the environment, Malaysia ratified

the environment, Malaysia ratified the Kyoto Protocol on 4th September, 2002.
However, it is worth highlighting that, in 1967, Malaysia enacted the Petroleum Taxation through which tax is imposed on income earned from the winning of petroleum. Specifically, winning of petroleum refers to any mineral oil or relative hydro- carbon and natural gas existing in its natural condition and casing head petroleum spirit. Years later, Malaysia introduced the 1974 Environmental Quality Act to show their concern in protecting the environmental quality. Although this tax was initially imposed to gain revenue, it can also be seen as the first step taken by the Malaysian government to address issues relating to the environment. Globally, countries are looking at the best ways to show their concern regarding environmental hazards, which are the result of development activities. The imposition of carbon tax, green tax, energy tax and petroleum tax are some of the methods used to reduce environmental damage. For instance, carbon tax is imposed on the carbon content of goods or directly on the emissions of greenhouse gases, which is one of the alternatives to lower the level of pollution produced by the industries ([1]). In addition, carbon tax is paid on the consumption of energy products, such as fuel, or on each extracted fossil fuel ([2–4]). Despite having different names, these taxes have been introduced for the purpose of overcoming the negative impact resulting from the use of non-environmental products and services.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

สิ่งแวดล้อม มาเลเซียให้สัตยาบันต่อพิธีสารเกียวโต 4 กันยายน 2545อย่างไรก็ตาม มันคุ้มค่าเน้นที่ ในปี 1967 มาเลเซียประกาศใช้ภาษีปิโตรเลียมที่ซึ่งเก็บภาษีจากรายได้ที่ได้รับจากการชนะของปิโตรเลียม เฉพาะ ชนะของปิโตรเลียมหมายถึงน้ำมันแร่ หรือญาติไฮโดรคาร์บอน และก๊าซธรรมชาติที่มีอยู่ในสภาพธรรมชาติ และท่อปิโตรเลียมหัววิญญาณใด ๆ ปีต่อมา มาเลเซียแนะนำการกระทำคุณภาพสิ่งแวดล้อมปี 1974 เพื่อแสดงความกังวลของพวกเขาในการปกป้องคุณภาพสิ่งแวดล้อม แม้ว่าภาษีนี้ถูกกำหนดในเบื้องต้นจะได้รับรายได้ มันสามารถยังถูกมองว่าเป็นขั้นตอนแรกนำ โดยรัฐบาลมาเลเซียในการแก้ไขปัญหาที่เกี่ยวข้องกับสิ่งแวดล้อม ทั่วโลก ประเทศกำลังต้องการแสดงความกังวลเกี่ยวกับสภาพแวดล้อม ซึ่งเป็นผลจากกิจกรรมการพัฒนา การจัดเก็บภาษีของภาษีคาร์บอน สีเขียว พลังงานภาษี และภาษีปิโตรเลียมเป็นตัวอย่างของวิธีการใช้เพื่อลดความเสียหายด้านสิ่งแวดล้อม เช่น คาร์บอนเก็บภาษีคาร์บอนของสินค้า หรือ ในการปล่อยก๊าซเรือนกระจก ซึ่งเป็นหนึ่งในทางเลือกสำหรับลดระดับของมลภาวะที่ผลิต โดยอุตสาหกรรม ([1]) นอกจากนี้ จ่ายภาษีคาร์บอน ในการบริโภคของผลิตภัณฑ์พลังงาน เช่นเชื้อเพลิง หรือเชื้อเพลิงฟอสซิลแต่ละแยก ([2-4]) แม้จะมีชื่อแตกต่างกัน ภาษีเหล่านี้ได้ถูกนำมาใช้เพื่อวัตถุประสงค์ในการเอาชนะผลกระทบเชิงลบที่เกิดจากการใช้ผลิตภัณฑ์ที่ไม่ใช่สิ่งแวดล้อมและบริการ

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

สภาพแวดล้อมที่มาเลเซียให้สัตยาบันพิธีสารเกียวโตในวันที่ 4 กันยายน 2002
แต่ก็เป็นมูลค่าการเน้นว่าในปี 1967 มาเลเซียตราปิโตรเลียมจัดเก็บภาษีผ่านทางที่จะเรียกเก็บภาษีจากเงินได้ที่ได้รับจากการชนะปิโตรเลียม โดยเฉพาะที่ชนะปิโตรเลียมหมายถึงน้ำมันแร่หรือคาร์บอน hydro- ญาติและก๊าซธรรมชาติที่มีอยู่ในสภาพธรรมชาติและจิตวิญญาณหัวท่อปิโตรเลียม ปีต่อมามาเลเซียแนะนำพระราชบัญญัติคุณภาพสิ่งแวดล้อม 1974 ที่จะแสดงความกังวลของพวกเขาในการปกป้องและรักษาคุณภาพสิ่งแวดล้อม แม้ว่าภาษีนี้ถูกบังคับครั้งแรกที่จะได้รับรายได้ก็ยังสามารถมองเห็นเป็นขั้นตอนแรกที่ดำเนินการโดยรัฐบาลมาเลเซียในการแก้ไขปัญหาที่เกี่ยวข้องกับสิ่งแวดล้อม ทั่วโลกประเทศกำลังมองหาวิธีที่ดีที่สุดที่จะแสดงความกังวลของพวกเขาเกี่ยวกับอันตรายต่อสิ่งแวดล้อมซึ่งเป็นผลมาจากกิจกรรมการพัฒนา จัดเก็บภาษีของภาษีคาร์บอนภาษีสีเขียวภาษีพลังงานและภาษีปิโตรเลียมคือบางส่วนของวิธีการที่ใช้ในการลดความเสียหายด้านสิ่งแวดล้อม ยกตัวอย่างเช่นการเก็บภาษีคาร์บอนจะเรียกเก็บในปริมาณคาร์บอนของสินค้าหรือโดยตรงในการปล่อยก๊าซเรือนกระจกซึ่งเป็นหนึ่งในทางเลือกในการลดระดับของมลพิษที่ผลิตโดยอุตสาหกรรมที่ ([1]) นอกจากนี้การเก็บภาษีคาร์บอนเป็นค่าใช้จ่ายในการบริโภคของผลิตภัณฑ์พลังงานเช่นน้ำมันหรือเชื้อเพลิงฟอสซิลแต่ละสกัด ([2-4]) แม้จะมีชื่อที่แตกต่างกันภาษีเหล่านี้ได้รับการแนะนำสำหรับวัตถุประสงค์ของการเอาชนะผลกระทบเชิงลบที่เกิดจากการใช้งานของผลิตภัณฑ์และบริการที่ไม่ใช่สิ่งแวดล้อม

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

สิ่งแวดล้อมประเทศมาเลเซียให้สัตยาบันพิธีสารเกียวโตเมื่อวันที่ 4 กันยายน 2545อย่างไรก็ตาม , มันมีค่าที่เน้นว่าใน 1967 , มาเลเซียบัญญัติปิโตรเลียม ภาษีอากร ซึ่งภาษีจะถูกกำหนดรายได้จากการชนะของปิโตรเลียม โดยเฉพาะ ชนะปิโตรเลียม หมายถึง แร่ น้ำมัน หรือน้ำใด ๆญาติ คาร์บอน และก๊าซธรรมชาติที่มีอยู่ในเงื่อนไขของธรรมชาติ และปลอกหัววิญญาณปิโตรเลียม ปีต่อมา มาเลเซียนำพระราชบัญญัติ 1974 คุณภาพสิ่งแวดล้อมแสดงความกังวลของพวกเขาในการปกป้องคุณภาพของสิ่งแวดล้อม แม้ว่าภาษีนี้ตอนแรกที่กำหนดเพื่อรับรายได้ ก็จะเห็นเป็นขั้นตอนแรกที่ถ่ายโดยรัฐบาลมาเลเซีย เพื่อแก้ไขปัญหาที่เกี่ยวข้องกับสิ่งแวดล้อม ทั่วโลก , ประเทศกำลังมองหาวิธีที่ดีที่สุดที่จะแสดงความกังวลของพวกเขาเกี่ยวกับอันตรายต่อสิ่งแวดล้อม ซึ่งผลของกิจกรรมการพัฒนา การจัดเก็บภาษี , ภาษีคาร์บอนสีเขียว , พลังงานและภาษีและภาษีปิโตรเลียมคือบางส่วนของวิธีการที่ใช้เพื่อลดความเสียหายด้านสิ่งแวดล้อม ตัวอย่างเช่นภาษีคาร์บอนได้กำหนดปริมาณคาร์บอนของสินค้าหรือโดยตรงในการปล่อยก๊าซเรือนกระจก ซึ่งเป็นหนึ่งในทางเลือกที่จะลดระดับของมลพิษที่ผลิตโดยอุตสาหกรรม ( [ 1 ] ) นอกจากนี้ภาษีคาร์บอนจ่ายในการบริโภคสินค้าพลังงาน เช่น น้ำมัน หรือในแต่ละสกัดเชื้อเพลิงซากดึกดําบรรพ์ ( 2 ) [ 4 ] ) แม้จะมีชื่อที่แตกต่างกันภาษีเหล่านี้ได้รับการแนะนำเพื่อวัตถุประสงค์ในการเอาชนะผลกระทบเชิงลบที่เกิดจากการใช้ผลิตภัณฑ์ด้านสิ่งแวดล้อมองค์กรและการบริการ