the jazz that was popular during th

the jazz that was popular during the 1930s and 1940s was known as 'big band' or 'swing' a big band or jazz orchestra,consisted of approximately 12 to25 musicians and contained saxophones,trumpets,trombones,and arhythrm section.the arranger called for an inprovised solo,a short piece of music created spontaneously by one of the players in many bands the arranger was also the bandleader

big bands jazz was first and foremost dance music.the earliest bands played music characterized by a sweet and romantic melody,suitable for dancing.later the music acquired a "swing beat" a style of playing with a strong,driving rhythm.the"hot" rhythms of bandleaers such as benny goodman and count basie became the dominant form of popular music after 1935 from this joyous,swinging music came the energetic style of dancing called"jitterbug

however many younger jass players felt that swing jazz was the music of an older generation and did not express their experiences.the younger musicians wanted jazz to progress.thus,the style of jazz known as "bebop" arose.Bebop-later called simply "bop"-was a revolt against big bands and arrangements. a typical band consisted of five instruments:saxophone,trumpet,bass,drums,and piano.the"bopsters" rejectrd the traditional dance beat because they felt it prevented the free-flowing, improvisational expression of ideas.they viewed jazz not as dance music but as a from of art.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

แจ๊สที่เป็นที่นิยมในช่วงทศวรรษที่ 1930 และ 1940 เป็นที่รู้จักในวงดนตรีที่ยิ่งใหญ่ 'หรือ' แกว่ง 'วงใหญ่หรือวงดนตรีแจ๊สประกอบไปด้วยประมาณ 12 to25 นักดนตรีแซกโซโฟนและมีแตรทรอมโบนและ arranger arhythrm section.The เรียก เดี่ยว inprovised, ชิ้นสั้น ๆ ของเพลงนี้ถูกสร้างขึ้นตามธรรมชาติโดยหนึ่งในผู้เล่นในหลายกลุ่ม arranger ยังเป็นดรัมเมเยอ

แจ๊สวงใหญ่เป็น music.The เต้นรำแรกและสำคัญที่สุดวงแรกที่เล่นเพลงที่โดดเด่นด้วยเสียงเพลงหวานและโรแมนติกเหมาะสำหรับ dancing.later เพลงกลายเป็น "จังหวะแกว่ง" สไตล์การเล่นที่แข็งแกร่งกับการขับรถ rhythm.the "ร้อน "จังหวะของ bandleaers เช่นเบนนีกูดแมนและเคาท์กลายเป็นรูปแบบที่โดดเด่นของเพลงที่เป็นที่นิยมหลังจากที่ 1935 จากความสุขนี้แกว่งไปมาเพลงสไตล์พลังของการเต้นรำที่เรียกว่า "โลดโผน

แต่หลายผู้เล่นที่อายุน้อยกว่า jass รู้สึกว่าแจ๊สแกว่งเป็นเพลงของคนรุ่นเก่าและไม่ได้แสดงดนตรีของพวกเขาต้องการ experiences.the น้องแจ๊ส progress.thus สไตล์ของดนตรีแจ๊ส หรือที่เรียกว่า "แจ๊ช" arose.bebop ต่อมาเรียกว่า "ป็อบ" เป็นต่อต้านวงใหญ่และการเตรียมการวงดนตรีโดยทั่วไปประกอบด้วยห้าตราสาร: แซ็กโซโฟนทรัมเป็ตเบสกลองและ "bopsters" piano.the rejectrd เต้นรำจังหวะแบบดั้งเดิมเพราะพวกเขารู้สึกว่ามันป้องกันไม่ให้เกิดการไหลอย่างอิสระการแสดงออกยิ่งของ ideas.they ดูแจ๊สไม่เป็นเพลงเต้นรำ แต่เป็นจากของศิลปะ

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

มีดนตรีแจ๊สที่เป็นที่นิยมในช่วงทศวรรษ 1930 ทศวรรษ 1940 โดยเป็น 'บิ๊กแบนด์' หรือ 'แกว่ง' วงใหญ่หรือวงดนตรีแจ๊ส arranger ที่ประกอบด้วยประมาณ 12 นักดนตรี to25 saxophones มีอยู่ trumpets, trombones และ arhythrm section.the arranger เรียกการ inprovised โซ สั้น ๆ ของธรรมชาติโดยหนึ่งในผู้เล่นในวงหลายเพลงยัง bandleader

แจ๊สวงใหญ่เป็นครั้งแรก และวงสุด music.the เต้นที่สำคัญเล่นลักษณะทำนองหวาน และโรแมนติกเพลง เหมาะสำหรับ dancing.later เพลงมา "สวิงเต้น" เพลงแบบเล่นกับ rhythm.the"hot ที่แข็งแกร่ง ขับ" แบบของ bandleaers เช่นเบนนี่คลาและนับ basie กลายเป็น รูปแบบหลักของเพลงหลัง 1935 จากบัดนี้,ควงเพลงมาแบบมีพลังของการเต้นรำที่เรียกว่า " jitterbug

แต่เล่นเซอยาอายุมากรู้สึกว่า สวิงแจ๊สเพลงที่รุ่นเก่า และไม่แสดง experiences.the ของพวกเขาอายุน้อยกว่า นักดนตรีแจ๊ซ progress.thus,the ลักษณะของดนตรีแจ๊สที่เรียกกันว่า"bebop"ต้องเกิดขึ้นเรียก bebop หลัง bop ที่เพียง "มีระดับ" -ถูกกบฏกับวงใหญ่และการเตรียมการ วงดนตรีทั่วไปประกอบด้วยห้าเครื่องมือ: แซกโซโฟน ทรัมเป็ต กีตาร์เบส กลอง และ piano.the"bopsters" rejectrd รำชนะ เพราะพวกเขารู้สึกว่า มันป้องกันนิพจน์วิ improvisational ของ ideas.they ดูแจ๊สไม่ เป็นเพลงเต้นรำ แต่เป็นการจากศิลปะ

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ดนตรีแจ็สที่ได้รับความนิยมในระหว่างปี 1930 และ 1940 s เป็นที่รู้จักกันในชื่อว่า"คลื่นความถี่ขนาดใหญ่หรือ"โล้ชิงช้าย่านความถี่ขนาดใหญ่หรือวงดนตรีวง Jazz ประกอบไปด้วยประมาณ 12 ถึง 25 และนักดนตรีที่อยู่ชิ้นแซกโซโฟนเป่าแตรส่วน arhythrm และทรอมโบน.ธนาคารพาณิชย์สามารถประกอบที่เรียกว่าสำหรับ solo , inprovised ที่ชิ้นเพื่อไปถึงได้ไม่ไกลนักสร้างของเพลงโดยตนเองโดยหนึ่งในผู้เล่นที่อยู่ในย่านความถี่ที่ธนาคารพาณิชย์สามารถประกอบจำนวนมากและยังเป็นที่ bandleader

คลื่นความถี่ขนาดใหญ่เป็นครั้งแรกและดนตรีแจ็สและการเต้นรำฟังเพลงเป็นอย่างดี"คลื่นความถี่ที่เร็วที่สุดเล่นดนตรีโดยที่หวานและโรแมนติกเพลง,เหมาะสำหรับการเต้นรำ.ใน ภายหลัง ได้ฟังเพลงที่ได้รับ"ชิงช้าตี"ที่มีสไตล์การเล่นพร้อมด้วยที่แข็งแกร่ง,การขับรถจังหวะการเต้นของหัวใจ."ร้อน"จังหวะของ bandleaers เช่นของเบนนี Joshua Goodman ,และจำนวน basie กลายเป็นที่ได้รับความนิยมมีอิทธิพลรูปแบบของเพลงนี้หลังจากเมื่อปี 1935 จากความปีติ,โล้ชิงช้าเพลงมาที่มีชีวิตชีวามีสไตล์การเต้นเรียกว่า"คนขี้ ตกใจ

อย่างไรก็ตามจำนวนมากผู้เล่นอายุน้อยกว่า jass รู้สึกว่าชิงช้า, Jazz ,เป็นที่เพลงของเก่ากว่ารุ่นและไม่แสดงประสบการณ์.น้องนักดนตรีต้องการดนตรีแจ๊สถึงความคืบหน้า.,ที่สไตล์ดนตรีแจ็สที่รู้จักกันว่า" bebop "ก็ลุกขึ้น. bebop - ใน ภายหลัง เรียกว่า" Safe " - เป็นกบฎต่อขนาดใหญ่คลื่นความถี่และมีการจัดเตรียม.คลื่นความถี่แบบดั้งเดิมที่ประกอบด้วยห้าตราสาร:เสียงแตรแซกโซโฟนเสียงเบสกลองยาวและเปียโน" bopsters " rejectrd เอาชนะการเต้นรำในแบบดั้งเดิมที่เพราะเขารู้สึกว่ามันทำให้ไม่สามารถแสดงออก improvisational แบบไม่เสียค่าบริการ - ไหลของความคิดแล้วยังไม่ได้ดูดนตรีแจ็สและเสียงดนตรีการเต้นรำแต่เป็นจากของศิลปะ