2.6 Critique of Balanced ScorecardA

2.6 Critique of Balanced Scorecard
Although there are many advocates and proponents of the BSC, the model and its approach are not free from
criticism. Norreklit (2000) argues that the cause-and-effect relationship between measures from the four
perspectives of BSC which Kaplan and Norton explained (1996a; 1996c), is problematic. The cause and effect
that exist between the four perspectives is measured at the same time and any time lag that might exist is ignored.
The fact that time dimension is not part of the BSC makes the tool problematic. However, the consequences of
the measures will arise at different times, and this is because the consequences of each different area have
different time scales. The BSC should help the businesses to develop and improve the four perspectives at the
same time but the effects will appear at different points of time. For example, when new, more efficient
processes are introduced in the business, they may improve the customer satisfaction within a two months period
but on the other hand financial results may not be affected until few years have passed. Some processes may
show their effects almost immediately whereas others will take much longer to do so. Due to the fact that BSC
does not include the time dimension, it may be problematic and impractical to measure the effect of a new and
complex action. Additionally it is considered to be hard or even not possible for a company to find performance
measures for actions that are new and in effect inexperienced (Norreklit, 2000). Additionally it is argued that, it
is hard to measure the effects in businesses, where innovation is very crucial and significant to their
competitiveness and they regularly have to settle in to new situations (Norreklit, 2000; Schoenfeld, 1991).
Furthermore, the BSC ignores the competition and technological developments which are very important factors
for companies nowadays. Specifically the fact that the BSC does not take into account continuous examination
of the actions of the competitors and of the technological developments, makes the tool to be static instead of
dynamic. Moreover, the BSC has risks which are too rigid because although it measures what the strategy
requires to be set, it does not ask about what may block or cause problems to the strategy. As a result the failure
to identify problems to the strategy will create a gap among the strategic plan and the actual strategy that is
adopted (Norreklit, 2000).
2.7 Conclusion
This section critically evaluates the BSC literature. In particular this section discusses the use of BSC as a
measurement and strategic management system and analyses its four perspectives. Moreover, there is a
discussion about the use of BSC in small companies and a criticism about its efficiency.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

2.6 วิจารณ์ของ Balanced Scorecardแม้ว่ามีสนับสนุนและ proponents บีเอสซี รูปแบบและวิธีการไม่ได้ฟรีจากวิจารณ์ Norreklit (2000) จนว่า ความสัมพันธ์ระหว่างสาเหตุ และผลการประเมินจากสี่มุมมองของบีเอสซีที่ Kaplan และ Norton อธิบาย (1996a; 1996c), จะมีปัญหา เหตุและผลที่มีอยู่ระหว่างสี่มุมมองการวัดเวลาเดียวกัน และละเว้นความล่าช้าใด ๆ เวลาที่อาจมีอยู่ความจริงมิติเวลาที่ไม่ใช่ส่วนของบีเอสซีช่วยให้เครื่องมือมีปัญหา อย่างไรก็ตาม ผลกระทบของมาตรการจะเกิดขึ้นในเวลาที่แตกต่างกัน และเนื่องจากผลกระทบของแต่ละพื้นที่แตกต่างกันได้เครื่องชั่งน้ำหนักเวลาอื่น บีเอสซีจะช่วยให้ธุรกิจพัฒนา และปรับปรุงมุมมองที่สี่เวลาเดียวกันแต่ผลจะปรากฏจุดแตกต่างของเวลา อย่าง ใหม่ มีประสิทธิภาพมากขึ้นกระบวนนำมาใช้ในธุรกิจ พวกเขาอาจปรับปรุงความพึงพอใจลูกค้าภายในระยะเวลาสองเดือนแต่ในทางกลับกัน ผลอาจไม่ได้รับผลกระทบจนไม่กี่ปีแล้ว กระบวนการบางอย่างอาจแสดงผลของพวกเขาเกือบจะทันทีในขณะที่ผู้อื่นจะใช้เวลานานกว่าที่จะทำ เนื่องจากว่าบีเอสซีรวมมิติเวลา มันอาจจะมีปัญหา และไม่สามารถทำการวัดผลของใหม่ และการดำเนินการที่ซับซ้อน นอกจากนี้ก็ถือว่าหนัก หรือแม้กระทั่งไม่ได้สำหรับบริษัทเพื่อหาประสิทธิภาพมาตรการในการดำเนินการที่ใหม่และผลมือใหม่ (Norreklit, 2000) นอกจากนี้มันจะโต้เถียงว่า มันยากที่จะวัดผลธุรกิจ นวัตกรรมสำคัญมาก และสำคัญกับพวกเขาแข่งขันและพวกเขาเป็นประจำต้องจ่ายในกับสถานการณ์ใหม่ (Norreklit, 2000 Schoenfeld, 1991)นอกจากนี้ บีเอสซีละเว้นการแข่งขันและพัฒนาเทคโนโลยีซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญมากสำหรับบริษัทปัจจุบัน โดยเฉพาะความจริงที่บีเอสซีไม่มีในบัญชีตรวจสอบอย่างต่อเนื่องของการดำเนินการ ของคู่แข่ง และการพัฒนาเทคโนโลยี ทำให้เครื่องมือจะคงที่แทนแบบไดนามิก นอกจากนี้ บีเอสซีมีความเสี่ยงที่เข้มงวดเกินไปเนื่องจากแม้ว่ามาตรการใดกลยุทธ์ต้องเป็นชุด ถามเกี่ยวกับสิ่งที่อาจบล็อก หรือทำให้เกิดปัญหากับกลยุทธ์ เป็นผลความล้มเหลวระบุถึงปัญหาถึงจะสร้างช่องว่างระหว่างแผนเชิงกลยุทธ์และกลยุทธ์แท้จริงที่นำ (Norreklit, 2000)2.7 สรุปส่วนนี้เหลือประเมินวรรณกรรมบีเอสซี โดยเฉพาะใน ส่วนนี้กล่าวถึงการใช้บีเอสซีเป็นการการประเมินและระบบการจัดการเชิงกลยุทธ์ และวิเคราะห์ของสี่มุมมอง นอกจากนี้ มีการสนทนาเกี่ยวกับการใช้ของบีเอสซีในบริษัทขนาดเล็กและบทวิจารณ์เกี่ยวกับประสิทธิภาพของการ

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

2.6
วิจารณ์ดุลยภาพแม้ว่าจะมีผู้สนับสนุนจำนวนมากและผู้เสนอของBSC
รุ่นและวิธีการที่จะไม่เป็นอิสระจากการวิจารณ์ Norreklit (2000)
ระบุว่าความสัมพันธ์ที่เป็นเหตุและผลระหว่างมาตรการจากสี่มุมมองของBSC ซึ่ง Kaplan และ Norton อธิบาย (1996a; 1996c) เป็นปัญหา สาเหตุและผลกระทบที่มีอยู่ระหว่างสี่มุมมองที่เป็นวัดในเวลาเดียวกันและความล่าช้าเวลาใด ๆ ที่อาจจะมีอยู่จะถูกละเว้น. ความจริงมิติเวลาที่ไม่ได้เป็นส่วนหนึ่งของ BSC ทำให้เครื่องมือที่มีปัญหา อย่างไรก็ตามผลกระทบของมาตรการที่จะเกิดขึ้นในช่วงเวลาที่แตกต่างกันและเป็นเพราะผลกระทบของแต่ละพื้นที่ที่แตกต่างกันมีเครื่องชั่งน้ำหนักเวลาที่แตกต่าง คพจะช่วยให้ธุรกิจในการพัฒนาและปรับปรุงสี่มุมมองที่เวลาเดียวกัน แต่ผลกระทบจะอยู่จุดที่แตกต่างของเวลา ตัวอย่างเช่นเมื่อใหม่มีประสิทธิภาพมากขึ้นกระบวนการนำมาใช้ในธุรกิจของพวกเขาอาจจะปรับปรุงความพึงพอใจของลูกค้าภายในระยะเวลาสองเดือนแต่ในผลประกอบการมืออื่น ๆ ที่อาจจะไม่ได้รับผลกระทบจนไม่กี่ปีผ่านไป กระบวนการบางคนอาจจะแสดงให้เห็นผลกระทบของพวกเขาเกือบจะในทันทีในขณะที่คนอื่น ๆ จะใช้เวลานานกว่าจะทำเช่นนั้น เนื่องจากข้อเท็จจริงที่ว่าผู้ต้องหาไม่รวมถึงมิติเวลาก็อาจจะเป็นปัญหาและทำไม่ได้ในการวัดผลของใหม่และการดำเนินการที่ซับซ้อน นอกจากนี้ก็เป็นที่ยอมรับว่าเป็นเรื่องยากหรือเป็นไปไม่ได้สำหรับ บริษัท ที่จะพบว่าผลการดำเนินงานมาตรการสำหรับการดำเนินการที่มีความใหม่และมีผลบังคับใช้มือใหม่(Norreklit, 2000) นอกจากนี้ยังเป็นที่ถกเถียงกันอยู่ว่ามันยากที่จะวัดผลกระทบในธุรกิจที่นวัตกรรมเป็นสิ่งสำคัญมากและที่สำคัญของพวกเขาในการแข่งขันและพวกเขาเป็นประจำจะต้องชำระในสถานการณ์ใหม่(Norreklit 2000; Schoenfeld, 1991). นอกจากนี้ BSC ละเว้นการแข่งขันและการพัฒนาเทคโนโลยีซึ่งเป็นปัจจัยที่สำคัญมากสำหรับบริษัท ในปัจจุบัน โดยเฉพาะความจริงที่ว่า BSC ไม่ได้คำนึงถึงการตรวจสอบอย่างต่อเนื่องของการกระทำของคู่แข่งและการพัฒนาเทคโนโลยีที่ทำให้เครื่องมือที่จะเป็นแบบคงที่แทนแบบไดนามิก นอกจากนี้ยังมีความเสี่ยง BSC ที่เข้มงวดเกินไปเพราะแม้ว่ามาตรการสิ่งที่กลยุทธ์ที่จำเป็นต้องมีการตั้งค่าก็ไม่ได้ถามเกี่ยวกับสิ่งที่อาจป้องกันหรือก่อให้เกิดปัญหากับกลยุทธ์ที่ อันเป็นผลมาจากความล้มเหลวเพื่อแจ้งปัญหากับกลยุทธ์ที่จะสร้างช่องว่างในหมู่แผนยุทธศาสตร์และกลยุทธ์ที่เกิดขึ้นจริงที่ถูกนำมาใช้(Norreklit, 2000). 2.7 สรุปในส่วนนี้จะเป็นการประเมินวรรณกรรมวิธีBSC โดยเฉพาะอย่างยิ่งในส่วนนี้จะกล่าวถึงการใช้ BSC เป็นวัดและระบบการจัดการเชิงกลยุทธ์และการวิเคราะห์สี่มุมมองของตน นอกจากนี้ยังมีการอภิปรายเกี่ยวกับการใช้ BSC ใน บริษัท ขนาดเล็กและการวิจารณ์เกี่ยวกับประสิทธิภาพของมัน

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

2.6 การวิจารณ์
สมดุลแม้ว่ามีสนับสนุนมากมาย และผู้เสนอของ BSC , รูปแบบและวิธีการที่ไม่ได้ฟรีจาก
วิจารณ์ norreklit ( 2000 ) ระบุว่า เหตุ และ ผล ความสัมพันธ์ระหว่างมาตรการจากสี่
มุมมองของ BSC ซึ่ง Kaplan และ Norton ได้อธิบาย ( 1996a ; 1996c ) , เป็นปัญหา เหตุและผล
ว่าอยู่ระหว่างสี่มุมมอง เป็นวัดที่เวลาเดียวกัน และเวลาใด ความล่าช้าที่อาจมีอยู่จะถูกละเว้น .
ที่ว่ามิติเวลาที่ไม่ได้เป็นส่วนหนึ่งของเครื่องมือทำให้เครื่องมือมีปัญหา อย่างไรก็ตาม ผลของมาตรการที่จะเกิดขึ้น
ในช่วงเวลาที่แตกต่างกัน และเป็นเพราะผลที่แตกต่างกันของแต่ละพื้นที่มี
ชั่งเวลาแตกต่างกันวิทยาจะช่วยให้ธุรกิจเพื่อพัฒนาและปรับปรุงสี่มุมมองที่
เวลาเดียวกัน แต่ผลจะปรากฏขึ้นในจุดต่าง ๆของเวลา ตัวอย่างเช่น เมื่อใหม่ กระบวนการผลิตที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น
นําในธุรกิจของพวกเขาอาจจะปรับปรุงความพึงพอใจของลูกค้าภายในสองเดือน
แต่ในทางกลับกันผลทางการเงิน อาจไม่ได้รับผลกระทบจนไม่กี่ปีที่ผ่านมาบางกระบวนการอาจ
แสดงผลกระทบเกือบทันทีในขณะที่คนอื่นจะใช้เวลานานกว่าที่จะทำเช่นนั้น เนื่องจากว่า BSC
ไม่รวมมิติกาลเวลา มันอาจจะเกิดปัญหา และไม่ได้วัดที่ผลของการกระทำใหม่และ
ซับซ้อน นอกจากนี้ก็ถือว่ายากหรือเป็นไปไม่ได้สำหรับ บริษัท ที่จะหาการปฏิบัติ
มาตรการสำหรับการกระทำที่ใหม่ และ ผล มือใหม่ ( norreklit , 2000 ) นอกจากนี้ยังเป็นที่ถกเถียงกันว่า มัน
ยากในการวัดผลในธุรกิจที่เป็นนวัตกรรมที่สำคัญมากอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติในการแข่งขันของพวกเขาและพวกเขาเป็นประจำ
ต้องชำระในสถานการณ์ใหม่ ( norreklit , 2000 ; ชอนเฟลด์ , 1991 ) .
นอกจากนี้วิทยา ละเว้นการแข่งขันและการพัฒนาเทคโนโลยี ซึ่งเป็นปัจจัยที่สำคัญมากสำหรับบริษัท
ในปัจจุบัน เฉพาะความจริงที่ว่า BSC ไม่ได้พิจารณาอย่างต่อเนื่องการตรวจสอบ
ของการกระทําของคู่แข่งและการพัฒนาทางเทคโนโลยี ทำให้เครื่องมือที่เป็นแบบคงที่แทน
แบบไดนามิก นอกจากนี้วิทยา มีความเสี่ยงที่เข้มงวดเกินไป เพราะถึงแม้ว่ามันวัดอะไรกลยุทธ์
ต้องการที่จะตั้งมันไม่ได้ถามเกี่ยวกับสิ่งที่อาจจะบล็อก หรือก่อให้เกิดปัญหากับกลยุทธ์ เป็นผลมาจากความล้มเหลว
ระบุปัญหากับกลยุทธ์ที่จะสร้างช่องว่างระหว่างแผนยุทธศาสตร์และกลยุทธ์ที่เกิดขึ้นจริงที่
บุญธรรม ( norreklit , 2000 )

2.7 สรุปส่วนนี้ประมวล ประเมิน บีเอสซี วรรณกรรม โดยเฉพาะในส่วนนี้จะกล่าวถึงการใช้ BSC เป็น
ระบบการวัดและการจัดการเชิงกลยุทธ์และการวิเคราะห์ทั้งสี่มุมมอง นอกจากนี้ มีการอภิปรายเกี่ยวกับการใช้ BSC
ใน บริษัท ขนาดเล็กและการวิจารณ์เกี่ยวกับประสิทธิภาพของ