Tourism has become a popular global

Tourism has become a popular global leisure activity. Tourism can be domestic or international, and international tourism has both incoming and outgoing implications on a country's balance of payments. Today, tourism is a major source of income for many countries, and affects the economy of both the source and host countries, in some cases being of vital importance.

Tourism suffered as a result of a strong economic slowdown of the late-2000s recession, between the second half of 2008 and the end of 2009, and the outbreak of the H1N1 influenza virus.[2][3] It then slowly recovered, with international tourist arrivals surpassing the milestone of 1 billion tourists globally for first time in history in 2012.[4] International tourism receipts (the travel item in the balance of payments) grew to US$1.03 trillion (€740 billion) in 2011, corresponding to an increase in real terms of 3.8% from 2010.[5] In 2012, China became the largest spender in international tourism globally with US$102 billion, surpassing Germany and United States. China and emerging markets have significantly increased their spending over the past decade, with Russia and Brazil as noteworthy examples.[6]

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ท่องเที่ยวได้กลายเป็น กิจกรรมยอดนิยมท่องโลก สามารถท่องเที่ยวในประเทศ หรือต่างประเทศ และท่องเที่ยวระหว่างประเทศมีผลกระทบทั้งขาเข้า และขาออกการชำระเงินของยอดดุลของประเทศ วันนี้ การท่องเที่ยวเป็นแหล่งสำคัญของรายได้ประเทศ และมีผลกระทบต่อเศรษฐกิจประเทศทั้งต้นทางและโฮสต์ ในบางกรณีของหัวใจท่องเที่ยวที่รับความเดือดร้อนจากการชะลอตัวของเศรษฐกิจแข็งแกร่งของถดถอยสาย 2000s ระหว่างครึ่งหลังของปี 2008 และสิ้นสุดปี 2552 และการระบาดของไวรัสไข้หวัด H1N1[2][3] ได้แล้วช้ากู้ กับ surpassing ไมล์สโตน 1 ล้านนักท่องเที่ยวทั่วโลกครั้งแรกในประวัติศาสตร์ในปี 2012 ที่เข้ามาท่องเที่ยวต่างประเทศ[4] รับท่องเที่ยวระหว่างประเทศ (รายการท่องเที่ยวในการชำระเงินของยอดดุล) เติบโตไปสหรัฐฯ $1.03 ล้านล้าน (€740 พันล้าน) 2011 สอดคล้องกับการเพิ่มขึ้น 3.8% เงื่อนไขจริงจาก 2010[5] ใน 2012 จีนเป็น spender ที่ใหญ่ที่สุดในการท่องเที่ยวระหว่างประเทศทั่วโลกมี 102 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ surpassing ประเทศเยอรมนีและสหรัฐอเมริกา จีนและตลาดเกิดใหม่มีเพิ่มผู้ใช้กว่าทศวรรษ รัสเซียและบราซิลเป็นตัวอย่างที่น่าสนใจ[6]

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

การท่องเที่ยวได้กลายเป็นกิจกรรมเพื่อการพักผ่อนระดับโลกที่ได้รับความนิยม การท่องเที่ยวอาจจะในประเทศหรือต่างประเทศและการท่องเที่ยวระหว่างประเทศที่มีผลกระทบทั้งขาเข้าและขาออกบนความสมดุลของประเทศของการชำระเงิน วันนี้การท่องเที่ยวเป็นแหล่งรายได้หลักของหลายประเทศและมีผลกระทบต่อเศรษฐกิจของทั้งสองแหล่งที่มาและประเทศเจ้าภาพในบางกรณีเป็นสิ่งสำคัญ. การท่องเที่ยวได้รับความเดือดร้อนเป็นผลมาจากการชะลอตัวทางเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งของภาวะเศรษฐกิจถดถอยในช่วงปลายทศวรรษที่ 2000 ระหว่างช่วงครึ่งหลังของปี 2008 และในตอนท้ายของปี 2009 และการระบาดของเชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ H1N1. [2] [3] จากนั้นก็ฟื้นตัวช้ามีจำนวนนักท่องเที่ยวต่างประเทศทะลุหลัก 1 พันล้านนักท่องเที่ยวทั่วโลกเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ใน 2012 [4] รายรับจากการท่องเที่ยวระหว่างประเทศ (รายการเดินทางในสมดุลของการชำระเงิน) ขยายตัวไปยังสหรัฐอเมริกา $ 1030000000000 (€ 740,000,000,000) ในปี 2011 สอดคล้องกับการเพิ่มขึ้นในแง่จริง 3.8% จากปี 2010 [5] ในปี 2012, จีนกลายเป็นอะไรต่อมิอะไรที่ใหญ่ที่สุดในการท่องเที่ยวระหว่างประเทศทั่วโลกที่มี US $ 102 พันล้านดอลลาร์แซงหน้าเยอรมนีและสหรัฐอเมริกา ประเทศจีนและตลาดเกิดใหม่ได้เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญการใช้จ่ายของพวกเขาในช่วงทศวรรษที่ผ่านมากับรัสเซียและบราซิลเป็นตัวอย่างที่น่าสนใจ. [6]

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

การท่องเที่ยวได้กลายเป็นกิจกรรมสันทนาการโลกนิยม การท่องเที่ยวจะเป็นภายในประเทศ หรือระหว่างประเทศ และการท่องเที่ยวระหว่างประเทศมีทั้งขาเข้าและขาออก ผลกระทบต่อประเทศของดุลการชําระเงิน วันนี้ การท่องเที่ยวเป็นแหล่งรายได้หลักของหลายประเทศ และมีผลต่อเศรษฐกิจของประเทศ ทั้งแหล่งที่มาและโฮสต์ ในบางกรณีเป็น

ที่สำคัญยิ่งการท่องเที่ยวได้รับความเดือดร้อนเป็นผลมาจากการชะลอตัวทางเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งของ 2000 - สายเศรษฐกิจ ระหว่างช่วงครึ่งหลังของปี 2551 และการสิ้นสุดของปี 2009 และการระบาดของไวรัสไข้หวัดใหญ่ H1N1 [ 2 ] [ 3 ] มันก็ค่อยๆหาย กับนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เหนือกว่าขั้น 1 ล้านนักท่องเที่ยวทั่วโลกสำหรับครั้งแรกในประวัติศาสตร์ ใน 2012[ 4 ] ใบเสร็จรับเงินการท่องเที่ยวนานาชาติ ( เดินทางรายการในดุลการชําระเงิน ) เพิ่มขึ้น US $ 1.03 ล้านล้านบาท ( จ่าย 740 พันล้าน ) ใน 2011 , การเพิ่มขึ้นที่สอดคล้องกันในแง่จริง 3.8 % จากปี 2010 [ 5 ] ใน 2012 , จีนกลายเป็น spender ใหญ่ที่สุดในการท่องเที่ยวระหว่างประเทศทั่วโลกกับ US $ 102 ล้านบาท เหนือกว่า เยอรมัน และสหรัฐอเมริกาตลาดจีน และตลาดเกิดใหม่ได้เพิ่มขึ้นการใช้จ่ายของพวกเขากว่าทศวรรษที่ผ่านมา กับ รัสเซีย และบราซิล เป็นตัวอย่างน่าสังเกต [ 6 ]