Introduction "It is well-known that

Introduction

"It is well-known that matter exists in three forms: solid, liquid and gas."

I picked this quotation from an NCERT textbook for grade XI, but I could have picked a different textbook, and found a similar statement there. It seems clear and uncontroversial enough, and has been repeated many times. What I would like to do in this lecture is to re-examine critically this commonly-accepted wisdom. In the process, we will learn something about the different states of matter.

However, telling you more about properties of solids, or liquids, or gases is not my main aim. What I really want to do is to impress upon you not to accept any such statement without thought. In fact, if you bother to think for 5 minutes, all of you can realize that it is not fully correct. The student should be able to think for himself/herself, and ask if the matter being taught is correct or incorrect. And if it is correct, to what extent? So that is my real aim. But we will do it by example, by discussing states of matter.

Let us start by asking why is it that there are three states of matter. It is a question like: Why do we live in three-dimensional space? Why there are three generations of quarks? and so on. And with a bit of thought, you will realize that the correct answer in this case is that states of matter is a classification scheme, like filing cabinets. There are a lot of materials, and we choose the grouping scheme that is most convenient. Other possible classification schemes could be alphabetical (e.g. in a dictionary), or based on some common properties (zoological classification of different animal species) or some mixture of these (e.g. books in a library). Materials can be classified based on color, or electrical properties, or whether they are organic or inorganic, or conductors or insulators, etc. All these classification schemes are useful, and are used when convenient.

Once we recognize the fact that different states of matter are like filing cabinets, the number of cabinets is purely a matter of convenience. One can always divide a class into smaller classes, or merge smaller classes into a bigger class. So, the number of different states of matter is not a deep question at all: it is whatever we want it to be.

Sometimes this sort of discussion ends up being a discussion about words, i.e. what is the dictionary definition of solid, liquid and gas? We are not discussing words. We are discussing the ideas behind the words. You may say, "Oh, this is a colloquial word. It doesn't have a very precise meaning". But lots of colloquial words have been adapted with precise meanings in science. Words like force, work, pressure, in ordinary language, can mean a lot of different things. For example, you can speak forcefully, or apply political pressure. However, in science, the meaning has been restricted to something quite specific, and you can quantify it as so many Newtons etc. So we would expect that even a common word like 'solid' can be given a specific meaning in science. Can we do that? And when we do that, what does it mean?

Let me clarify at the outset that 'states' of matter is not the same as 'phases' of matter. So you can have magnets, for example, and if you heat them, they become non-magnetic. There is a phase transition from magnetized phase to non-magnetized phase, but it remains a solid throughout. So you have a change of phase but not a change of state. So the 'state' of matter is a more general notion than 'phases' of matter and we are not going to discuss the latter. Also, we will restrict our discussion to simple materials. Things like salads are complicated and not the same everywhere: different parts are different. We are going to discuss only the simpler homogeneous matter.


The rest of the lecture is organized as follows. First we will discuss classification schemes. Then I will argue why liquid and gases should be treated as one state of matter. Then, we will look at differences between solids and fluids, and discuss different possible definitions of solids. I shall then discuss materials which are different from both solids and fluids, and are better treated as a separate state of matter. For lack of time, I will discuss only one of these, namely powders, and mention some of their unusual properties. And finally summarize our discussion.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

แนะนำ "เป็นที่ทราบกันดีว่า เรื่องที่มีอยู่ในสามรูปแบบ: ของแข็ง ของเหลว และก๊าซ" ฉันเลือกใบเสนอราคานี้จากตำราการ NCERT สำหรับเกรด XI แต่ฉันสามารถได้รับตำราแตกต่างกัน และพบคำที่คล้ายกันมี จะดูเหมือนชัดเจน และ uncontroversial พอ และมีการทำซ้ำหลายครั้ง สิ่งที่อยากจะทำนี้คือการ ตรวจสอบอีกครั้งถึงภูมิปัญญานี้ยอมรับกันทั่วไป ในกระบวนการ เราจะเรียนรู้บางอย่างเกี่ยวกับสถานะต่าง ๆ ของสสาร อย่างไรก็ตาม บอกข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับคุณสมบัติ ของของ แข็ง หรือของเหลว ก๊าซไม่ได้จุดมุ่งหมายหลักของฉัน คือผมอยากจะทำคือการ สร้างความประทับใจเมื่อคุณไม่ยอมรับคำสั่งดังกล่าวโดยไม่คิด ในความเป็นจริง ถ้าคุณรำคาญคิด 5 นาที คุณสามารถรู้ว่า มันไม่ถูกต้องครบถ้วน นักเรียนควรจะสามารถที่จะคิดเอง และถามว่า เรื่องการสอนที่ถูกต้อง หรือไม่ถูกต้อง และ ถ้าถูกต้อง ระดับใด เพื่อให้เป็นจุดมุ่งหมายที่แท้จริงของฉัน แต่เราจะทำตามตัวอย่าง โดยพูดถึงสถานะของสสาร ให้เราเริ่มต้น ด้วยการถามทำไมเป็นมันที่มีอยู่สามสถานะของสสาร คำถามเช่น: ทำไมเราอยู่ในอวกาศ 3 มิติ เหตุผลที่มีควาร์กสามรุ่น และอื่น ๆ และ มีบิตของความคิด คุณจะรู้ว่า คำตอบที่ถูกต้องในกรณีนี้คือสถานะของสสาร ประเภทแบบ เช่นตู้เก็บเอกสาร มีจำนวนมากวัสดุ และเราเลือกการจัดกลุ่มแบบที่สะดวกสุด แผนการจัดประเภทเป็นไปได้อื่น ๆ อาจเป็นตัวอักษร (เช่นในพจนานุกรม), หรือตามคุณสมบัติทั่วไปบางอย่าง (สัตว์ประเภทสัตว์สายพันธุ์) หรือส่วนผสมบางอย่างของเหล่านี้ (เช่นหนังสือในห้องสมุด) วัสดุสามารถจำแนกตามสี หรือตามคุณสมบัติทางไฟฟ้า หรือว่ามีสารอินทรีย์ หรือ อนินทรีย์ หรือตัวนำ หรือฉนวนกันความร้อน ฯลฯ แผนการจัดประเภทเหล่านี้ทั้งหมดมีประโยชน์ และจะใช้เมื่อสะดวก เมื่อเรารู้จักความจริงที่มีสถานะแตกต่างกันของเรื่องเช่นตู้เก็บเอกสาร หมายเลขของตู้จะจดเรื่องของความสะดวกสบาย หนึ่งสามารถสามารถแบ่งระดับชั้นเรียนขนาดเล็ก หรือผสานชั้นใหญ่ชั้นเรียนขนาดเล็ก จำนวนของสถานะต่าง ๆ ของสสารจึงไม่ถามลึกทั้งหมด: มันเป็นสิ่งที่เราต้องการจะ บางครั้งการสนทนาแบบนี้สิ้นสุดขึ้นเป็นการสนทนาเกี่ยวกับคำ เช่นอะไรคือนิยามในพจนานุกรมของแข็ง ของเหลว และก๊าซ เราไม่ได้กำลังอภิปรายคำ เราจะอภิปรายแนวคำ คุณอาจพูดว่า "โอ้ นี่เป็นคำพูด มันไม่มีความแม่นยำมาก" แต่คำศัพท์สำเนียงดัด ด้วยความหมายแม่นยำในวิทยาศาสตร์ คำแรง ทำงาน ความ ดัน ในภาษาธรรมดา อาจหมายถึง มีความแตกต่างกัน ตัวอย่างเช่น คุณสามารถพูดประ หรือแรงทางการเมือง อย่างไรก็ตาม วิทยาศาสตร์ ความหมายจำกัดบางสิ่งบางอย่างที่ค่อนข้างเฉพาะเจาะจง และคุณสามารถกำหนดปริมาณเป็นจำนวนมาก Newtons ฯลฯ ดังนั้น เราจะคาดหวังว่า แม้คำทั่วไปเช่น 'แข็ง' สามารถให้ความหมายเฉพาะในวิทยาศาสตร์ เราทำอย่างไร และเมื่อเราทำเช่นนั้น มันคืออะไร ผมขอชี้แจงว่า สถานะของสสารจะไม่เหมือนกับขั้นตอนของเรื่องแรก เช่น ดังนั้น คุณสามารถมีแม่เหล็ก และถ้าคุณร้อน พวกเขาจะกลายเป็นไม่ใช่แม่เหล็ก มีการเปลี่ยนเฟสจากสเปรย์ระยะระยะที่สนามแม่เหล็กไม่ใช่ แต่ยังคงแข็งตลอด ดังนั้นคุณมีการเปลี่ยนแปลงของระยะแต่ไม่มีการเปลี่ยนแปลงของรัฐ ดังนั้น 'สถานะ' ของเรื่องคือ ความคิดทั่วไปกว่าขั้นตอนของเรื่อง และเราจะไม่ไปปรึกษาหลัง ยัง เราจะจำกัดการสนทนาของเราเรียบง่ายวัสดุ เช่นสลัดมีความซับซ้อนและไม่เหมือนกันทุกที่: ส่วนต่าง ๆ แตกต่างกัน เราจะหารือเฉพาะเรื่องเหมือนง่าย ส่วนเหลือของการบรรยายจัดเป็นดังนี้ ครั้งแรก เราจะหารือเกี่ยวกับแผนงานการจัดประเภท แล้วผมจะเถียงทำไมของเหลว และก๊าซควรจะถือเป็นสถานะหนึ่งของสสาร เราจะดูที่ความแตกต่างระหว่างของแข็งและของเหลว แล้วอธิบายคำจำกัดความได้แตกต่างกันของของแข็ง แล้วฉันจะหารือเกี่ยวกับวัสดุซึ่งแตกต่างจากของแข็งและของเหลว และดีถือว่าเป็นการแบ่งแยกของเรื่อง ขาดเวลา ผมจะพูดถึงเพียงหนึ่งเหล่านี้ คือผง และพูดถึงบางส่วนของคุณสมบัติผิดปกติ และสุดท้าย สรุปอภิปรายของเรา

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

บทนำ"มันเป็นที่รู้จักกันดีว่าที่มีอยู่ในสามรูปแบบ:. ของแข็งของเหลวและก๊าซ" ฉันหยิบคำพูดนี้จากตำรา NCERT สำหรับเกรด XI แต่ฉันจะได้หยิบตำราเรียนที่แตกต่างกันและพบว่ามีคำสั่งที่คล้ายกัน ดูเหมือนว่าชัดเจนและไม่มีปัญหาพอและได้รับการทำซ้ำหลายครั้ง สิ่งที่ฉันต้องการจะทำในการบรรยายนี้คือการตรวจสอบอีกครั้งอย่างยิ่งนี้ภูมิปัญญาทั่วไปได้รับการยอมรับ ในการที่เราจะได้เรียนรู้บางสิ่งบางอย่างเกี่ยวกับรัฐที่แตกต่างของเรื่อง. แต่บอกคุณเกี่ยวกับคุณสมบัติของของแข็งหรือของเหลวหรือก๊าซไม่ได้เป็นจุดมุ่งหมายหลักของฉัน สิ่งที่ผมต้องการจะทำคือการสร้างความประทับใจเมื่อคุณจะไม่ยอมรับคำสั่งดังกล่าวโดยไม่ต้องคิด ในความเป็นจริงถ้าคุณรำคาญที่จะคิดว่าเป็นเวลา 5 นาทีทุกท่านสามารถรู้ว่ามันไม่ถูกต้องอย่างเต็มที่ นักเรียนควรจะสามารถที่จะคิดว่าตัวเอง / ตัวเองและถามว่าเรื่องนี้ได้รับการสอนที่ถูกต้องหรือไม่ถูกต้อง และถ้ามันเป็นที่ถูกต้องกับสิ่งที่ขอบเขต? เพื่อให้เป็นจุดมุ่งหมายที่แท้จริงของผม แต่เราจะทำมันด้วยตัวอย่างเช่นโดยการอภิปรายสถานะ. ให้เราเริ่มต้นด้วยการถามว่าทำไมมันเป็นว่ามีสามสถานะ มันเป็นคำถามที่ชอบ: ทำไมเราอาศัยอยู่ในพื้นที่สามมิติ? เหตุผลที่มีสามรุ่นของควาร์ก? เป็นต้น และมีบิตของความคิดคุณจะรู้ว่าคำตอบที่ถูกต้องในกรณีนี้ก็คือว่าสถานะเป็นโครงการประเภทเช่นตู้เก็บเอกสาร มีจำนวนมากของวัสดุและเราเลือกรูปแบบการจัดกลุ่มที่สะดวกที่สุด รูปแบบการจัดหมวดหมู่อื่น ๆ ที่เป็นไปได้อาจจะเป็นตัวอักษร (เช่นในพจนานุกรม) หรือขึ้นอยู่กับคุณสมบัติบางอย่างที่พบบ่อย (จำแนกสัตว์ของสัตว์ชนิดที่แตกต่างกัน) หรือส่วนผสมของเหล่านี้บางคน (เช่นหนังสือในห้องสมุด) วัสดุที่สามารถแยกตามสีหรือคุณสมบัติทางไฟฟ้าหรือไม่ว่าจะเป็นอินทรีย์หรืออนินทรีหรือตัวนำหรือฉนวน ฯลฯ ทั้งหมดนี้รูปแบบการจัดหมวดหมู่ที่มีประโยชน์และมีการใช้เมื่อสะดวก. เมื่อเรายอมรับความจริงที่ว่ารัฐที่แตกต่างของเรื่อง เป็นเหมือนตู้เก็บเอกสารจำนวนของตู้เป็นอย่างหมดจดเรื่องของความสะดวก หนึ่งสามารถแบ่งชั้นเรียนในชั้นเรียนขนาดเล็กหรือผสานชั้นเรียนมีขนาดเล็กลงในระดับที่ใหญ่กว่า ดังนั้นจำนวนของรัฐที่แตกต่างกันในเรื่องที่ไม่ได้เป็นคำถามลึกที่ทั้งหมด: มันเป็นสิ่งที่เราต้องการให้เป็น. บางครั้งการจัดเรียงของการสนทนานี้สิ้นสุดขึ้นเป็นการอภิปรายเกี่ยวกับคำพูดคือสิ่งที่เป็นความหมายในพจนานุกรมที่เป็นของแข็งของเหลวและ แก๊ส? เราไม่ได้คุยกันเรื่องคำพูด เรากำลังพูดถึงความคิดที่อยู่เบื้องหลังคำว่า คุณอาจจะพูดว่า "โอ้นี่เป็นคำภาษา. มันไม่ได้มีความหมายที่แม่นยำมาก" แต่จำนวนมากของคำภาษาได้รับการปรับที่มีความหมายได้อย่างแม่นยำในด้านวิทยาศาสตร์ คำเช่นแรงการทำงาน, ความดัน, ในภาษาสามัญอาจหมายถึงจำนวนมากของสิ่งที่แตกต่างกัน ตัวอย่างเช่นคุณสามารถพูดอย่างแข็งขันหรือใช้แรงกดดันทางการเมือง อย่างไรก็ตามในสาขาวิทยาศาสตร์ความหมายได้ถูก จำกัด ให้บางสิ่งบางอย่างที่เฉพาะเจาะจงมากและคุณสามารถวัดปริมาณเป็นนิวตันจำนวนมาก ฯลฯ ดังนั้นเราจะคาดหวังว่าแม้แต่คำที่เหมือนกันเช่น 'แข็ง' จะได้รับความหมายเฉพาะในด้านวิทยาศาสตร์ เราสามารถทำเช่นนั้น? และเมื่อเราทำอย่างนั้นมันหมายความว่าอะไร? ผมขอชี้แจงในตอนแรกว่า 'รัฐ' ของเรื่องไม่ได้เป็นเช่นเดียวกับ 'ขั้นตอน' ของเรื่อง ดังนั้นคุณสามารถมีแม่เหล็กสำหรับตัวอย่างและถ้าคุณใช้ความร้อนพวกเขาพวกเขากลายเป็นไม่ใช่แม่เหล็ก มีการเปลี่ยนเฟสจากเฟสเฟสแม่เหล็กจะไม่ใช่แม่เหล็ก แต่มันก็ยังคงเป็นของแข็งตลอด เพื่อให้คุณมีการเปลี่ยนแปลงของเฟส แต่ไม่การเปลี่ยนแปลงของรัฐ ดังนั้น 'รัฐ' ของเรื่องเป็นความคิดที่ทั่วไปมากกว่า 'ขั้นตอน' ของเรื่องและเราจะไม่ได้ไปเพื่อหารือเกี่ยวกับหลัง นอกจากนี้เรายังจะ จำกัด การสนทนาของเรากับวัสดุที่เรียบง่าย สิ่งที่ต้องการสลัดมีความซับซ้อนและไม่เหมือนกันทุกชิ้นส่วนที่แตกต่างกันจะแตกต่างกัน เราจะไปพูดคุยเฉพาะเรื่องที่เป็นเนื้อเดียวกันง่าย. ส่วนที่เหลือของการบรรยายมีการจัดระเบียบดังต่อไปนี้ ครั้งแรกที่เราจะหารือเกี่ยวกับแผนการจัดหมวดหมู่ แล้วฉันจะเถียงว่าทำไมของเหลวและก๊าซควรจะถือว่าเป็นรัฐหนึ่งของเรื่อง จากนั้นเราจะดูที่ความแตกต่างระหว่างของแข็งและของเหลวและหารือเกี่ยวกับคำนิยามที่แตกต่างกันของของแข็ง แล้วฉันจะหารือวัสดุที่แตกต่างจากทั้งของแข็งและของเหลวและได้รับการปฏิบัติที่ดีกว่าเป็นรัฐที่แยกต่างหากจากเรื่อง สำหรับการขาดเวลาผมจะหารือเพียงหนึ่งในจำนวนนี้คือผงและพูดถึงบางส่วนของคุณสมบัติที่ผิดปกติของพวกเขา และในที่สุดก็สรุปการสนทนาของเรา

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

แนะนำ" มันเป็น ที่รู้จักกันดี ที่สำคัญมีอยู่ 3 รูปแบบ : ของแข็ง ของเหลว และแก๊ส”ฉันเลือกใบเสนอราคาจาก NCERT หนังสือเกรดซี แต่ผมก็เลือกหนังสือที่แตกต่างกัน และพบว่า งบที่คล้ายกันมี ดูเหมือนที่ชัดเจนและ uncontroversial เพียงพอ และมีการทำซ้ำหลายๆ ครั้ง สิ่งที่ฉันต้องการจะทำในการบรรยายครั้งนี้เป็นวิกฤตนี้ที่ยอมรับกันทั่วไปที่จะตรวจสอบปัญญา . ในการที่เราจะได้เรียนรู้บางอย่างเกี่ยวกับรัฐต่าง ๆ ของเรื่องแต่จะบอกคุณเพิ่มเติมเกี่ยวกับสมบัติของของแข็ง หรือ ของเหลว หรือก๊าซ ไม่ใช่เป้าหมายหลักของฉัน สิ่งที่ฉันต้องการทำคือการสร้างความประทับใจเมื่อคุณไม่ได้รับคําสั่งดังกล่าว โดยไม่คิด ในความเป็นจริงถ้าคุณยุ่งคิด 5 นาที ทุกคนก็ตระหนักว่ามันไม่ได้เป็นอย่างที่ถูกต้อง นักเรียนสามารถคิดเอง และถามว่าเรื่องการสอนที่ถูกต้อง หรือ ไม่ถูกต้อง และถ้ามันถูกต้อง สิ่งที่ขอบเขต ? ดังนั้น นั่นคือจุดประสงค์ที่แท้จริงของฉัน แต่เราจะทำ เป็นตัวอย่าง โดยการอภิปรายรัฐของสสารให้เราเริ่มต้นด้วยการถามว่า ทำไมมันมี 3 รัฐสำคัญ มันเป็นคำถาม เช่น ทำไมเราอยู่ในสามมิติอวกาศ ทำไมมีสามรุ่นของควาร์ก ? และอื่น ๆ และมีบิตของความคิด คุณจะตระหนักว่า คำตอบที่ถูกต้องที่สุดในกรณีนี้คือสถานะของสสารมีการจำแนกโครงร่างเหมือนตู้เก็บเอกสาร . มีมากของวัสดุที่เราเลือกใช้แบบที่สะดวกที่สุด รูปแบบหมวดหมู่ที่เป็นไปได้อื่น ๆอาจจะเรียงตามตัวอักษร ( เช่นในพจนานุกรม หรือตามคุณสมบัติทั่วไป ( ประเภทของสัตว์ชนิดต่างๆใน ) หรือส่วนผสมของเหล่านี้ ( เช่นในหนังสือห้องสมุด ) วัสดุสามารถจำแนกตามสี หรือคุณสมบัติทางไฟฟ้า หรือ ว่าพวกเขาเป็นอินทรีย์หรืออนินทรีย์ หรือตัวนำและฉนวน , ฯลฯ ทั้งหมดเหล่านี้หมวดหมู่โครงการที่มีประโยชน์ และใช้สะดวกเมื่อเรารับรู้ความจริงที่ว่า รัฐต่าง ๆ ของเรื่องเหมือนตู้เก็บเอกสาร , หมายเลขของตู้เป็นอย่างหมดจดเรื่องของความสะดวกสบาย หนึ่งเสมอสามารถแบ่งคลาสเรียนขนาดเล็ก หรือผสานชั้นเรียนขนาดเล็กลงในระดับที่ใหญ่กว่า ดังนั้น จำนวนของสถานะที่แตกต่างกันของวัตถุไม่ใช่คำถามลึกเลย เป็นสิ่งที่เราอยากให้เป็นบางครั้งการจัดเรียงนี้ของการสนทนาจบลงด้วยการอภิปรายเกี่ยวกับคำ เช่น อะไรคือพจนานุกรมคำนิยามของ ของแข็ง ของเหลว และก๊าซ เราจะไม่พูดคำ เรากำลังพูดถึงความคิดที่อยู่เบื้องหลังคำพูด คุณอาจจะพูดว่า " โอ้ นี่เป็นคำภาษาพูด . มันไม่มีความหมาย " ชัดเจนมาก แต่หลายคำคำได้รับการดัดแปลงกับแม่นยำความหมายในวิทยาศาสตร์ คำพูดแรง ทำงาน แรงดันในภาษาสามัญ หมายความได้หลายอย่าง ตัวอย่างเช่น คุณสามารถพูดบังคับ หรือกดดันทางการเมือง อย่างไรก็ตาม ในด้านวิทยาศาสตร์ ความหมาย ได้ถูกจำกัดอย่างเฉพาะเจาะจงมากและคุณสามารถหาเป็นจำนวนมากดังนั้นนิวตัน ฯลฯ ดังนั้นเราก็คาดหวังว่าแม้สามัญว่า ' แข็ง ' สามารถให้ความหมายเฉพาะในวิทยาศาสตร์ เราสามารถทำอะไรได้บ้าง ? และเมื่อเราทำเช่นนั้น มันหมายถึงอะไรผมขอชี้แจงเริ่มแรกที่ ' อเมริกา ' ของเรื่องไม่เหมือน ' ระยะ ' ของเรื่อง เพื่อให้คุณสามารถมีแม่เหล็ก , ตัวอย่างเช่น , ถ้าคุณ ความร้อนนั้น ก็กลายเป็นแม่เหล็ก . มีการเปลี่ยนเฟสจากเฟสแม่เหล็กแม่เหล็กไม่เฟส แต่ก็ยังคงแข็งตลอด ดังนั้นคุณต้องเปลี่ยนเฟส แต่ไม่มีการเปลี่ยนแปลงของรัฐ ดังนั้น ' รัฐ ' ของเรื่องความคิดทั่วไปมากกว่า ' ระยะ ' ของเรื่องและเราจะไม่หารือเกี่ยวกับหลัง เราก็จะ จำกัด การสนทนาของเรากับวัสดุที่เรียบง่าย สิ่งที่ชอบสลัดที่ซับซ้อนและไม่เหมือนทุกที่ ส่วนต่าง ๆ ที่แตกต่างกัน เราจะกล่าวถึงเพียงง่ายเป็นเนื้อเดียวกันก็ตามส่วนที่เหลือของการบรรยายจะจัดดังนี้ ก่อนจะกล่าวถึงการจำแนกโครงร่าง งั้นผมจะเถียงทำไม ของเหลว และก๊าซ ควรถือว่าเป็นรัฐหนึ่งของเรื่อง งั้น เรามาดูความแตกต่างระหว่างของแข็งและของเหลว และอภิปรายต่าง ๆเป็นไปได้คำนิยามของของแข็ง ผมจะหารือเกี่ยวกับวัสดุที่แตกต่างจากทั้งของแข็งและของเหลว และดีกว่าถือว่าเป็นแยกรัฐของสสาร ไม่มีเวลา ผมจะกล่าวถึงเพียงหนึ่งของเหล่านี้ ได้แก่ ผง และกล่าวถึงบางส่วนของคุณสมบัติที่ผิดปกติของพวกเขา และในที่สุดก็สรุปการสนทนาของเรา