คนทั่วไปมีภาพของความสุขว่าเป็นคนที่

คนทั่วไปมีภาพของความสุขว่าเป็นคนที่...
“มีอารมณ์ดี”
“มีชีวิตที่ดี”
“มีอิสระและเป็นตัวของตัวเองที่จะทำในสิ่งที่อยากทำหรือชอบด้วยตนเอง”
“ได้รับการยอมรับไม่ว่าจะเป็นเรื่องเรียนงานงานอดิเรก”
“มีความพึงพอใจในชีวิต”
ฯลฯ
นักคิดและวิชาการหลากหลายแขนงเช่น นักปรัชญา นักเศรษฐศาสตร์ นักสังคมวิทยา และนักจิตวิทยา ได้ให้ภาพของคนที่มีความสุขว่าเป็นคนที่ดำเนินชีวิตได้ดี ลงตัว เป็นคนมีปฏิสัมพันธ์ทางสังคมกับผู้อื่นดี คิดถึงการฆ่าตัวตายน้อย และมีกิจกรรมต่างๆ ในชีวิตที่เป็นสุข

ความสุขและจิตวิทยาเชิงบวก
นักจิตวิทยายุคใหม่ที่เรียกตนเองว่าเป็นกลุ่มจิตวิทยาเชิงบวก หรือ Positive Psychology ได้ให้ความสำคัญกับการพัฒนาบุคคลให้เป็นผู้มีความสุข โดยมีพื้นฐานของความสุขจากการมีมุมมองต่อชีวิตและโลกในเชิงบวก เช่น
การมองโลกในแง่ดี
การมีความหวังและความหมายในชีวิต
การมีสติรู้ตื่นลื่นไหลในกิจกรรม หรือ ภาวะ flow
นักจิตวิทยาในกลุ่มนี้มองว่าความสุข คือ การที่บุคคลประเมินภาพรวมในขณะนั้นว่าเขามีความพึงพอใจในชีวิต มีอารมณ์ด้านบวก เช่น ความรู้สึกผ่อนคลายสบายใจ ความรู้สึกภาคภูมิใจในตนเอง ความรู้สึกเบิกบาน รู้สึกดูแลห่วงใย ใส่ใจ ความรู้สึกดื่มด่ำลึกซึ้งกับคุณความดี และการไม่มีความรู้สึกทางลบ เช่น ความซึมเศร้า ความเสียใจ ความกลัว ความโกรธ ความวิตกกังวล เป็นต้น อารมณ์ด้านบวกในที่นี้ ได้แก่ ความรู้สึกสนุกสนาน ความซาบซึ้งใจ ความสนใจ และความพึงพอใจ
ทั้งนี้อารมณ์ด้านบวกจะเป็นตัวนำให้เกิดผลลัพธ์ที่สำคัญต่อการมีชีวิตที่มีความสุข เช่น การพัฒนาความเป็นมิตร ความพึงพอใจในชีวิต ระดับรายได้ที่มากกว่า ประสบความสำเร็จ และการมีสุขภาพร่างกายที่แข็งแรง รวมทั้งผู้มีประสบการณ์อารมณ์ด้านบวกสม่ำเสมอมักมีแนวโน้มที่จะมีอายุยืนยาว

วิธีสร้างสุขแบบยั่งยืน...ด้วยการพัฒนาพื้นนิสัยด้านบวก
การเติบโตของแนวคิดจิตวิทยาเชิงบวกทำให้นักจิตวิทยาหันมามองการพัฒนาความสุขด้วยการเสริมสร้างความเข้มแข็งภายในที่เรียกว่า พื้นนิสัยด้านบวก หรือ คุณลักษณะด้านบวกของบุคคล พื้นนิสัยด้านบวกนี้จะเป็นแหล่งของความกระตือรือร้นในชีวิต ความซื่อสัตย์ต่อตนเอง การมีความรักแบบเมตตา ความสุขแบบเต็มตื้น ความพึงพอใจในชีวิต และการมีความหวัง ซึ่งทำให้คนเราเข้าถึงความดีงาม และการใช้ปัญญาในการใช้ชีวิตที่ไม่เป็นไปเพื่อตนเองอย่างเดียว
ตัวอย่างการพัฒนาความสุขในแนวทางนี้ได้แก่ การสร้างสุขภาวะทางจิต และการเจริญเมตตาภาวนา
แนวทางแรก คือ “การสร้างสุขภาวะทางจิต หรือ Well-being Therapy” ซึ่งเน้นการพัฒนาคุณลักษณะด้านบวกของบุคคล 6 ด้าน ได้แก่
การเป็นนายเหนือสภาพแวดล้อมรอบตัว ด้วยการเลือกสภาพการณ์ที่เหมาะสมต่อความต้องการและคุณค่าที่ตนเองยึดถือ อย่างกระตือรือร้น โดยไม่ยอมจำนนต่อโชคชะตา
การมุ่งพัฒนาตนเองอย่างต่อเนื่อง ด้วยการเปิดใจกว้างรับประสบการณ์ใหม่ๆ รวมทั้งมีการปรับปรุงและพัฒนาตนเองเพื่อให้มีชีวิตที่ดีขึ้นตลอดเวลา
การใช้ชีวิตอย่างมีเป้าหมายและมีความมุ่งหมายที่ชัดเจน ด้วยการรับรู้ถึงพลังชีวิตหรือเสียงเรียกร้องจากภายใน ที่บอกให้ทำสิ่งที่เขารับรู้ว่ามีความหมายและคุณค่าต่อชีวิต
การมีอิสระที่จะเลือกทำสิ่งต่างๆ ด้วยพิจารณาใคร่ครวญด้วยเหตุและผล โดยยังคงรักษาความสมดุลทั้งจากภายในตนและคนรอบข้าง
การมีทัศนะเชิงบวกต่อตนเอง ด้วยการยอมรับทั้งด้านบวกและด้านลบของตนเอง มีความรู้สึกทางบวกกับช่วงชีวิตของตนเองที่ผ่านมา
การมีความสัมพันธ์แบบผูกพันใกล้ชิดกับคนรอบข้าง มีความไว้ใจ สามารถเปิดใจรับคนอื่น และให้ความรัก ความเมตตาต่อผู้อื่นได้
ในปัจจุบัน ได้มีการทดสอบประสิทธิภาพของแนวทาง การส่งเสริมสุขภาวะ 6 ด้าน ดังกล่าวในผู้ที่ไร้ความสุขแบบเรื้อรังและมีภาวะวิตกกังวล หรือซึมเศร้า ผลการศึกษาพบว่าวิธีการนี้เป็นวิธีการที่เพิ่มความสุขและลดการกลับเป็นซ้ำของภาวะวิตกกังวลหรือซึมเศร้าได้ดีในระยะเวลา 2 ถึง 6 ปี ของการติดตามผล
อีกแนวทางหนึ่ง “การเจริญเมตตาภาวนา หรือ Loving Kindness Meditation” ที่เป็นการฝึกให้ความสนใจกับสิ่งใดสิ่งหนึ่ง ณ ปัจจุบันขณะ ด้วยสภาพจิตใจที่เปิดกว้าง ไม่มีการตัดสิน จากนั้นจึงเพ่งความสนใจไปยังแก่นกลางใจของตนเอง จนเกิดความสุขสงบจากการเจริญสติเมื่อรักษาความสุขทางใจได้ ใจจึงจะเกิดความเมตตา ที่มีความรัก ความสุข และความฉ่ำชุ่มเย็นอยู่ในจิตใจ พลังเมตตานี้สามารถแผ่ออกมาสร้างอารมณ์บวกต่างๆ
ตัวอย่าง การสร้างโปรแกรมการฝึกการเจริญเมตตาภาวนา หรือ Loving Kindness Meditationง่ายๆ ในโครงงานวิจัยของนิสิตจิตวิทยา (เช่น งานวิจัยของ กนกวรรณ สาธุอยู่ศิริกุล ธนิตา สถาพร และ เรณุกา ทองเนียม, 2555) ได้ให้ผู้เข้าร่วมวิจัย
นึกถึงความรัก ความรู้สึกดีๆ ความปรารถนาดี และ
นึกถึงความรัก ความรู้สึกดีๆ ความปรารถนาดี ที่ได้จากคนที่รักและสัมผัสถึงความรักความปรารถนาดีนั้น
นึกถึงความปรารถนาดี 4 ประการ
- ขอให้มีความสุข
- ขอให้มีสุขภาพที่ดี
- ขอให้ฉันประสบความสำเร็จในชีวิต
- ขอให้ฉันมีคลาดแคล้วจากภัยอันตรายทั้งปวง
แล้วส่งความรู้สึกดังกล่าวไปยัง คนที่รักเคารพ คนที่ช่วยเหลือเกื้อกูลกัน และสุดท้าย ไปยังทุกคน ทุกสิ่งมีชีวิต รวมถึงผู้ที่ผู้ฝึกรู้สึกไม่พอใจ
ทบทวนในใจซ้ำๆ 10-15 นาทีต่อวัน
ผลการการเสริมสร้างความสุขแบบนี้ ทำให้ผู้เข้ารับการฝึกรายงานตนว่า พวกเขาสัมผัสได้ถึงการเพิ่มขึ้นของอารมณ์ทางบวกในชีวิตประจำวัน (เช่น ความรัก ความเพลิดเพลินใจ ความรู้สึกกตัญญูรู้คุณ ความพึงพอใจ ความหวัง) ในช่วงระยะเวลา 9 สัปดาห์นับตั้งแต่เริ่มฝึกการเสริมสร้างความสุข
ผลของความสุขดังกล่าวยังทำให้ผู้ฝึกรู้สึกพึงพอใจในชีวิต มีการยอมรับตนเองมากขึ้น และไร้อารมณ์เศร้าอีกด้วย

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

คนทั่วไปมีภาพของความสุขว่าเป็นคนที่... "มีอารมณ์ดี" "มีชีวิตที่ดี" "มีอิสระและเป็นตัวของตัวเองที่จะทำในสิ่งที่อยากทำหรือชอบด้วยตนเอง" "ได้รับการยอมรับไม่ว่าจะเป็นเรื่องเรียนงานงานอดิเรก" "มีความพึงพอใจในชีวิต" ฯลฯ นักคิดและวิชาการหลากหลายแขนงเช่นนักปรัชญานักเศรษฐศาสตร์นักสังคมวิทยาและนักจิตวิทยาได้ให้ภาพของคนที่มีความสุขว่าเป็นคนที่ดำเนินชีวิตได้ดีลงตัวเป็นคนมีปฏิสัมพันธ์ทางสังคมกับผู้อื่นดีคิดถึงการฆ่าตัวตายน้อยและมีกิจกรรมต่าง ๆ ในชีวิตที่เป็นสุข ความสุขและจิตวิทยาเชิงบวก เช่นโดยมีพื้นฐานของความสุขจากการมีมุมมองต่อชีวิตและโลกในเชิงบวกได้ให้ความสำคัญกับการพัฒนาบุคคลให้เป็นผู้มีความสุขนักจิตวิทยายุคใหม่ที่เรียกตนเองว่าเป็นกลุ่มจิตวิทยาเชิงบวกหรือจิตวิทยาการมองโลกในแง่ดี การมีความหวังและความหมายในชีวิต การมีสติรู้ตื่นลื่นไหลในกิจกรรมหรือภาวะไหล นักจิตวิทยาในกลุ่มนี้มองว่าความสุขคือการที่บุคคลประเมินภาพรวมในขณะนั้นว่าเขามีความพึงพอใจในชีวิตมีอารมณ์ด้านบวกเช่นความรู้สึกผ่อนคลายสบายใจความรู้สึกภาคภูมิใจในตนเองความรู้สึกเบิกบานรู้สึกดูแลห่วงใยใส่ใจความรู้สึกดื่มด่ำลึกซึ้งกับคุณความดีและการไม่มีความรู้สึกทางลบเช่นความซึมเศร้าความเสียใจความกลัวความโกรธความวิตกกังวลเป็นต้นอารมณ์ด้านบวกในที่นี้ได้แก่ความรู้สึกสนุกสนานความซาบซึ้งใจความสนใจและความพึงพอใจ ทั้งนี้อารมณ์ด้านบวกจะเป็นตัวนำให้เกิดผลลัพธ์ที่สำคัญต่อการมีชีวิตที่มีความสุขเช่นการพัฒนาความเป็นมิตรความพึงพอใจในชีวิตระดับรายได้ที่มากกว่าประสบความสำเร็จและการมีสุขภาพร่างกายที่แข็งแรงรวมทั้งผู้มีประสบการณ์อารมณ์ด้านบวกสม่ำเสมอมักมีแนวโน้มที่จะมีอายุยืนยาว วิธีสร้างสุขแบบยั่งยืน... ด้วยการพัฒนาพื้นนิสัยด้านบวก การเติบโตของแนวคิดจิตวิทยาเชิงบวกทำให้นักจิตวิทยาหันมามองการพัฒนาความสุขด้วยการเสริมสร้างความเข้มแข็งภายในที่เรียกว่าพื้นนิสัยด้านบวกหรือคุณลักษณะด้านบวกของบุคคลพื้นนิสัยด้านบวกนี้จะเป็นแหล่งของความกระตือรือร้นในชีวิตความซื่อสัตย์ต่อตนเองการมีความรักแบบเมตตาความสุขแบบเต็มตื้นความพึงพอใจในชีวิตและการมีความหวังซึ่งทำให้คนเราเข้าถึงความดีงามและการใช้ปัญญาในการใช้ชีวิตที่ไม่เป็นไปเพื่อตนเองอย่างเดียว ตัวอย่างการพัฒนาความสุขในแนวทางนี้ได้แก่การสร้างสุขภาวะทางจิตและการเจริญเมตตาภาวนา แนวทางแรกคือ "รักษาสุขภาพหรือการสร้างสุขภาวะทางจิต" ซึ่งเน้นการพัฒนาคุณลักษณะด้านบวกของบุคคล 6 ด้านได้แก่การเป็นนายเหนือสภาพแวดล้อมรอบตัวด้วยการเลือกสภาพการณ์ที่เหมาะสมต่อความต้องการและคุณค่าที่ตนเองยึดถืออย่างกระตือรือร้นโดยไม่ยอมจำนนต่อโชคชะตาการมุ่งพัฒนาตนเองอย่างต่อเนื่องด้วยการเปิดใจกว้างรับประสบการณ์ใหม่ ๆ รวมทั้งมีการปรับปรุงและพัฒนาตนเองเพื่อให้มีชีวิตที่ดีขึ้นตลอดเวลาการใช้ชีวิตอย่างมีเป้าหมายและมีความมุ่งหมายที่ชัดเจนด้วยการรับรู้ถึงพลังชีวิตหรือเสียงเรียกร้องจากภายในที่บอกให้ทำสิ่งที่เขารับรู้ว่ามีความหมายและคุณค่าต่อชีวิต การมีอิสระที่จะเลือกทำสิ่งต่าง ๆ ด้วยพิจารณาใคร่ครวญด้วยเหตุและผลโดยยังคงรักษาความสมดุลทั้งจากภายในตนและคนรอบข้างการมีทัศนะเชิงบวกต่อตนเองด้วยการยอมรับทั้งด้านบวกและด้านลบของตนเองมีความรู้สึกทางบวกกับช่วงชีวิตของตนเองที่ผ่านมาการมีความสัมพันธ์แบบผูกพันใกล้ชิดกับคนรอบข้างมีความไว้ใจสามารถเปิดใจรับคนอื่นและให้ความรักความเมตตาต่อผู้อื่นได้ ในปัจจุบันได้มีการทดสอบประสิทธิภาพของแนวทางการส่งเสริมสุขภาวะ 6 ด้านดังกล่าวในผู้ที่ไร้ความสุขแบบเรื้อรังและมีภาวะวิตกกังวลหรือซึมเศร้าผลการศึกษาพบว่าวิธีการนี้เป็นวิธีการที่เพิ่มความสุขและลดการกลับเป็นซ้ำของภาวะวิตกกังวลหรือซึมเศร้าได้ดีในระยะเวลา 2 ถึง 6 ปีของการติดตามผล อีกแนวทางหนึ่ง "การเจริญเมตตาภาวนาหรือความรักความเมตตาทำสมาธิ" ที่เป็นการฝึกให้ความสนใจกับสิ่งใดสิ่งหนึ่งณปัจจุบันขณะด้วยสภาพจิตใจที่เปิดกว้างไม่มีการตัดสินจากนั้นจึงเพ่งความสนใจไปยังแก่นกลางใจของตนเองจนเกิดความสุขสงบจากการเจริญสติเมื่อรักษาความสุขทางใจได้ใจจึงจะเกิดความเมตตาที่มีความรักความสุขและความฉ่ำชุ่มเย็นอยู่ในจิตใจพลังเมตตานี้สามารถแผ่ออกมาสร้างอารมณ์บวกต่าง ๆ ตัวอย่างการสร้างโปรแกรมการฝึกการเจริญเมตตาภาวนาหรือรักเมตตา Meditationง่าย ๆ ในโครงงานวิจัยของนิสิตจิตวิทยา (เช่นงานวิจัยของกนกวรรณสาธุอยู่ศิริกุลธนิตาสถาพรและเรณุกาทองเนียม 2555) ได้ให้ผู้เข้าร่วมวิจัยนึกถึงความรักความรู้สึกดี ๆ ความปรารถนาดีและนึกถึงความรักความรู้สึกดี ๆ ความปรารถนาดีที่ได้จากคนที่รักและสัมผัสถึงความรักความปรารถนาดีนั้นนึกถึงความปรารถนาดี 4 ประการ -ขอให้มีความสุข -ขอให้มีสุขภาพที่ดี -ขอให้ฉันประสบความสำเร็จในชีวิต -ขอให้ฉันมีคลาดแคล้วจากภัยอันตรายทั้งปวงแล้วส่งความรู้สึกดังกล่าวไปยังคนที่รักเคารพคนที่ช่วยเหลือเกื้อกูลกันและสุดท้ายไปยังทุกคนทุกสิ่งมีชีวิตรวมถึงผู้ที่ผู้ฝึกรู้สึกไม่พอใจนาทีต่อวันทบทวนในใจซ้ำ ๆ 10-15 ผลการการเสริมสร้างความสุขแบบนี้ทำให้ผู้เข้ารับการฝึกรายงานตนว่าพวกเขาสัมผัสได้ถึงการเพิ่มขึ้นของอารมณ์ทางบวกในชีวิตประจำวันสัปดาห์นับตั้งแต่เริ่มฝึกการเสริมสร้างความสุขในช่วงระยะเวลา 9 (เช่นความรักความเพลิดเพลินใจความรู้สึกกตัญญูรู้คุณความพึงพอใจความหวัง) ผลของความสุขดังกล่าวยังทำให้ผู้ฝึกรู้สึกพึงพอใจในชีวิตมีการยอมรับตนเองมากขึ้นและไร้อารมณ์เศร้าอีกด้วย

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

คนทั่วไปมีภาพของความสุขว่า เป็นคนที่ ...
"มีอารมณ์ดี"
"มีชีวิตที่ดี"
"มีอิสระและเป็นตัวของตัวเอง ที่จะทำในสิ่งที่อยากทำหรือชอบด้วยตนเอง "
"ได้รับ การยอมรับไม่ว่าจะเป็นเรื่องเรียน งานงานอดิเรก "
" มีความพึงพอใจในชีวิต "
ฯลฯ
นักคิดและวิชาการหลากหลายแขนงเช่นนักคุณปรัชญานักเศรษฐศาสตร์นักสังคมวิทยาและนักจิตวิทยาได้ให้ภาพของของคุณคนที่มีความสามารถคุณสุขว่าได้เป็นของคุณคนที่ ดำเนินชีวิตได้ดีลงตัวเป็นของคุณคนมีปฏิสัมพันธ์ทางสังคมกับคุณผู้อื่นดีคิดถึงหัวเรื่อง: การฆ่าคุณตัวตายน้อยตั้งขึ้นและมีกิจกรรมต่างๆในห้างหุ้นส่วนจำกัดชีวิตที่เป็นสุข

ความสามารถคุณสุขและจิตวิทยาเชิงบวก
นักจิตวิทยายุคใหม่ที่เรียกตนเองว่าได้เป็นกลุ่มจิตวิทยาเชิงบวกหรือเชิงบวก จิตวิทยาได้ให้ความสามารถสำคัญกับหัวเรื่อง: การพัฒนาบุคคลให้เป็นคุณผู้มีความสามารถคุณสุขโดยมีพื้นฐานของความสามารถคุณสุขจากเนชั่หัวเรื่อง: การมีมุมมองต่อชีวิตและโลกในห้างหุ้นส่วนจำกัดเชิงบวกเช่น
หัวเรื่อง: การมองโลกในห้างหุ้นส่วนจำกัดแง่ดี
หัวเรื่อง: การมีความสามารถหวังและความสามารถหมายในห้างหุ้นส่วนจำกัดชีวิต
หัวเรื่อง: การ มีสติรู้ตื่นลื่นไหลในกิจกรรม หรือภาวะ การไหลของ
นักจิตวิทยาในกลุ่มนี้มองว่าความสุข คือการที่บุคคลประเมินภาพรวมในขณะนั้นว่าเขามีความพึงพอใจในชีวิตมีอารมณ์ด้านบวกเช่นความรู้สึกผ่อนคลายสบายใจความรู้สึกภาคภูมิใจ ในตนเองความรู้สึกเบิกบานรู้สึกดูแลห่วงใย ใส่ใจความรู้สึกดื่มด่ำลึกซึ้งกับคุณความดีและการไม่มีความรู้สึกทางลบเช่นความซึมเศร้าความเสียใจความกลัวความโกรธความวิตกกังวลเป็นต้นอารมณ์ด้านบวกในที่นี้ ได้แก่ ความรู้สึกสนุกสนานความซาบซึ้ง ใจความสามารถสนใจและความสามารถพึงพอใจ
ทั้งนี้อารมณ์ด้านบวกจะเป็นตัวนำให้เกิดผลลัพธ์ที่สำคัญต่อหัวเรื่อง: การมีชีวิตที่มีความสามารถคุณสุขเช่นหัวเรื่อง: การพัฒนาความสามารถเป็นมิตรความสามารถพึงพอใจในห้างหุ้นส่วนจำกัดชีวิตระดับรายได้ที่มากกว่าประสบความสามารถสำเร็จและหัวเรื่อง: การมีสุขภาพ ที่แข็งแรงร่างกายรวมทั้งคุณผู้มีประสบการณ์อารมณ์ด้านบวกสม่ำเสมอมักมีแนวโน้มที่จะมีอายุยืนยาว

วิธีสร้างคุณสุขแบบยั่งยืน ... หัวเรื่อง: การพัฒนาด้วยพื้นนิสัยด้านบวก
หัวเรื่อง: การเติบโตของแนวคิดจิตวิทยาเชิงบวกทำให้นักจิตวิทยาหันมามองหัวเรื่อง: การพัฒนาความสามารถ สุขด้วยการเสริมสร้างความเข้มแข็งภายใน ที่เรียกว่าพื้นนิสัยด้านบวกหรือคุณลักษณะด้านบวกของบุคคลพื้นนิสัยด้านบวกนี้จะเป็นแหล่งของความกระตือรือร้นในชีวิตความซื่อสัตย์ต่อตนเองการมีความรักแบบเมตตาความสุขแบบเต็มตื้นความพึง พอใจในห้างหุ้นส่วนจำกัดชีวิตและหัวเรื่อง: การมีความสามารถหวังซึ่งทำให้ของคุณคนเราเข้าถึงความสามารถดีงามและหัวเรื่อง: การใช้ปัญญาในห้างหุ้นส่วนจำกัดหัวเรื่อง: การใช้ชีวิตที่ไม่เป็นไปเพื่อตนเองอย่างเดียว
ตัวอย่าง arrow หัวเรื่อง: การพัฒนาความสามารถคุณสุขในห้างหุ้นส่วนจำกัดแนวทางนี้ ได้แก่ หัวเรื่อง: การสร้างคุณสุขภาวะทางคุณจิตและหัวเรื่อง: การเจริญ คุณเมตตาภาวนา
แนวทางแรกคือ "การสร้างสุขภาวะทางจิตหรือ Well-being บำบัด" ซึ่งเน้นการพัฒนาคุณลักษณะด้านบวกของ บุคคล 6 ด้าน ได้แก่
หัวเรื่อง: การเป็นที่คุณนายเหนือสภาพแวดล้อมรอบคุณตัวด้วยหัวเรื่อง: การเลือกสภาพการณ์ที่เหมาะสมต่อความสามารถต้องการและคุณค่า ที่ตนเองยึดถืออย่างกระตือรือร้นโดยไม่ยอมจำนนต่อโชคชะตา
หัวเรื่อง: การมุ่งพัฒนาตนเองอย่างต่อเนื่องด้วยหัวเรื่อง: การเปิดใจกว้างรับประสบการณ์ใหม่ ๆ รวมทั้งมีหัวเรื่อง: การปรับปรุงและพัฒนาตนเองเพื่อให้มีชีวิตที่ดีขึ้นตลอดเวลา
หัวเรื่อง: การใช้ชีวิตอย่างมีเป้าหมาย และมีความสามารถมุ่งหมายที่ชัดเจนด้วยหัวเรื่อง: การรับรู้ถึงพลังชีวิตหรือเสียงเรียกร้องจากเนชั่ภายในที่นี่เพื่อดูรูปภาพให้ทำสิ่งที่เขารับรู้ว่าได้มีความสามารถหมายและคุณค่าต่อชีวิต
หัวเรื่อง: การมีอิสระเป็นที่จะเลือกทำสิ่งต่างๆด้วยพิจารณาใคร่ครวญด้วยเหตุ และผลโดยยังคงรักษาความสามารถสมดุลทั้งจากเนชั่ภายในตนและของคุณคนรอบข้าง
หัวเรื่อง: การมีทัศนะเชิงบวกต่อตนเองด้วยหัวเรื่อง: การยอมรับทั้งด้านบวกและด้านลบของตนเองมีความสามารถรู้สึกทางบวกกับช่วงชีวิตของตนเองที่ทางทหารผ่านมา
หัวเรื่อง: การมีความสามารถ สัมพันธ์แบบผูกพันใกล้ชิดกับของคุณคนรอบข้างมีความสามารถไว้ใจด้านเปิดใจรับของคุณคนอื่นและให้ความสามารถรักความสามารถคุณเมตตาต่อคุณผู้อื่นได้
ในห้างหุ้นส่วนจำกัดปัจจุบันได้มีหัวเรื่อง: การทดสอบประสิทธิภาพของแนวทางหัวเรื่อง: การส่งเสริมคุณสุขภาวะ 6 ด้านดังกล่าวในผู้ที่ไร้ความ สุขแบบเรื้อรังและมีภาวะวิตกกังวล หรือซึมเศร้าผลการศึกษาพบว่าวิธีการนี้เป็นวิธีการที่เพิ่มความสุขและลดการกลับเป็นซ้ำของภาวะวิตกกังวลหรือซึมเศร้าได้ดีในระยะเวลา 2 ถึง 6 ปีของการ ติดตามผล
อีกแนวทางคุณหนึ่ง "การเจริญเมตตาภาวนาหรือความรักความเมตตาการทำสมาธิ" ที่เป็นการฝึกให้ความสนใจกับสิ่ง ใดสิ่งหนึ่ง ณ ปัจจุบันขณะด้วยสภาพจิตใจที่เปิดกว้างไม่มีการตัดสินจากนั้นจึงเพ่งความสนใจไปยังแก่นกลางใจของ ตนเองจนเกิดความสามารถคุณสุขสงบจากเนชั่หัวเรื่อง: การเจริญสติเมื่อรักษาความสามารถคุณสุขทางใจได้ใจจึงจะเกิดความสามารถคุณเมตตาที่มีความสามารถรักความสามารถคุณสุขและความสามารถฉ่ำชุ่มเย็นขณะนี้ในห้างหุ้นส่วนจำกัดจิตใจพลังคุณเมตตานี้ด้านแผ่ออกมาสร้างอารมณ์บวกต่างๆ
ตัวอย่าง arrow หัวเรื่อง: การ สร้างโปรแกรมการฝึกการเจริญเมตตาภาวนา หรือ ความรักความเมตตาสมาธิง่ายๆในโครงงานวิจัยของนิสิตจิตวิทยา (เช่นงานวิจัยของกนกวรรณสาธุอยู่ ศิริกุล ธ นิตาสถาพรและเรณุกาทองเนียม 2555) ได้ให้คุณผู้เข้าร่วมวิจัย
นึกถึง ความสามารถรักความสามารถรู้สึกดีๆความสามารถปรารถนาดีและ
นึกถึงความสามารถรักความสามารถรู้สึกดีๆความสามารถปรารถนาดีที่ได้จากเนชั่ของคุณคนที่รักและสัมผัสถึงความสามารถรักความสามารถปรารถนาดีนั้น
นึกถึงความสามารถปรารถนาดี 4 ประการ
- ขอให้มีความสุข
- ขอให้มีสุขภาพ ที่ดี
- ขอให้ฉันประสบความสำเร็จในชีวิต
- ขอให้ฉันมีคลาดแคล้วจากเนชั่ภัยอันตรายทั้งปวง
แล้วส่งความสามารถรู้สึกดังกล่าวไปยังของคุณคนที่รักเคารพของคุณคนที่ช่วยเหลือสร้างเกื้อกูลกันและสุดท้ายไปยังทุกของคุณคนทุกสิ่งมีชีวิตรวมถึง คุณผู้ที่คุณผู้ฝึกรู้สึกไม่พอใจ
ทบทวนในห้างหุ้นส่วนจำกัดใจซ้ำ ๆ 10-15 การธนาคารวันต่อนาทีความสามารถใน
ผลหัวเรื่อง: การหัวเรื่อง: การเสริมสร้างความสามารถคุณสุขแบบนี้ทำให้คุณผู้เข้ารับฝึกหัวเรื่อง: การรายงานตนว่าได้พวกเขาสัมผัสได้ถึงหัวเรื่อง: การเพิ่มขึ้นของอารมณ์ทางบวกในห้างหุ้นส่วนจำกัดชีวิต ประจำวัน (เช่นความรักความเพลิดเพลินใจความรู้สึก กตัญญูรู้คุณความพึงพอใจความหวัง ) ในช่วงระยะเวลา 9 สัปดาห์นับตั้งแต่เริ่มฝึกหัวเรื่อง: การเสริมสร้างความสามารถคุณสุข
ผลของความสามารถคุณสุขดังกล่าวยังทำให้คุณผู้ฝึกรู้สึกพึงพอใจในห้างหุ้นส่วนจำกัดชีวิต มีการยอมรับตนเองมากขึ้นและไร้ อารมณ์เศร้าอีกด้วย

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

คนทั่วไปมีภาพของความสุขว่าเป็นคนที่ . . . . . . ." มีอารมณ์ดี "" มีชีวิตที่ดี "" มีอิสระและเป็นตัวของตัวเองที่จะทำในสิ่งที่อยากทำหรือชอบด้วยตนเอง "" ได้รับการยอมรับไม่ว่าจะเป็นเรื่องเรียนงานงานอดิเรก "" มีความพึงพอใจในชีวิต "ฯลฯนักคิดและวิชาการหลากหลายแขนงเช่นนักปรัชญานักเศรษฐศาสตร์นักสังคมวิทยาและนักจิตวิทยาได้ให้ภาพของคนที่มีความสุขว่าเป็นคนที่ดำเนินชีวิตได้ดีลงตัวเป็นคนมีปฏิสัมพันธ์ทางสังคมกับผู้อื่นดีคิดถึงการฆ่าตัวตายน้อยและมีกิจกรรมต่างๆในชีวิตที่เป็นสุขความสุขและจิตวิทยาเชิงบวกนักจิตวิทยายุคใหม่ที่เรียกตนเองว่าเป็นกลุ่มจิตวิทยาเชิงบวกค็อคบวกจิตวิทยาได้ให้ความสำคัญกับการพัฒนาบุคคลให้เป็นผู้มีความสุขโดยมีพื้นฐานของความสุขจากการมีมุมมองต่อชีวิตและโลกในเชิงบวกเช่นการมองโลกในแง่ดีการมีความหวังและความหมายในชีวิตการมีสติรู้ตื่นลื่นไหลในกิจกรรมค็อคภาวะไหลนักจิตวิทยาในกลุ่มนี้มองว่าความสุขความการที่บุคคลประเมินภาพรวมในขณะนั้นว่าเขามีความพึงพอใจในชีวิตมีอารมณ์ด้านบวกเช่นความรู้สึกผ่อนคลายสบายใจความรู้สึกภาคภูมิใจในตนเองความรู้สึกเบิกบานรู้สึกดูแลห่วงใยใส่ใจความรู้สึกดื่มด่ำลึกซึ้งกับคุณความดีและการไ ม่มีความรู้สึกทางลบเช่นความซึมเศร้าความเสียใจความกลัวความโกรธความวิตกกังวลเป็นต้นอารมณ์ด้านบวกในที่นี้ได้แก่ความรู้สึกสนุกสนานความซาบซึ้งใจความสนใจและความพึงพอใจทั้งนี้อารมณ์ด้านบวกจะเป็นตัวนำให้เกิดผลลัพธ์ที่สำคัญต่อการมีชีวิตที่มีความสุขเช่นการพัฒนาความเป็นมิตรความพึงพอใจในชีวิตระดับรายได้ที่มากกว่าประสบความสำเร็จและการมีสุขภาพร่างกายที่แข็งแรงรวมทั้งผู้มีประสบการณ์อารมณ์ด้านบวกสม่ำเสมอมักมีแนวโน้มที่จะ มีอายุยืนยาวด้วยการพัฒนาพื้นนิสัยด้านบวกวิธีสร้างสุขแบบยั่งยืน . . . . . . .การเติบโตของแนวคิดจิตวิทยาเชิงบวกทำให้นักจิตวิทยาหันมามองการพัฒนาความสุขด้วยการเสริมสร้างความเข้มแข็งภายในที่เรียกว่าพื้นนิสัยด้านบวกค็อคคุณลักษณะด้านบวกของบุคคลพื้นนิสัยด้านบวกนี้จะเ