Auger electron spectroscopy (AES; p

Auger electron spectroscopy (AES; pronounced [oʒe] in French) is a common analytical technique used specifically in the study of surfaces and, more generally, in the area of materials science. Underlying the spectroscopic technique is the Auger effect, as it has come to be called, which is based on the analysis of energetic electrons emitted from an excited atom after a series of internal relaxation events. The Auger effect was discovered independently by both Lise Meitner and Pierre Auger in the 1920s. Though the discovery was made by Meitner and initially reported in the journal Zeitschrift für Physik in 1922, Auger is credited with the discovery in most of the scientific community.[1] Until the early 1950s Auger transitions were considered nuisance effects by spectroscopists, not containing much relevant material information, but studied so as to explain anomalies in x-ray spectroscopy data. Since 1953 however, AES has become a practical and straightforward characterization technique for probing chemical and compositional surface environments and has found applications in metallurgy, gas-phase chemistry, and throughout the microelectronics industry.[2][3][4][5]

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

มิกอิเล็กตรอนสว่าน (AES ออกเสียง [oʒe] ในภาษาฝรั่งเศส) คือ เทคนิควิเคราะห์ทั่วไปใช้โดยเฉพาะ ในการศึกษาพื้นผิว และ ขึ้นโดยทั่วไป ในส่วนของวัสดุศาสตร์ พื้นฐานด้านเทคนิคเป็นผลสว่าน มันมาเรียก ซึ่งเป็นไปตามการวิเคราะห์พลังอิเล็กตรอนออกจากอะตอมตื่นเต้นหลังจากเหตุการณ์วุ่นวายภายในชุด ผลสว่านถูกค้นพบอย่างอิสระ โดย Lise Meitner และ Pierre สว่านในปี 1920 แม้ว่าการค้นพบโดย Meitner และเริ่มรายงานในภัณฑ์ Zeitschrift สมุด Physik ใน 1922 สว่านเป็นเครดิตกับการค้นพบในชุมชนวิทยาศาสตร์ [1] จนถึงช่วงต้นทศวรรษ 1950 เปลี่ยนสว่านได้พิจารณาผลรำคาญ โดย spectroscopists ไม่ประกอบด้วยข้อมูลมากวัสดุที่เกี่ยวข้อง แต่ศึกษาเพื่ออธิบายสิ่งผิดวิสัยใน x-ray มิกข้อมูล ในปี 1953 แต่ AES ได้กลายเป็น เทคนิคจำแนกลักษณะจริง และตรงไปตรงมาสำหรับสภาพแวดล้อมเคมี และ compositional ผิวละเอียด และพบงาน โลหะ เคมีระยะที่ก๊าซ และทั่ว ทั้งอุตสาหกรรมไมโครอิเล็กทรอนิกส์ [2] [3] [4] [5]

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

สว่านอิเล็กตรอนสเปกโทรสโก (AES; เด่นชัด [oʒe] ในภาษาฝรั่งเศส) เป็นเทคนิคการวิเคราะห์ทั่วไปที่ใช้เฉพาะในการศึกษาของพื้นผิวและอื่น ๆ โดยทั่วไปในพื้นที่ของวัสดุวิทยาศาสตร์ อ้างอิงเทคนิคสเปกโทรสโกเป็นผล Auger ตามที่ได้มาจะเรียกว่าซึ่งจะขึ้นอยู่กับการวิเคราะห์ของอิเล็กตรอนพลังออกมาจากอะตอมตื่นเต้นหลังจากที่ชุดของเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นภายในการพักผ่อนที่ ผล Auger ถูกค้นพบโดยอิสระโดยทั้ง Lise Meitner และปิแอร์สว่านในปี ค.ศ. 1920 แม้ว่าการค้นพบได้โดย Meitner แรกและรายงานในวารสาร Zeitschrift ขนสิคในปี 1922 Auger จะให้เครดิตกับการค้นพบในส่วนของชุมชนทางวิทยาศาสตร์. [1] จนกระทั่งในช่วงต้นปี 1950 เปลี่ยนสว่านได้รับการพิจารณาผลกระทบรำคาญโดย spectroscopists ไม่ได้มี ข้อมูลสำคัญที่เกี่ยวข้องมาก แต่การศึกษาเพื่อที่จะอธิบายความผิดปกติในข้อมูลสเปกโทรสโกเอ็กซ์เรย์ ตั้งแต่ปี 1953 แต่ AES ได้กลายเป็นเทคนิคลักษณะการปฏิบัติและตรงไปตรงมาสำหรับการพิสูจน์ทางเคมีและพื้นผิว compositional สภาพแวดล้อมและได้พบว่าการใช้งานในโลหะผสมก๊าซเฟสเคมีและทั่วทั้งอุตสาหกรรมไมโครอิเล็กทรอนิกส์. [2] [3] [4] [5]

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

สว่านอิเล็กตรอนสเปกโทรสโกปี ( AES ; ออกเสียง [ O ] ʒ e ในภาษาฝรั่งเศส ) เป็นเทคนิคที่ใช้เฉพาะในการร่วมกันศึกษาและพื้นผิวโดยทั่วไปในพื้นที่ของวัสดุศาสตร์ พื้นฐานเทคนิคสเปกโทรสโกปีเป็นสว่านผล มันจึงถูกเรียกว่า ซึ่งจากการวิเคราะห์ของพลังอิเล็กตรอนออกมาจากอะตอมตื่นเต้นหลังจากที่ชุดของกิจกรรมการพักผ่อนภายใน auger ผลถูกค้นพบโดยอิสระทั้งลิซ ไมท์เนอร์และ Pierre auger ในปี ค.ศ. 1920 แม้ว่าการค้นพบโดย ไมท์เนอร์และเริ่มรายงานในวารสาร zeitschrift f ü r physik ในปี 1922 Auger เป็นเครดิตกับการค้นพบในส่วนใหญ่ของชุมชนวิทยาศาสตร์ [ 1 ] จนกระทั่งต้นยุคเกอร์เปลี่ยนรบกวนผลพิจารณา โดย spectroscopists ไม่ประกอบด้วยข้อมูลที่เกี่ยวข้องมาก แต่เรียนเพื่ออธิบายถึงความผิดปกติใน X-ray spectroscopy ข้อมูล ตั้งแต่ปี 1953 และ AES ได้กลายเป็นจริงและเทคนิค การตรวจสอบสารเคมีและสภาพแวดล้อมที่ตรงไปตรงมาสำหรับผิว ส่วนประกอบ และได้พบการประยุกต์ใช้ในวิศวกรรมโลห เคมี แก๊ส และทั่วทั้งอุตสาหกรรมไมโครอิเล็กทรอนิกส์ [ 2 ] [ 3 ] [ 4 ] [ 5 ]