We have defined the resistance of a

We have defined the
resistance of a ship as the force required to pull the ship by means of a tow rope when the propeller is not there.
Now, we have fitted the propeller. Propeller basically is a hydrodynamic device which pulls water from ahead and throws it back like an axial fan. The water flows fast the propeller impacts energy to the water. So, water flows at a higher velocity around the ship. Now, we have seen that the velocity of water is related to resistance of the ship. So, when the propeller is moving behind the ship due to change of velocity of water in the stern part, there will be a change in the force required to push the ship forward which will be higher. In other words, the thrust that the propeller would give would not be equal to the resistance of the ship, but will have to be higher than the resistance of the ship. Can you understand that?
So

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

เรากำหนด ต้านทานของเรือเป็นกองทัพที่ต้องดึงเรือ โดยเชือกใยเมื่อใบพัดที่ไม่มี ตอนนี้ เรามีสิ่งที่ใบพัด ใบพัดเป็นอุปกรณ์ hydrodynamic ที่ดึงน้ำจากข้างหน้า และพ่นกลับเช่นแกนพัดลม ทั่วไป กระแสน้ำเร็วพลังงานผลกระทบใบพัดน้ำ ดังนั้น น้ำไหลที่ความเร็วสูงรอบเรือ ตอนนี้ เราได้เห็นว่า ความเร็วของน้ำจะเกี่ยวข้องกับความต้านทานของเรือ ดังนั้น เมื่อใบพัดที่ถูกย้ายหลังเรือครบกำหนดการเปลี่ยนแปลงของความเร็วของน้ำในส่วนตรง ๆ จะมีการเปลี่ยนแปลงในกองทัพต้องผลักเรือซึ่งจะสูงขึ้น ในคำอื่น ๆ กระตุกที่ใบพัดที่จะให้จะไม่เท่ากับความต้านทานของเรือ ได้จะต้องสูงกว่าความต้านทานของเรือได้ คุณสามารถเข้าใจได้ว่า ดังนั้น

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

เราได้กำหนดความต้านทานของเรือเป็นแรงที่จำเป็นในการดึงเรือโดยใช้วิธีการดึงเชือกเมื่อใบพัดไม่ได้มี.
ขณะนี้เราได้ติดตั้งใบพัด ใบพัดพื้นเป็นอุปกรณ์อุทกพลศาสตร์ซึ่งจะดึงน้ำจากข้างหน้าและโยนมันกลับมาเหมือนเป็นแฟนแกน น้ำที่ไหลอย่างรวดเร็วส่งผลกระทบต่อใบพัดพลังงานลงไปในน้ำ ดังนั้นน้ำไหลที่ความเร็วสูงรอบเรือ ตอนนี้เราได้เห็นว่าความเร็วของน้ำที่มีความเกี่ยวข้องกับความต้านทานของเรือ ดังนั้นเมื่อใบพัดที่มีการเคลื่อนไหวอยู่เบื้องหลังเรือเนื่องจากการเปลี่ยนแปลงของความเร็วของน้ำในส่วนท้ายจะมีการเปลี่ยนแปลงในการบังคับใช้ที่จำเป็นในการผลักดันเรือไปข้างหน้าซึ่งจะเป็นที่สูงขึ้น ในคำอื่น ๆ แรงผลักดันที่ใบพัดจะให้จะไม่เท่ากับความต้านทานของเรือ แต่จะต้องสูงกว่าความต้านทานของเรือ คุณสามารถเข้าใจว่า?
ดังนั้น

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

เราได้กำหนด
ความต้านทานของเรือเป็นแรงที่จำเป็นเพื่อดึงเรือโดยวิธีการของเชือกเมื่อใบพัดไม่ได้มี
ตอนนี้เราได้ติดตั้งใบพัด ใบพัดโดยทั่วไปเป็นอุปกรณ์ที่ดึงน้ำจากดัชนีล่วงหน้าแล้วโยนมันกลับเหมือนมีพัดลมตามแนวแกน น้ำไหลเร็วใบพัดผลกระทบพลังงานกับน้ำ ดังนั้นน้ำที่ไหลในความเร็วที่สูงขึ้นรอบ ๆเรือ ตอนนี้เราได้เห็นแล้วว่า ความเร็วของน้ำที่เกี่ยวข้องกับความต้านทานของเรือ ดังนั้น เมื่อใบพัดเคลื่อนที่ข้างหลังเรือ เนื่องจากการเปลี่ยนแปลงของความเร็วของน้ำในส่วนที่ท้ายเรือ จะมีการเปลี่ยนแปลงในบังคับต้องดันเรือไปข้างหน้า ซึ่งจะสูงกว่า ในคำอื่น ๆแรงผลักดันที่ใบพัดจะให้จะไม่เท่ากับความต้านทานของเรือ แต่จะต้องสูงกว่าความต้านทานของเรือ คุณเข้าใจไหม ?
ดังนั้น