The ejector, which is the heart of

The ejector, which is the heart of the jet refrigeration system, was invented in 1901 for removing air from a steam engine’s condenser. In 1910, an ejector was used in the first steamjet refrigeration system. Finally, in 1913,an ejector was used in air conditioning large buildings. Steam jet refrigeration systems were later supplanted by systems using mechanical compressors. Since that time, development and refinement of jet refrigeration system have been almost at a standstill as most efforts have been concentrated on improving vapour compression refrigeration systems. A schematic view of a typical steam ejector is shown in Fig. 1. The flow process is also presented in Mollier’s chart Fig. 2. Referring to Fig. 1, as the high pressure steam(P), known as ‘primary fluid’, expands and accelerates through the primary nozzle (i), it fans out with supersonic speed to create a very low pressure region at the nozzle exit plane (ii) and hence in the mixing chamber. According to the differences of pressure of two positions, higher-pressure vapour,

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

อีเจ็คเตอร์ ซึ่งเป็นหัวใจของระบบทำความเย็น jet ถูกคิดค้นในปี 1901 สำหรับออกอากาศจากเครื่องยนต์ไอน้ำควบแน่น ใน 1910 อีเจ็คเตอร์ที่ถูกใช้ในระบบทำความเย็น steamjet แรก ในที่สุด ในปี 1913 อีเจ็คเตอร์ที่ถูกใช้ในเครื่องปรับอากาศอาคารขนาดใหญ่ ระบบทำความเย็นของน้ำได้ในภายหลัง supplanted โดยระบบที่ใช้คอมเพรสเซอร์เครื่องจักรกล ตั้งแต่ที่ เวลา การพัฒนา และการปรับแต่งของระบบทำความเย็น jet ได้เกือบที่ติดเป็นความพยายามส่วนใหญ่มีการความเข้มข้นในการปรับปรุงระบบทำความเย็นบีบอัดไอ ดูแผนผังของอีเจ็คเตอร์อบไอน้ำทั่วไปที่จะแสดงในรูปที่ 1 การไหลจะแสดงแผนภูมิของ Mollier 2 รูป หมายถึงรูปที่ 1, steam(P) แรงดันสูง ที่รู้จักกันเป็น 'หลักน้ำมัน' ขยาย และเร่งผ่านหัวฉีดหลัก (i) มันพัดลมออกมา ด้วยความเร็วเหนือเสียงเพื่อสร้างขอบเขตความดันต่ำมากที่เครื่องบินออกจากหัวฉีด (ii) และด้วยเหตุนี้ในห้องผสม ตามความแตกต่างของความดันสองตำแหน่ง ไอ higher-pressure

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

เป่าซึ่งเป็นหัวใจของระบบทำความเย็นเจ็ทที่ถูกประดิษฐ์ขึ้นในปี 1901 สำหรับการลบคอนเดนเซอร์อากาศจากรถจักรไอน้ำของ ในปี 1910 ซึ่งเป็นเครื่องเป่าที่ใช้ในระบบทำความเย็น steamjet แรก ในที่สุดในปี 1913 ซึ่งเป็นเครื่องเป่าที่ใช้ในอาคารขนาดใหญ่มีเครื่องปรับอากาศ ระบบทำความเย็นไอน้ำเจ็ทถูกแทนที่ในภายหลังโดยใช้ระบบอัดกล ตั้งแต่เวลานั้นการพัฒนาและการปรับแต่งระบบทำความเย็นเจ็ทได้รับเกือบที่หยุดนิ่งเป็นความพยายามส่วนใหญ่ได้รับเข้มข้นในการปรับปรุงระบบทำความเย็นแบบอัดไอ มุมมองวงจรของเครื่องเป่าอบไอน้ำทั่วไปจะแสดงในรูป 1. ขั้นตอนการไหลที่นำเสนอยังอยู่ในแผนภูมิ Mollier ของรูป 2. รูปที่อ้างถึง 1 เป็นไอน้ำแรงดันสูง (P) หรือที่เรียกว่า 'หลักของเหลว' ขยายและเร่งผ่านหัวฉีดหลัก (i) แฟน ๆ มันออกมาด้วยความเร็วเหนือเสียงที่จะสร้างเขตความดันต่ำมากในระนาบหัวฉีดออก (ii) และด้วยเหตุนี้ในห้องผสม ตามความแตกต่างของความดันของทั้งสองตำแหน่งไอสูงแรงดัน

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

การเป่า ซึ่งเป็นหัวใจของระบบทำความเย็น Jet , ถูกคิดค้นขึ้นในปี 1901 เอาอากาศจากเครื่องจักรไอน้ำของคอนเดนเซอร์ ในปี 1910 , เครื่องเป่าที่ใช้ในครั้งแรก steamjet เครื่องทำความเย็นระบบ ในที่สุด ใน 1913 , เครื่องเป่าที่ใช้ในระบบปรับอากาศในอาคารขนาดใหญ่ ระบบทำความเย็นระบบไอน้ำมี supplanted โดยเจ็ท ต่อมาใช้กลอัด ตั้งแต่เวลา , การพัฒนาและการปรับแต่งระบบทำความเย็น Jet ได้รับแทบจะหยุดนิ่งเพราะความพยายามส่วนใหญ่ได้รับการปรับปรุงระบบทำความเย็นแบบอัดไอ . ดูแผนที่ของเครื่องเป่าไอน้ำโดยทั่วไปแสดงในรูปที่ 1 กระบวนการไหลยังนำเสนอใน mollier แผนภูมิรูปที่ 2 หมายถึงรูปที่ 1 เป็นไอน้ำความดันสูง ( P ) , ที่รู้จักกันเป็น " ของเหลว " หลักเพื่อขยายและเร่งผ่านหัวฉีดหลัก ( ผม ) ก็แฟนออกมาด้วยความเร็วเหนือเสียง เพื่อสร้างแรงดันต่ำมากพื้นที่ที่ฉีดออกจากเครื่องบิน ( 2 ) ดังนั้น ในห้องผสม . ตามความแตกต่างของความดันสองตำแหน่ง ความดันสูง