Swamp eel has the morphology charac

Swamp eel has the morphology characteristics such as a tapering tail and blunt snout, lacks pectoral and pelvic fins, as well as having rudimentary dorsal, anal, and caudal fins, with the caudal fin often absent.
So it is difficult to study the taxonomy and phylogeny by recognizing the different morphology (Nico et al., 2011; Cai et al., 2013).
Molecular phylogenetic and analytical techniques were the crucial methods to identify genetic divergence of swamp eel. Matsumoto et al.
(2010) divided specimens from Southeast and East Asia into three clades based on geographical populations using mtDNA sequence.
In this study, six populations were categorized into four highly divergent clades referred as clade A, B, C, and D (Fig. 1).
Clade A was widely distributed in the six wild populations and had a dominant advantage in each population.
It could be speculated that clade A was the most universal phylogenic clade and the common ancestor clade in evolution history of swamp eel.
All individuals of the CQ population were sorted into clade A.
This implied that swamp eel from the CQ population might be isolated to a single ancestor of maternal clade (Cai et al., 2008).

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

หนองปลาไหลมีลักษณะสัณฐานวิทยาเช่นการเรียวหาง และจมูกที่ทื่อ ครีบขาด และกลม มี rudimentary หลัง ทางทวารหนัก และครีบครีบ จางมักจะขาด ดังนั้น จึงเป็นเรื่องยากที่จะศึกษาระบบภาษีและส่วน โดยตระหนักถึงลักษณะทางสัณฐานวิทยาแตกต่างกัน (Nico et al. 2011 Cai et al. 2013) โมเลกุล และการวิเคราะห์ทางเทคนิคสำคัญวิธีระบุแตกต่างทางพันธุกรรมของปลาไหลบึง มัตสึโมโตะ et al (2010) แบ่งตัวอย่างจากตะวันออกเฉียงใต้และเอเชียตะวันออกเป็นสาม clades อิงภูมิศาสตร์ประชากรใช้ mtDNA ลำดับ ในการศึกษานี้ ประชากรหกถูกไปแบ่งสี่ clades สูงแตกต่างที่เรียกว่า clade A, B, C และ D (1 รูป) Clade A กระจายอย่างกว้างขวางในป่าประชากรหก และมีความได้เปรียบที่โดดเด่นในแต่ละประชากร อาจคาดว่า clade A เป็น clade phylogenic สากลมากที่สุดและ clade ของบรรพบุรุษร่วมในประวัติศาสตร์วิวัฒนาการของปลาไหลบึง ทุกคนของประชากร CQ ถูกเรียงลำดับเป็น clade a นี้โดยนัยที่หนองปลาไหลจากประชากร CQ อาจจะแยกไปเป็นบรรพบุรุษเดียวของมารดา clade (Cai et al. 2008)

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

บึงปลาไหลมีลักษณะสัณฐานเช่นหางเรียวและจมูกทื่อขาดครีบอกและครีบกระดูกเชิงกรานรวมทั้งมีครีบหลังพื้นฐานทางทวารหนักและครีบหางมีครีบหางมักจะขาด.
ดังนั้นมันจึงเป็นเรื่องยากที่จะศึกษาอนุกรมวิธานและ เชื้อชาติโดยตระหนักถึงลักษณะทางสัณฐานวิทยาที่แตกต่างกัน. (นิโก้, et al, 2011;.. Cai, et al, 2013)
โมเลกุล phylogenetic และเทคนิคการวิเคราะห์เป็นวิธีการสำคัญในการระบุความแตกต่างทางพันธุกรรมของปลาไหลนา Matsumoto et al.
(2010) ตัวอย่างจากตะวันออกเฉียงใต้และเอเชียตะวันออกแบ่งออกเป็นสาม clades บนพื้นฐานของประชากรทางภูมิศาสตร์โดยใช้ลำดับ mtDNA.
ในการศึกษานี้หกประชากรถูกแบ่งออกเป็นสี่ clades ที่แตกต่างกันอย่างมากเรียกว่าเป็น clade A, B, C และ D ( รูปที่ 1)..
clade ผู้หนึ่งได้กระจายอย่างกว้างขวางในช่วงหกประชากรป่าและมีข้อได้เปรียบที่โดดเด่นในประชากรแต่ละ.
มันอาจจะสันนิษฐานว่า clade เป็น clade วิวัฒนาการสากลมากที่สุดและ clade บรรพบุรุษร่วมกันในประวัติศาสตร์วิวัฒนาการของปลาไหลนา.
ทั้งหมด บุคคลของประชากร CQ ถูกจัดเรียงเป็น clade A.
นี้ส่อให้เห็นว่าปลาไหลหนองน้ำจากประชากร CQ อาจจะมีการแยกบรรพบุรุษเดียวของ clade มารดา (CAI et al., 2008)

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

หนองปลาไหล มีรูปร่างลักษณะเช่นเรียวหางและมีจมูกที่ขาด และเชิงกรานครีบน้ำเงิน รวมทั้งมีพื้นฐานทางทวารหนัก และหาง ครีบมีครีบหางขาดบ่อยดังนั้นจึงเป็นเรื่องยากที่จะศึกษาอนุกรมวิธานและระบบเชื้อชาติ โดยตระหนักถึงลักษณะที่แตกต่างกัน ( Nico et al . , 2011 ; ไช่ et al . , 2013 )เทคนิคและวิธีการวิเคราะห์โมเลกุล ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญที่จะระบุความแตกต่างทางพันธุกรรมของหนองปลาไหล มัตสึโมโตะ et al .( 2010 ) แบ่งตัวอย่างจากเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และเอเชียตะวันออก เป็น 3 clades ขึ้นอยู่กับประชากรทางภูมิศาสตร์ที่ใช้แสดงลำดับ .ในการศึกษานี้แบ่งออกเป็นสี่หกประชากรไม่สอดคล้องกัน clades เรียกว่า clade A , B , C และ D ( รูปที่ 1 )clade A ถูกกระจายอย่างกว้างขวางในหกป่าประชากรและมีความได้เปรียบที่โดดเด่นในแต่ละประชากรมันอาจจะสันนิษฐานว่า Clade เป็นสากลที่สุดวิวัฒนาการถัดจาก clade และบรรพบุรุษในประวัติศาสตร์วิวัฒนาการของหนองปลาไหลบุคคลทั้งหมดของ CQ จำนวนเรียงลงใน clade Aโดยหนองปลาไหลจาก CQ ประชากรอาจจะแยกไปยังบรรพบุรุษเดียวมารดา clade CAI et al . , 2008 )