In addition, from Figure 2, it can

In addition, from Figure 2, it can be seen that there are two L-shaped tubes attached to the top of the Perspex called pitot-static tubes. The labels H2 and H4 represent tube openings directly facing the air flow direction (0 degrees). The pressure measure here is called stagnation pressure. It accounts for the increase in pressure when air is blowing. The label H3 represents an opening on the tube that does not face the air flow and can be considered as the static pressure at Plane 3. Finally, the difference between the static pressure and the stagnation pressure is called the dynamic pressure. The dynamic pressure accounts for the air velocity and can be calculated using equation (2) in the section below.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

นอกจากนี้ จากรูปที่ 2 จะเห็นได้ว่า มีสองรูป L หลอดกับด้านบนของ Perspex เรียกว่าท่อ pitot-คง ป้าย H2 และ H4 แสดงช่องหลอดหันทิศทางไหลของอากาศ (0 องศา) วัดความดันที่นี่เรียกว่าความดันความซบเซา บัญชีสำหรับการเพิ่มขึ้นของความดันเมื่อเป่าอากาศ ป้าย H3 แทนการเปิดบนหลอดที่เผชิญกับการไหลของอากาศ และถือได้ว่าเป็นความดันสถิตที่ 3 เครื่องบิน สุดท้าย ความแตกต่างระหว่างความดันสถิตย์และความดันความซบเซาจะเรียกว่าความดันแบบไดนามิก ความดันแบบบัญชีสำหรับความเร็วของอากาศ และสามารถคำนวณได้โดยใช้สมการ (2) ในส่วนด้านล่าง

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

นอกจากนี้จากรูปที่ 2 จะเห็นได้ว่ามีสองหลอดรูปตัว L ที่ติดอยู่กับด้านบนของ Perspex เรียกว่าหลอด Pitot ไฟฟ้าสถิต ป้าย H2 และ H4 แทนช่องท่อโดยตรงหันหน้าไปทางทิศทางการไหลของอากาศ (0 องศา) การวัดความดันที่นี่จะเรียกว่าดันความเมื่อยล้า มันบัญชีสำหรับการเพิ่มขึ้นของความดันเมื่ออากาศพัด ฉลากแสดงถึง H3 เปิดในหลอดที่ไม่ต้องเผชิญกับการไหลของอากาศและถือได้ว่าเป็นความดันคงที่เครื่องบิน 3 ในที่สุดความแตกต่างระหว่างความดันคงที่เมื่อยล้าและความดันที่เรียกว่าแรงดันแบบไดนามิก ความดันแบบไดนามิกบัญชีสำหรับความเร็วของอากาศและสามารถคำนวณได้โดยใช้สมการ (2) ในส่วนด้านล่าง

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

นอกจากนี้ จากรูปที่ 2 จะเห็นได้ว่ามี 2 ท่อรูปตัว L ติดอยู่ด้านบนของท่อปิโตต์ Perspex เรียกว่าไฟฟ้าสถิต ป้ายชื่อ H2 และ H4 แทนหลอดเปิดหันหน้าทิศทางการไหลของอากาศ ( 0 องศา ) แรงดันวัดแรงดันตรงนี้เรียกว่าเฉื่อยชา มันบัญชีสำหรับเพิ่มความดันเมื่อลมกำลังพัดฉลาก H3 เป็นเปิดบนหลอดที่ไม่ได้เผชิญกับการไหลของอากาศ และถือได้ว่าเป็นแรงดันคงที่ที่เครื่องบิน 3 ในที่สุด ความแตกต่างระหว่างความดันคงที่และซบเซากดดันเรียกว่าความดันแบบไดนามิก ความดันแบบไดนามิกบัญชีสำหรับความเร็วอากาศและสามารถคำนวณโดยใช้สมการ ( 2 ) ในส่วนด้านล่าง