Summary This qualitative study aims

Summary This qualitative study aims to explore the perceptions of nurses in nursing homes
about signs of stroke and their experiences with older residents who are at a high risk for stroke.
Data were collected through in-depth interviews with 31 nurses from 11 nursing homes in South
Korea. Data were analyzed concurrently with data collection through inductive content analysis.
The findings consisted of three themes: (1) maximizing experiential knowledge: classifying and
comparing in daily work; (2) minimizing further severe cerebral damage: detecting something
strange; and (3) perceiving barriers to caring for older residents with stroke. The nurses used
their clinical experience and personal history, and maximized their knowledge to identify highrisk
residents and recognize the onset of stroke. Through continuous monitoring, they became
aware of subtle changes in the condition of older residents with an underlying illness. After
timely recognition, prompt transfer to an emergency department was important to minimize
serious damage with evidence-based hyperacute treatment. Nurses highlighted that linking
with family members might be important for them to understand nurses’ actions and accept
emergency situations. However, the nurses perceived limited resources and lack of authority as
barriers to stroke care. Poor knowledge about subtle symptoms was also a substantial barrier
to stroke care. Understanding the nurses’ perceptions may be an initial step toward developing
well-defined clinical protocols of effective stroke care in nursing homes.
© 2015 Australian College of Nursing Ltd. Published by Elsevier Ltd.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

สรุปการศึกษาเชิงคุณภาพนี้มีจุดมุ่งหมายเพื่อสำรวจการรับรู้ของพยาบาลในสถานพยาบาลเกี่ยวกับสัญญาณของโรคหลอดเลือดสมองและประสบการณ์ของพวกเขากับคนเก่า ที่จะมีความเสี่ยงสูงสำหรับโรคหลอดเลือดสมองข้อมูลถูกรวบรวมผ่านการสัมภาษณ์เชิงลึกกับพยาบาล 31 จากพยาบาล 11 ในภาคใต้เกาหลี ข้อมูลมาวิเคราะห์พร้อมกันกับการเก็บรวบรวมข้อมูลด้วยการวิเคราะห์เนื้อหาแบบเหนี่ยวนำผลการวิจัยประกอบด้วยชุดรูปแบบที่สาม: ความรู้ประสบการณ์มากที่สุด (1): ประเภท และเปรียบเทียบในงานประจำวัน (2) ลดการเสียหายสมองรุนแรง: ตรวจหาบางสิ่งบางอย่างแปลก และ (3) เข้าใจอุปสรรคการดูแลที่อยู่อาศัยเก่าลาย พยาบาลที่ใช้ประสบการณ์ทางคลินิกและประวัติส่วนตัว และขยายความรู้เพื่อระบุ highriskผู้อยู่อาศัย และรู้จักสมองขาดเลือด ผ่านการตรวจสอบอย่างต่อเนื่อง พวกเขากลายเป็นตระหนักถึงการเปลี่ยนแปลงสภาพของผู้อยู่อาศัยเก่ากับความเจ็บป่วยพื้นฐานลึกซึ้ง หลังจากการรู้เวลาที่เหมาะสม แจ้งโอนไปที่แผนกฉุกเฉินเป็นสิ่งสำคัญเพื่อลดความเสียหายร้ายแรงกับการรักษาตามหลักฐาน hyperacute พยาบาลที่เน้นการเชื่อมโยงที่กับสมาชิกในครอบครัวอาจจะสำคัญสำหรับพวกเขาเพื่อดำเนินการพยาบาลเข้าใจ และยอมรับสถานการณ์ฉุกเฉิน อย่างไรก็ตาม พยาบาลมองเห็นทรัพยากรที่จำกัดและขาดอำนาจเป็นอุปสรรคในการดูแลโรคหลอดเลือดสมอง รู้ลึกซึ้งอาการไม่ดีก็ยังพบอุปสรรคการดูแลโรคหลอดเลือดสมอง เข้าใจรับรู้ของพยาบาลอาจจะเป็นขั้นตอนแรกไปสู่การพัฒนาโพรโทคอทางคลินิกที่ชัดเจนของการดูแลโรคหลอดเลือดสมองที่มีประสิทธิภาพในสถานพยาบาล© 2015 ออสเตรเลียจำกัดวิทยาลัยพยาบาลเผยแพร่ โดย Elsevier จำกัด

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

สรุปการศึกษาเชิงคุณภาพมีวัตถุประสงค์เพื่อสำรวจการรับรู้ของพยาบาลในการพยาบาล
เกี่ยวกับอาการของโรคหลอดเลือดสมองและประสบการณ์ของพวกเขากับประชาชนที่มีอายุมากกว่าผู้ที่มีความเสี่ยงสูงสำหรับโรคหลอดเลือดสมอง.
เก็บข้อมูลผ่านการสัมภาษณ์ในเชิงลึกกับ 31 พยาบาลจาก 11 สถานพยาบาลในภาคใต้
เกาหลี. วิเคราะห์ข้อมูลพร้อมกับการเก็บรวบรวมข้อมูลโดยการวิเคราะห์เนื้อหาอุปนัย.
ผลการวิจัยประกอบด้วยสามรูปแบบคือ (1) การเพิ่มความรู้ประสบการณ์: การจำแนกและ
การเปรียบเทียบในการทำงานในชีวิตประจำวัน (2) การลดความเสียหายต่อสมองอย่างรุนแรง: การตรวจสอบสิ่งที่
แปลก และ (3) การรับรู้อุปสรรคในการดูแลผู้สูงอายุที่มีผู้อยู่อาศัยจังหวะ พยาบาลใช้
ประสบการณ์ทางคลินิกของพวกเขาและประวัติส่วนตัวและขยายความรู้ของพวกเขาในการระบุ highrisk
อยู่อาศัยและการรับรู้ที่เริ่มมีอาการของโรคหลอดเลือดสมอง ผ่านการตรวจสอบอย่างต่อเนื่องพวกเขากลายเป็น
ตระหนักถึงการเปลี่ยนแปลงที่ลึกซึ้งในสภาพของผู้อยู่อาศัยเก่าที่มีการเจ็บป่วยพื้นฐาน หลังจากที่
ได้รับการยอมรับในเวลาที่เหมาะสม, การถ่ายโอนแจ้งให้แผนกฉุกเฉินเป็นสิ่งสำคัญที่จะลด
ความเสียหายอย่างร้ายแรงกับการรักษา hyperacute ตามหลักฐาน พยาบาลที่ไฮไลต์ที่เชื่อมโยง
กับสมาชิกในครอบครัวอาจจะสำคัญสำหรับพวกเขาที่จะเข้าใจการกระทำของพยาบาลและยอมรับ
สถานการณ์ฉุกเฉิน อย่างไรก็ตามพยาบาลการรับรู้และการขาดทรัพยากรของผู้มีอำนาจ จำกัด เป็น
อุปสรรคในการดูแลโรคหลอดเลือดสมอง ความรู้เกี่ยวกับอาการแย่ลึกซึ้งก็ยังเป็นอุปสรรคสำคัญ
ในการดูแลโรคหลอดเลือดสมอง ทำความเข้าใจเกี่ยวกับการรับรู้ของพยาบาลอาจจะเป็นขั้นตอนแรกที่มีต่อการพัฒนา
โปรโตคอลทางคลินิกที่ดีที่กำหนดของการดูแลโรคหลอดเลือดสมองที่มีประสิทธิภาพในบ้านพยาบาล.
© 2015 ออสเตรเลียวิทยาลัยพยาบาล จำกัด เผยแพร่โดยเอลส์ จำกัด

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

สรุป การศึกษาเชิงคุณภาพนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาการรับรู้ของพยาบาลในบ้านพยาบาลเกี่ยวกับสัญญาณของโรคหลอดเลือดสมองและประสบการณ์ของผู้ที่มีอายุมากกว่าผู้ซึ่งมีความเสี่ยงสูงสำหรับโรคหลอดเลือดสมองเก็บรวบรวมข้อมูลโดยการสัมภาษณ์เชิงลึกกับ 31 พยาบาลจาก 11 บ้านพยาบาลในภาคใต้เกาหลี วิเคราะห์ข้อมูลไปพร้อม ๆ กับการรวบรวมข้อมูลผ่านการวิเคราะห์อุปนัยผลการวิจัยแบ่งออกเป็น 3 รูปแบบ ได้แก่ ( 1 ) การแยกและความรู้ประสบการณ์การเปรียบเทียบในการทำงานทุกวัน ( 2 ) ลดความเสียหายต่อสมอง : การตรวจหาบางอย่างรุนแรงแปลก และ ( 3 ) การรับรู้อุปสรรคต่อการดูแลผู้สูงอายุที่มีจังหวะ พยาบาลที่ใช้ประสบการณ์ทางคลินิกและประวัติส่วนบุคคลของพวกเขาและขยายความรู้เพื่อระบุ highriskผู้อยู่อาศัยและจำเริ่มมีอาการของโรคหลอดเลือดสมอง ผ่านการตรวจสอบอย่างต่อเนื่อง พวกเขาเป็นตระหนักถึงการเปลี่ยนแปลงที่ลึกซึ้งในเงื่อนไขของผู้สูงอายุที่มีพื้นฐานการเจ็บป่วย หลังจากการรับรู้ทันเวลา พร้อมโอนไปยังแผนกฉุกเฉิน เป็นสิ่งสำคัญเพื่อลดความเสียหายร้ายแรงกับ hyperacute รักษาตามหลักฐาน . พยาบาลเน้นที่การเชื่อมโยงกับสมาชิกในครอบครัวอาจจะสำคัญสำหรับพวกเขาที่จะเข้าใจการกระทำของพยาบาล และยอมรับสถานการณ์ฉุกเฉิน อย่างไรก็ตาม พยาบาลทรัพยากรที่ จำกัด และขาดอำนาจ เช่นอุปสรรคของการดูแลโรคหลอดเลือดสมอง ความรู้เกี่ยวกับอาการบอบบางน่าสงสารก็เป็นอุปสรรคอย่างมากstroke แล ความเข้าใจการรับรู้ของพยาบาลอาจจะเริ่มต้นก้าวสู่การพัฒนาซึ่งโปรโตคอลของประสิทธิภาพการดูแลคลินิกโรคหลอดเลือดสมองในบ้านพยาบาลสงวนลิขสิทธิ์ 2015 ออสเตรเลียวิทยาลัยพยาบาล จำกัด จัดพิมพ์โดย บริษัท จำกัด