How frightened should people be abo

How frightened should people be about this? It would be odd not to be worried. The planet's history contains many less stable and clement eras than the Holocene. Who is to say that human action might not tip the planet into new instability?

Some will want simply to put the clock back. But returning to the way things were is neither realistic nor morally tenable. A planet that could soon be supporting as many as 10 billion human beings has to work differently from the one that held 1 billion people, mostly peasants, 200 years ago. The challenge of the Anthropocene is to use human ingenuity to set things up so that the planet can accomplish its 21st-century task.

Increasing the planet's resilience will probably involve a few dramatic changes and a lot of fiddling. An example of the former could be geoengineering. Today the copious carbon dioxide emitted to the atmosphere is left for nature to pick up, which it cannot do fast enough. Although the technologies are still nascent, the idea that humans might help remove carbon from the skies as well as put it there is a reasonable Anthropocene expectation; it wouldn't stop climate change any time soon, but it might shorten its lease, and reduce the changes in ocean chemistry that excess carbon brings about.

More often the answer will be fiddling—finding ways to apply human muscle with the grain of nature, rather than against it, and help it in its inbuilt tendency to recycle things. Human interference in the nitrogen cycle has made far more nitrogen available to plants and animals; it has done much less to help the planet deal with all that nitrogen when they have finished with it. Instead we suffer ever more coastal “dead zones” overrun by nitrogen-fed algal blooms. Quite small things, such as smarter farming and better sewage treatment, could help a lot.

For humans to be intimately involved in many interconnected processes at a planetary scale carries huge risks. But it is possible to add to the planet's resilience, often through simple and piecemeal actions, if they are well thought through. And one of the messages of the Anthropocene is that piecemeal actions can quickly add up to planetary change.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

กลัวว่าคนจะเกี่ยวกับเรื่องนี้ มันจะแปลกไม่ต้องกังวล ประวัติศาสตร์ของโลกประกอบด้วยมากน้อยกว่าช่วงตะปาปาเคลเมนต์ และมั่นคงกว่าโฮโลซีน ที่จะบอกการกระทำที่มนุษย์อาจไม่แนะนำโลกเป็นความไม่เสถียรของใหม่บางส่วนจะต้องการเพียงการกลับนาฬิกา ได้พบสิ่งต่าง ๆ ด้วยวิธีถูกคือไม่สมจริง หรือคุณธรรม tenable ดาวเคราะห์ที่สามารถเร็วได้สนับสนุนเป็น 10 ล้านมนุษย์ มีการทำงานแตกต่างจากที่ขึ้น 1 พันล้านคน ส่วนใหญ่เป็นชาวนา 200 ปีที่ผ่านมา ความท้าทายของแอนโทรโปซีนจะใช้มนุษย์ประดิษฐ์คิดค้นการตั้งสิ่งที่โลกสามารถดำเนินงานของศตวรรษที่ 21เพิ่มความยืดหยุ่นของดาวเคราะห์จะอาจเกี่ยวข้องกับการเปลี่ยนแปลงบางอย่างและมี fiddling ตัวอย่างของเดิมอาจ geoengineering วันนี้ copious ก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ปล่อยออกสู่บรรยากาศเป็นซ้ายธรรมชาติหยิบขึ้นมา ซึ่งไม่สามารถทำได้อย่างรวดเร็วพอ ถึงแม้ว่าเทคโนโลยีจะยังคงก่อ ความคิดที่มนุษย์อาจช่วยเอาคาร์บอนจากฟากฟ้า เป็นใส่ มันมีแอนโทรโปซีนที่เหมาะสมความ มันจะไม่หยุดอากาศเปลี่ยนแปลงตลอดเวลาเร็ว ๆ นี้ แต่มันอาจย่นเช่าของ และลดการเปลี่ยนแปลงเคมีของมหาสมุทรที่คาร์บอนส่วนเกินเกี่ยวกับบ่อยจะ fiddling คำตอบโดยหาวิธีที่จะใช้กล้ามเนื้อมนุษย์กับข้าวธรรมชาติ ไม่ ใช่ กับมัน และช่วยให้ในความแนวโน้ม inbuilt รีไซเคิลสิ่ง รบกวนมนุษย์ในวัฏจักรไนโตรเจนได้ไกลเพิ่มเติมไนโตรเจนมีพืชและสัตว์ มันได้ทำมากน้อยจะช่วยจัดการกับไนโตรเจนที่เมื่อพวกเขาเสร็จสิ้นกับโลก แต่ เราทรมานมากเคยชายฝั่ง "ตายโซน" ด้วยอาหารไนโตรเจนปรากฎการณ์ สิ่งเล็ก ๆ ฉลาดเลี้ยงและบำบัดน้ำเสียที่ดีกว่า จะช่วยให้มากสำหรับมนุษย์มีส่วนร่วมในกระบวนการเชื่อมต่อกันหลายที่ขนาดดาวเคราะห์จึงดำเนินการความเสี่ยงมาก แต่เป็นการเพิ่มความยืดหยุ่นของโลก มักจะผ่านง่าย และดำเนินการดำเนินการ ถ้าพวกเขาคิดว่า ดีผ่าน และข้อความของแอนโทรโปซีนหนึ่งคือว่า การดำเนินการทีละน้อยสามารถอย่างรวดเร็วเพิ่มค่าเปลี่ยนดาวเคราะห์

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

วิธีกลัวคนควรจะเกี่ยวกับเรื่องนี้? มันจะแปลก ๆ ไม่ต้องเป็นกังวล ประวัติความเป็นมาของโลกมีจำนวนมากน้อยในยุคที่มีเสถียรภาพและผ่อนผันกว่าโฮโลซีน ใครคือผู้ที่จะบอกว่าการกระทำของมนุษย์ไม่อาจจะปลายโลกเข้าสู่ความไม่แน่นอนใหม่ได้หรือไม่บางคนจะต้องการเพียงที่จะนำนาฬิกากลับ แต่กลับไปทางสิ่งที่เป็นจริงจะไม่ปรองดองกันได้หรือศีลธรรม ดาวเคราะห์ที่ว่าเร็ว ๆ นี้จะได้รับการสนับสนุนเป็นจำนวนมากถึง 10 พันล้านมนุษย์มีการทำงานที่แตกต่างจากคนหนึ่งที่จัดขึ้น 1 พันล้านคนซึ่งส่วนใหญ่เป็นชาวบ้าน 200 ปีที่ผ่านมา ความท้าทายของ Anthropocene คือการใช้ความฉลาดของมนุษย์ที่จะตั้งขึ้นเพื่อให้โลกสามารถทํางานในศตวรรษที่ 21 ของ. การเพิ่มความยืดหยุ่นของโลกอาจจะเกี่ยวข้องกับการเปลี่ยนแปลงอย่างมากน้อยและจำนวนมากของการเล่นซอ ตัวอย่างของอดีตอาจจะ geoengineering วันนี้ก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ที่ปล่อยออกมามากกับบรรยากาศที่เหลืออยู่ในธรรมชาติที่จะรับซึ่งไม่สามารถทำได้อย่างรวดเร็วพอ แม้ว่าเทคโนโลยียังคงพึ่งความคิดที่ว่ามนุษย์อาจช่วยขจัดคาร์บอนไดออกไซด์จากฟากฟ้าเช่นเดียวกับการใส่มันมีความคาดหวังที่เหมาะสม Anthropocene; มันจะไม่หยุดการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศเวลาเร็ว ๆ นี้ แต่มันอาจจะลดระยะสัญญาเช่าและลดการเปลี่ยนแปลงในทางเคมีในมหาสมุทรที่คาร์บอนส่วนเกินนำเกี่ยวกับ. บ่อยคำตอบจะเล่นซอหาวิธีการที่จะใช้กล้ามเนื้อของมนุษย์ด้วยเม็ดธรรมชาติ มากกว่ากับมันและช่วยให้มันอยู่ในแนวโน้มของ inbuilt ที่จะนำสิ่งที่ การรบกวนของมนุษย์ในวงจรไนโตรเจนไนโตรเจนได้ทำมากขึ้นสามารถใช้ได้กับพืชและสัตว์; มันได้ทำมากน้อยที่จะช่วยจัดการโลกกับสิ่งที่ไนโตรเจนเมื่อพวกเขาได้เสร็จสิ้นกับมัน แต่เราเคยประสบชายฝั่งมากขึ้น "โซนตาย" บุกรุกโดยบุปผาสาหร่ายไนโตรเจนเลี้ยง ค่อนข้างสิ่งเล็ก ๆ เช่นการทำการเกษตรอย่างชาญฉลาดและบำบัดน้ำเสียที่ดีกว่าจะช่วยได้มาก. สำหรับมนุษย์ที่จะมีส่วนร่วมอย่างใกล้ชิดในกระบวนการที่เชื่อมต่อกันจำนวนมากในระดับที่มีความเสี่ยงของดาวเคราะห์ขนาดใหญ่ แต่มันก็เป็นไปได้ที่จะเพิ่มความยืดหยุ่นของโลกที่มักจะผ่านการกระทำที่เรียบง่ายและทีละน้อยถ้าพวกเขามีความคิดที่ดีผ่าน และเป็นหนึ่งในข้อความของ Anthropocene คือว่าการกระทำทีละน้อยอย่างรวดเร็วสามารถเพิ่มได้ถึงการเปลี่ยนแปลงของดาวเคราะห์

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

แล้วกลัวประชาชนจะเป็นประมาณนี้ มันคงจะแปลก ไม่ต้องเป็นห่วง ประวัติศาสตร์ของโลกประกอบด้วยหลายไม่มั่นคงและ เคลมองต์ยุคกว่าถึง . ผู้ที่กล่าวว่า การกระทำของมนุษย์ไม่อาจจะปลายดาวเข้ามาใหม่ไม่มั่นคง ?

บางคนจะต้องการเพียงแค่เอานาฬิกาคืน แต่กลับไปแบบไม่มีเหตุผล หรือศีลธรรมได้ .ดาวที่สามารถเร็ว ๆนี้จะสนับสนุนมนุษย์มากเป็น 10 ล้าน มีการทำงานที่แตกต่างจากคนที่ถือ 1 ล้านคน ส่วนใหญ่เป็นชาวนา , 200 ปีมาแล้ว ความท้าทายของโจว เจี๋ยหลุน คือใช้ความฉลาดของมนุษย์ที่จะกำหนดสิ่งต่าง ๆ เพื่อให้โลกสามารถบรรลุงานศตวรรษที่ 21

)เพิ่มความยืดหยุ่นของโลกอาจจะเกี่ยวข้องกับหลายการเปลี่ยนแปลงและมากเล่นซอ . ตัวอย่างของอดีตอาจจะ geoengineering . วันนี้มากมายก่ายกอง คาร์บอนไดออกไซด์ ออกมาสู่บรรยากาศ เหลือธรรมชาติรับ ซึ่งมันไม่เร็วพอ แม้ว่าเทคโนโลยีจะยังคงตั้งไข่ ,ความคิดที่ว่ามนุษย์จะช่วยขจัดคาร์บอนจากท้องฟ้า รวมทั้งให้มีความคาดหวังที่สมเหตุสมผล โจว เจี๋ยหลุน มันไม่ยอมหยุดการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศได้ตลอดเวลาเร็ว ๆนี้ แต่มันอาจสั้นลงของสัญญาเช่า และลดการเปลี่ยนแปลงในมหาสมุทรเคมีที่คาร์บอนส่วนเกินทำให้

บ่อยคำตอบจะต้องคิดค้นหาวิธี การใช้มนุษย์กล้ามเนื้อด้วยลายไม้ธรรมชาติแทนที่จะต่อต้านมันและช่วยให้มันใน inbuilt มีแนวโน้มที่จะรีไซเคิลสิ่ง มนุษย์รบกวนในวัฏจักรไนโตรเจนได้มากขึ้นไนโตรเจนของพืชและสัตว์ มันมีมากน้อยที่จะช่วยโลกจัดการกับทั้งหมดที่ไนโตรเจนเมื่อพวกเขาเสร็จสิ้นกับมัน แต่ที่เราประสบชายฝั่งมากขึ้น " เคยตายโซน " บุกรุกโดยไนโตรเจนเลี้ยงบุปผาสาหร่าย . มันค่อนข้างเล็กเช่น ฉลาดการบําบัดน้ําเสียดีกว่า จะได้ช่วยได้เยอะ

เพื่อให้มนุษย์ที่เกี่ยวข้องอย่างแนบแน่นในหลายกระบวนการที่เชื่อมโยงระดับดาวเคราะห์มีความเสี่ยงขนาดใหญ่ แต่มันเป็นไปได้ที่จะเพิ่มความยืดหยุ่นของดาว มักผ่านการกระทำง่าย และทีละน้อย ถ้าพวกเขามีความคิดที่ดีผ่านและหนึ่งในข้อความของโจว เจี๋ยหลุนก็คือการกระทำชิ้นได้อย่างรวดเร็วสามารถเพิ่มได้ถึงดาวเคราะห์เปลี่ยนแปลง