Their breeding habitat is large str

Their breeding habitat is large stretches of deciduous forest, especially with oaks, across eastern North America. They can occur, with varying degrees of success, in young successional woodlands and occasionally in extensive plantings of shade trees in suburban areas, parks, and cemeteries. For a viable breeding population, at least 10 to 12 hectares of forest are required.[5][6] In winter, scarlet tanagers occur in the montane forest of the Andean foothills. Scarlet tanagers migrate to northwestern South America, passing through Central America around April, and again around October.[7] They begin arriving in the breeding grounds in numbers by about May and already start to move south again in mid-summer; by early October they are all on their way south.[8][9] The bird is an extremely rare vagrant to western Europe.

Scarlet tanagers are often out of sight, foraging high in trees, sometimes flying out to catch insects in flight and then returning to the same general perch, in a hunting style known as "sallying". Sometimes, however, they will also capture their prey on the forest floor. They eat mainly insects, and will opportunistically consume fruit when plentiful. Any flying variety of insect will readily be taken when common, such as bees, wasps, hornets, ants, and sawflies; moths and butterflies; beetles; flies; cicadas, leafhoppers, spittlebugs, treehoppers, plant lice, and scale insects; termites; grasshoppers and locusts; dragonflies; and dobsonflies. Scarlet tanagers also takes snails, earthworms and spiders. While summer tanagers are famous for this feeding method, when capturing bees, wasps and hornets, scarlet tanagers also rake the prey against a branch in order to remove their stingers before consumption.[10] Plant components of their diet consists of a wide variety of fruits that eaten mainly when insects are at population lows including: blackberries (Rubus allegheniensis), raspberries (R. ideaus), huckleberries (Gaylussacia sp.), juneberries and serviceberries (Amelanchier spp.), mulberries (Morus rubra), strawberries (Fragaria virginiana), and chokeberries (Aronia melanocarpa).[11][12]

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

อยู่อาศัยเพาะพันธุ์ของพวกเขาเป็นพื้นที่ขนาดใหญ่ของป่าผลัดใบ โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับโอ๊ค ข้ามทวีปอเมริกาเหนือภาคตะวันออก พวกเขาสามารถเกิดขึ้นได้ มีองศาที่แตกต่างของความสำเร็จ ในวู้ดแลนด์ successional หนุ่ม และบางครั้ง ใน plantings กว้างขวางต้นไม้ร่มเงาในพื้นที่ชานเมือง สวนสาธารณะ และ cemeteries น้อย 10-12 เฮคเตอร์ของป่าไม่จำเป็นสำหรับประชากรพันธุ์ทำงานได้ [5] [6] ในฤดูหนาว tanagers สีแดงเกิดขึ้นในป่าของตีน Andean montane สีแดง tanagers ย้ายไปอเมริกาใต้ตะวันตกเฉียงเหนือ ผ่านทวีปอเมริกาเมษายน และอีก รอบเดือนตุลาคม [7] เขาเริ่มเข้ามาผสมพันธุ์จากตัวเลขโดยเกี่ยวกับพฤษภาคม และเริ่มต้นแล้วไปใต้ในฤดูร้อนกลาง โดยช่วงต้นเดือนตุลาคม จะอยู่บนทางใต้ทั้งหมด [8] [9] นก vagrant เป็นน้อยมากกับยุโรปตะวันตกได้สีแดง tanagers มีมักตา ของขวัญ ต้นไม้สูงบางครั้งบินออกไปจับแมลงในเที่ยวบินและจากนั้น กลับไปเดียวทั่วไปปลากะพง แบบล่าสัตว์ที่เรียกว่า "sallying" บางครั้ง อย่างไรก็ตาม พวกเขาจะยังจับเหยื่อของพวกเขาบนพื้นป่า พวกเขากินแมลงส่วนใหญ่ และ opportunistically จะใช้ผลไม้เมื่อเรา หลากหลายการบินของแมลงจะพร้อมจะดำเนิน ทั่วไป เช่นผึ้ง wasps, hornets มด sawflies moths และผีเสื้อ ด้วง แมลงวัน cicadas เพลี้ย spittlebugs, treehoppers เหาพืช และ แมลงขนาด ปลวก grasshoppers และฝูงตั๊กแตน แมลงปอ และ dobsonflies Tanagers สีแดงใช้หอย ไส้เดือน และแมงมุม ในขณะที่ฤดูร้อน tanagers เรื่องนี้อาหารวิธี เมื่อจับผึ้ง wasps และ hornets, tanagers สีแดง rake เหยื่อกับสาขายังเพื่อเอา stingers ตนก่อนการใช้ [10] พืชส่วนประกอบของอาหารของพวกเขาประกอบด้วยความหลากหลายของผลไม้ที่กินส่วนใหญ่เมื่อแมลงต่ำประชากรรวม: blackberries (Rubus allegheniensis), ราสเบอร์รี่ (R. ideaus), huckleberries (Gaylussacia sp.), juneberries และ serviceberries (Amelanchier โอ), mulberries (Morus rubra), สตรอเบอร์รี่ (Fragaria virginiana), และ chokeberries (Aronia melanocarpa) [11] [12]

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ที่อยู่อาศัยของพวกเขาคือการปรับปรุงพันธุ์เหยียดขนาดใหญ่ของป่าโดยเฉพาะอย่างยิ่งกับต้นโอ๊กทั่วภาคตะวันออกของทวีปอเมริกา พวกเขาสามารถเกิดขึ้นได้กับองศาที่แตกต่างของความสำเร็จในป่าต่อเนื่องหนุ่มสาวและบางครั้งในการปลูกต้นไม้ที่กว้างขวางของเฉดสีในพื้นที่ชานเมืองสวนสาธารณะและสุสาน สำหรับประชากรพันธุ์ที่ทำงานได้อย่างน้อย 10 ถึง 12 เฮกตาร์ของป่าจะต้อง. [5] [6] ในฤดูหนาว tanagers สีแดงเกิดขึ้นในป่าภูเขาของเชิงเขาแอนเดียน tanagers สีแดงย้ายไปทางตะวันตกเฉียงเหนือของทวีปอเมริกาใต้ผ่านอเมริกากลางประมาณเดือนเมษายนและอีกครั้งรอบตุลาคม [7] พวกเขาเริ่มเข้ามาในพื้นที่เพาะพันธุ์ในจำนวนประมาณเดือนพฤษภาคมและเริ่มต้นแล้วที่จะย้ายไปทางทิศใต้อีกครั้งในช่วงกลางฤดูร้อน. โดยช่วงต้นเดือนตุลาคมที่พวกเขาทั้งหมดในทางของพวกเขาทางตอนใต้. [8] [9] นกเป็นคนจรจัดที่หายากมากที่จะยุโรปตะวันตก. tanagers สีแดงมักจะออกจากสายตาหาอาหารที่สูงในต้นไม้บางครั้งบินออกไปจับแมลงในการบินและ จากนั้นกลับไปที่คอนทั่วไปเดียวกันในรูปแบบการล่าสัตว์ที่เรียกว่า "sallying" บางครั้งพวกเขายังจะจับเหยื่อของพวกเขาในพื้นป่า พวกเขาส่วนใหญ่กินแมลงและมีโอกาสจะใช้ผลไม้ที่อุดมสมบูรณ์เมื่อ ใด ๆ ที่หลากหลายของแมลงบินพร้อมที่จะต้องดำเนินการเมื่อทั่วไปเช่นผึ้งตัวต่อแตนมดและ sawflies; และผีเสื้อ; ด้วง; บิน; จักจั่นเพลี้ยจักจั่น, spittlebugs, treehoppers เหาพืชและแมลงขนาด; ปลวก; ตั๊กแตนและตั๊กแตน; แมลงปอ; และ dobsonflies สีแดง tanagers ยังใช้หอยทากไส้เดือนและแมงมุม ในขณะที่ tanagers ช่วงฤดูร้อนที่มีชื่อเสียงสำหรับวิธีการป้อนนี้เมื่อจับผึ้งแตนและแตน tanagers สีแดงเข้มยังเสาะหาเหยื่อกับสาขาเพื่อที่จะเอาตอมของพวกเขาก่อนบริโภค. [10] ส่วนประกอบพืชอาหารของพวกเขาประกอบด้วยความหลากหลายของ ผลไม้ที่กินส่วนใหญ่เมื่อแมลงที่ระดับต่ำสุดของประชากรรวมไปถึง: (. Gaylussacia SP) แบล็ก (บัส allegheniensis), ราสเบอร์รี่ (อาร์ ideaus) วุ่น, juneberries และ serviceberries (เอสพีพี Amelanchier.) mulberries (Morus rubra) สตรอเบอร์รี่ (Fragaria virginiana) และ chokeberries (Aronia melanocarpa). [11] [12]