorporated to make Borobudur uniquely Indonesian.[5][6] The monument is both a shrine to the Lord Buddha and a place for Buddhist pilgrimage. The journey for pilgrims begins at the base of the monument and follows a path around the monument and ascends to the top through three levels symbolic of Buddhist cosmology: Kāmadhātu (the world of desire), Rupadhatu (the world of forms) and Arupadhatu (the world of formlessness). The monument guides pilgrims through an extensive system of stairways and corridors with 1,460 narrative relief panels on the walls and the balustrades. Borobudur has the largest and most complete ensemble of Buddhist reliefs in the world.[4]

Evidence suggests Borobudur was constructed in the 9th century and abandoned following the 14th-century decline of Hindu kingdoms in Java and the Javanese conversion to Islam.[7] Worldwide knowledge of its existence was sparked in 1814 by Sir Thomas Stamford Raffles, then the British ruler of Java, who was advised of its location by native Indonesians. Borobudur has since been preserved through several restorations. The largest restoration project was undertaken between 1975 and 1982 by the Indonesian government and UNESCO, following which the monument was listed as a UNESCO World Heritage Site.[4]

Borobudur is still used for pilgrimage; once a year, Buddhists in Indonesia celebrate Vesak at the monument, and Borobudur is Indonesia's single most visited tourist attraction.[8][9][10]

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

โบโรบูเดอร์ หรือ Barabudur มีวัด พุทธ มหายานศตวรรษที่ 9 ในมาเกรัง ชวากลาง อินโดนีเซีย อนุสาวรีย์ประกอบด้วยแพลตฟอร์มตารางที่หกราด ด้วยแพลตฟอร์มกลมสาม และตกแต่ง ด้วยแผงบรรเทา 2,672 และ 504 พระพุทธรูป[1] โดมเป็นหลัก ตั้งอยู่ที่บนแพลตฟอร์ม ล้อมรอบ ด้วยพระพุทธรูป 72 ซึ่งนั่งอยู่ภายในเจดีย์ perforated มันเป็นที่ใหญ่ที่สุดในโลกวัด, [2] [3] เป็นหนึ่งในอนุสรณ์สถานพระพุทธศาสนายิ่งใหญ่ที่สุดในโลก[4]วัดสร้างขึ้นในศตวรรษ 9 ในสมัยราชวงศ์ Sailendra ถูกออกแบบในสถาปัตยกรรมพุทธชวา ซึ่งลัทธิพื้นเมืองอินโดนีเซียบูชาบรรพบุรุษและแนวคิดพุทธศาสนาบรรลุนิพพาน[4] วัดแสดงให้เห็นอิทธิพลของศิลปะกุปตาที่สะท้อนให้เห็นถึงอิทธิพลของอินเดียในภูมิภาคยัง ยังมีพอชนฉากและองค์ประกอบรวมให้โบโรบูเดอร์โดยเฉพาะอินโดนีเซีย[5][6] อนุสาวรีย์เป็นศาลเจ้าทั้งพระพุทธเจ้าและเป็นสถานที่สำหรับจาริกแสวงบุญของชาวพุทธ การเดินทางสำหรับพิลกริมส์เริ่มที่ฐานของอนุสาวรีย์ และตามเส้นทางรอบ ๆ อนุสาวรีย์ และ ascends ไปด้านบนผ่านสัญลักษณ์ของสังสารวัฏสามระดับ: Kāmadhātu (โลกของความปรารถนา), Rupadhatu (โลกของแบบฟอร์ม) และ Arupadhatu (โลกของ formlessness) อนุสาวรีย์แนะนำพิลกริมส์ผ่านระบบ stairways และทางเดิน ด้วย 1,460 บรรเทาบรรยายติดบนผนังและรั้ว โบโรบูเดอร์มีวงดนตรีที่ใหญ่ที่สุด และสมบูรณ์ที่สุดของพุทธ reliefs ในโลก[4]หลักฐานแนะนำโบโรบูเดอร์ถูกสร้างขึ้นในศตวรรษ 9 และต่อการลดลงของศตวรรษที่ 14 อาณาจักรฮินดูใน Java และการแปลงชวาอิสลามที่ถูกทอดทิ้ง[7] ความรู้ทั่วโลกอยู่ที่จุดประกายใน ๑๙๕๗ โดย Sir Thomas สแตมฟอร์ดแรฟเฟิลส์ แล้วอังกฤษเจ้า Java ใครมีคำแนะนำเกี่ยวกับสถานที่ โดยชาวพื้นเมือง โบโรบูเดอร์มีตั้งแต่การรักษาผ่านพระบรม โครงการฟื้นฟูที่ใหญ่ที่สุดถูกดำเนินการระหว่างปี 1975 และปี 1982 โดยรัฐบาลอินโดนีเซียและยูเนสโก อนุสาวรีย์ปรากฏเป็นการชิมรส[4]โบโรบูเดอร์ยังใช้สำหรับการแสวงบุญ ปี พุทธในอินโดนีเซียเฉลิมฉลองวันวิสาขบูชาที่อนุสาวรีย์ และโบโรบูเดอร์เป็นของอินโดนีเซียเดียวที่สุดสถานที่ท่องเที่ยว[8][9][10]

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

โบโรบูโดร์ หรือ บาราบูดูร์ เป็นศตวรรษ วัดพุทธมหายานในมาเกลัง , Central Java , อินโดนีเซีย อนุสาวรีย์ประกอบด้วยหกราดด้วยสามแพลตฟอร์มแพลตฟอร์มสี่เหลี่ยมวงกลมและมีการตกแต่งด้วยรูปปั้นพระพุทธรูปและบรรเทา 1 แผงมี [ 1 ] โดมหลักตั้งอยู่ที่ศูนย์ของแพลตฟอร์มยอดนิยม , ล้อมรอบด้วย 72 พระพุทธรูปแต่ละซึ่งนั่งอยู่ภายในปรางค์ปรุเป็นวัดพุทธที่ใหญ่ที่สุดของโลก [ 2 ] [ 3 ] เป็นหนึ่งในอนุสาวรีย์พระพุทธศาสนาในโลก [ 4 ]

สร้างขึ้นในศตวรรษที่ 9 ในช่วงรัชสมัยของราชวงศ์ไสเลนทรา พระวิหารถูกออกแบบในชวาพุทธสถาปัตยกรรมซึ่งผสมผสานลัทธิบูชาบรรพบุรุษของชาวพื้นเมือง และพุทธบรรลุนิพพาน[ 4 ] วัดยังแสดงให้เห็นถึงอิทธิพลของศิลปะคุปตะ ที่สะท้อนให้เห็นถึงอิทธิพลของอินเดียในภูมิภาคยังมีพอ ฉากและองค์ประกอบพื้นเมืองรวมให้ใน โดยเฉพาะอินโดนีเซีย . [ 5 ] [ 6 ] อนุสาวรีย์เป็นทั้งบูชาพระพุทธเจ้าและได้ใช้เป็นสถานที่แสวงบุญชาวพุทธ .การเดินทางของผู้แสวงบุญ เริ่มที่ฐานของอนุสาวรีย์และตามเส้นทางรอบอนุสาวรีย์ และขึ้นสู่ด้านบนผ่านสามระดับสัญลักษณ์แห่งพุทธจักรวาลวิทยา : K madh อุบาสกอุบาสก TU ( โลกแห่งความปรารถนา ) รูปธาตุ ( โลกของฟอร์ม ) และ arupadhatu ( โลกของ formlessness ) อนุสาวรีย์คู่มือผู้แสวงบุญผ่านระบบที่กว้างขวางของบันไดและทางเดินกับ 1460 การบรรเทาแผงบนผนังและรั้ว . ที่ใหญ่ที่สุดและสมบูรณ์ที่สุดใน มีวงดนตรีของพุทธ reliefs ในโลก [ 4 ]

มีหลักฐาน Borobudur ถูกสร้างขึ้นในศตวรรษที่ 9 และถูกทอดทิ้งตามความเสื่อมของอาณาจักรในศตวรรษที่ 14 ฮินดูชวาชวาและการแปลงของศาสนาอิสลาม[ 7 ] ทั่วโลกความรู้ของการดำรงอยู่ของมันถูก sparked โดยเซอร์โทมัสสแตมฟอร์ดแรฟเฟิลส์ 1814 แล้วผู้ปกครองของอังกฤษใน Java , ใครทราบสถานที่โดยพื้นเมืองอินโดนีเซีย . บรมพุทโธได้รับตั้งแต่รักษาผ่านหลายคืนค่า โครงการฟื้นฟูที่ใหญ่ที่สุดคือเนินระหว่างปี 1975 และ 1982 โดยรัฐบาลอินโดนีเซีย และยูเนสโกต่อไปนี้ที่อนุสาวรีย์ได้จดทะเบียนเป็นมรดกโลก [ 4 ]

รอบยังใช้สำหรับธุดงค์เมื่อปี ชาวพุทธในประเทศอินโดนีเซียฉลองวันวิสาขบูชาที่อนุสาวรีย์ ในอินโดนีเซีย และเป็นเพียงสถานที่ท่องเที่ยวเข้าชมมากที่สุด [ 8 ] [ 9 ] [ 10 ]