There are two main methods of calcu

There are two main methods of calculating VAT: the credit-invoice or invoice-based method and the subtraction or accounts-based method. Using the credit-invoice method, sales transactions are taxed, with the customer informed of the VAT on the transaction, and businesses may receive a credit for VAT paid on input materials and services. The credit-invoice method is the most widely employed method, used by all national VATs except for Japan. Using the subtraction method, at the end of a reporting period, a business calculates the value of all taxable sales then subtracts the sum of all taxable purchases and the VAT rate is applied to the difference. The subtraction method VAT is currently only used by Japan, although subtraction method VATs, often using the name "flat tax", have been part of many recent tax reform proposals by US politicians.[2][3][4] With both methods, there are exceptions in the calculation method for certain goods and transactions, created for either pragmatic collection reasons or to counter tax fraud and avoidance.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

มีสองวิธีหลักของการคำนวณ VAT: เครดิตใบแจ้งหนี้ หรืออินวอยซ์ตามวิธี และลบ หรือบัญชีตามวิธีนี้ ใช้วิธีการเครดิตใบแจ้งหนี้ ธุรกรรมการขายคิด ภาษี กับลูกค้าทราบ VAT ของธุรกรรม และธุรกิจอาจได้รับเครดิตสำหรับ VAT ที่จ่ายดิบและบริการ วิธีอินวอยซ์เครดิตเป็นวิธีการทำงานกันอย่างแพร่หลาย ใช้ถังทุกชาติยกเว้นประเทศญี่ปุ่น ใช้วิธีลบ เมื่อสิ้นสุดรอบระยะเวลารายงาน ธุรกิจคำนวณค่าของการขายทั้งหมด แล้วลบผลรวมของทั้งหมดซื้อที่ต้องเสียภาษี และอัตรา VAT ใช้ความแตกต่าง วิธีลบ VAT อยู่เพียงใช้ญี่ปุ่น แม้ว่าวิธีลบภาชนะขนาดใหญ่ มักจะใช้ชื่อ "แบนภาษี" ได้รับส่วนของหลายล่าภาษีปฏิรูปเสนอโดยนักการเมืองสหรัฐอเมริกา [2] [3] [4] กับทั้งสองวิธี มีข้อยกเว้นในวิธีการคำนวณสำหรับบางสินค้าและธุรกรรม สร้างเหตุผลในทางปฏิบัติชุดใด หรือเคาน์เตอร์โกงภาษีและหลีกเลี่ยง

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

เครดิตใบแจ้งหนี้ใบแจ้งหนี้หรือวิธีการที่ใช้และวิธีการลบหรือบัญชีตาม: มีสองวิธีหลักในการคำนวณภาษีมูลค่าเพิ่ม โดยใช้วิธีการเครดิตใบแจ้งหนี้, การทำธุรกรรมการขายจะเก็บภาษีกับลูกค้าแจ้งภาษีมูลค่าเพิ่มในการทำธุรกรรมและธุรกิจอาจได้รับเครดิตสำหรับภาษีมูลค่าเพิ่มจ่ายเกี่ยวกับวัสดุการป้อนข้อมูลและการบริการ วิธีเครดิตใบแจ้งหนี้จะเป็นวิธีที่นิยมใช้มากที่สุดโดยใช้ถังชาติทั้งหมดยกเว้นญี่ปุ่น โดยใช้วิธีการลบในตอนท้ายของระยะเวลาการรายงานที่ธุรกิจคำนวณมูลค่าการขายที่ต้องเสียภาษีทั้งหมดแล้วหักผลรวมของการซื้อที่ต้องเสียภาษีและอัตราภาษีมูลค่าเพิ่มจะนำไปใช้ที่แตกต่างกัน วิธีการลบภาษีมูลค่าเพิ่มปัจจุบันมีการใช้โดยเฉพาะญี่ปุ่นแม้ว่า VATS วิธีการลบมักจะใช้ชื่อ "ภาษีแบน" ได้เป็นส่วนหนึ่งของหลายข้อเสนอการปฏิรูปภาษีที่ผ่านมาโดยนักการเมืองสหรัฐ. [2] [3] [4] ด้วยวิธีการทั้งสองมีข้อยกเว้นในวิธีการคำนวณสำหรับสินค้าบางอย่างและการทำธุรกรรมที่สร้างขึ้นสำหรับคอลเลกชันทั้งเหตุผลในทางปฏิบัติที่จะตอบโต้หรือโกงภาษีและการหลีกเลี่ยง

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

มีสองวิธีหลักของการคำนวณภาษีมูลค่าเพิ่ม : ใบแจ้งหนี้ตามใบแจ้งหนี้และบัตรเครดิตหรือวิธีการลบหรือบัญชีตามวิธี การใช้บัตรเครดิตใบแจ้งหนี้วิธีรายการขายจะหักภาษีกับลูกค้าแจ้งเรื่องภาษีเกี่ยวกับธุรกรรม และธุรกิจอาจได้รับเครดิตภาษีที่จ่ายในด้านวัสดุและบริการ เครดิตใบแจ้งหนี้เป็นวิธีที่นิยมกัน 3 วิธี โดยใช้ VATS แห่งชาติทั้งหมด ยกเว้นญี่ปุ่น ใช้ลบวิธีที่สิ้นสุดของระยะเวลาการรายงาน ธุรกิจจะคำนวณมูลค่าของการขายที่ต้องเสียภาษีทั้งหมดแล้วหักผลรวมของภาษีซื้อทั้งหมดและภาษีมูลค่าเพิ่มในอัตราที่ใช้กับความแตกต่าง ลบวิธีภาษีมูลค่าเพิ่มเป็นปัจจุบันเท่านั้นที่ใช้โดยญี่ปุ่น แม้ว่าการลบแบบถัง มักจะใช้ชื่อ " ภาษี " แบนที่ได้รับส่วนหนึ่งของข้อเสนอปฏิรูปภาษีล่าสุดมากมาย โดยเรานักการเมือง [ 2 ] [ 3 ] [ 4 ] ด้วยวิธีทั้งสอง มีข้อยกเว้นในการคำนวณสำหรับสินค้าบางอย่าง และธุรกรรม สร้างขึ้นเพื่อให้ปฏิบัติคอลเลกชันหรือเหตุผลเพื่อต่อต้านการโกงภาษี และการหลีกเลี่ยง