ปัจจุบันเป็นที่ตระหนัก และยอมรับกันทั่วไปว่า ในประเทศที่พัฒนาแล้วนั้น ปัจจัยหนึ่ง ซึ่งเป็นสิ่งที่จำ เป็นอย่างยิ่งต่อการพัฒนาประเทศ และพัฒนาคุณภาพชีวิต ไปสู่การกินดี อยู่ดี ของประชากรโดยส่วนรวมนั้น คือ การมีฐานทางวิทยาศาสตร์ และเทคโนโลยีที่เข้มแข็ง มีการพัฒนา และนำเทคโนโลยี ไปใช้ในการดำเนินชีวิตอย่างจริงจัง เพื่อเป้าหมายสูงสุด คือประโยชน์ทางเศรษฐกิจ และสังคม ดังคำกล่าวที่ว่า “ผู้ใดครองเทคโนโลยี ผู้นั้นครองเศรษฐกิจ ผู้ใดครองเทคโนโลยี ผู้นั้นครองอำนาจ” ดังนั้น เป้าหมายสูงสุด ของการใช้เทคโนโลยีเพื่อ คุณภาพชีวิต ก็คือ เพื่อความยั่งยืนทางเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม
วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี เป็นหลักวิชา ในทุกสาขาวิทยาการ เป็นรากฐานเศรษฐกิจพอเพียง และแข่งขันเป็นแหล่งปัญญา แก่สังคมเพื่อคุณภาพชีวิต เป็นพลังจรรโลง รักษาสิ่งแวดล้อมรูปแบบการใช้เทคโนโลยีและสารสนเทศเทคโนโลยีที่มีอิทธิพลต่อ การดำเนินชีวิตประจำวัน แบ่งออกเป็น 2 กลุ่มใหญ่ คือ เทคโนโลยีท้องถิ่น และเทคโนโลยีนำเข้า
การพัฒนาคุณภาพชีวิต และเศรษฐกิจที่ยั่งยืน จะต้องอาศัยพื้นฐาน ทางวิทยาศาสตร์ และเทคโนโลยี ที่แข็งแกร่งของประเทศ เพื่อทำให้คนในประเทศ มีคุณภาพชีวิตที่ดี คือ มีความสุข มีครอบครัวที่อบอุ่น มีชุมชนที่เข้มแข็ง มีสันติสุขในสังคม และมีสิ่งแวดล้อม ที่ยั่งยืน ดังนั้น การพัฒนาคุณภาพชีวิต จึงมิได้หมายความเพียง การใช้เทคโนโลยี ที่ทันสมัยเท่านั้น แต่ยังหมายรวมถึง การรู้จักปรับปรุง และพัฒนาเทคโนโลยีให้เหมาะสม กับสถานภาพ ทั้งในด้าน เศรษฐกิจ การศึกษา ขีดความสามารถ และความพร้อมของ แต่ละคน แต่เนื่องจากการ เปลี่ยนแปลง และความก้าวหน้า ทางวิทยาศาสตร์ และเทคโนโลยี เกิดขึ้นตลอดเวลา และส่ง ผลกระทบอย่างมาก ต่อการดำเนินชีวิตประจำวัน และคุณภาพชีวิต ของคนเรา ทั้งทางสร้างสรรค์ และคุกคามต่อชีวิต ความเป็นอยู่ และวัฒนธรรมดั้งเดิม ของชุมชน จึงสามารถสรุปอิทธิพลของ วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
ล่าวว่าเทคโนโลยีสมัยใหม่จำเป็นต้องมีความรู้วิทยาศาสตร์เป็นระบบต่อเนื่องเป็นฐานรองรับมิใช่แต่เพียงอาศัยประสบการณ์หรือวิทยาศาสตร์สังเกตเท่านั้นและความรู้หรือทฤษฎีใหม่ทางวิทยาศาสตร์ที่ถูกค้นพบก็มิใช่ว่าจะถูกนำไปพัฒนาเป็นเทคโนโลยีใหม่ตามมาเสมอไปความรู้และทฤษฎีวิทยาศาสตร์บางอย่างแม้จะถูกค้นพบมานานก็ยังคงเป็นความรู้พื้นฐานสะสมไว้เหมือนเดิมทั้งนี้เพราะความรู้วิทยาศาสตร์บางอย่างเป็นไปเพื่อความรู้ความสนใจจริง ๆไม่ได้เกิดมาจากปัญหาเฉพาะหน้า หรือสถานการณ์บังคับเพื่อแก้ปัญหาสังคมและเศรษฐกิจไม่มีแรงผลักดันให้มีการพัฒนาเทคโนโลยีขึ้นมาความรู้วิทยาศาสตร์บางอย่างเกิดขึ้นมานานกว่าจะถูกพัฒนาขึ้นมาเป็นเทคโนโลยี เช่นความรู้ทางฟิสิกส์สุริยะมีมานานก่อนที่จะพัฒนาเป็นเทคโนโลยีพลังงานแสงอาทิตย์ทั้งนี้เพราะแต่เดิมโลกไม่ขาดแคลนพลังงาน จึงเห็นได้ว่าช่วงเวลาระหว่างการค้นพบความรู้ทางวิทยาศาสตร์กับเทคโนโลยีที่ได้พัฒนาขึ้นมานั้นอาจสั้นหรือยาวก็แล้วแต่ความเร่งด่วนทางเศรษฐกิจและสังคมและความยากง่ายของความรู้วิทยาศาสตร์นั้นๆ บางครั้งเทคโนโลยีใหม่ก็พัฒนามาจากความรู้ทางวิทยาศาสตร์ดั้งเดิมได้ เช่นพวกอุปกรณ์เครื่องไฟฟ้าบางอย่าง เช่นกะทะไฟฟ้า หม้อหุงข้าวไฟฟ้าอัตโนมัติ เป็นต้นและความรู้วิทยาศาสตร์จะไม่สามารถใช้ประโยชน์ด้านปฏิบัติได้ถ้าไม่มีการนำความรู้นั้นไปประยุกต์ใช้
เมื่อก่อนวิทยาศาสตร์ไม่ต้องอาศัยเทคโนโลยีมากนักแต่ปัจจุบันทั้งสองวิชานี้ต้องพึ่งพาซึ่งกันและกัน วิทยาศาสตร์ตอนแรก ๆใช้เพียงวิธีสังเกตและเหตุผล เมื่อต้องทดลองบ้างก็เริ่มใช้เครื่องมือเมื่อการทดลองยุ่งยากขึ้น