“If a person’s basic state of mind

“If a person’s basic state of mind is serene and calm, then it is possible for this
inner peace to overwhelm a painful physical experience
.”
- The Dalai Lama. According to Buddhist Monks who have been practicing Meditation for thousand years, a clear and peaceful state of mind can be achieved through this practice. It focuses on an object, visualization, the breath, movement or attention itself to increase awareness of the present moment and to reduce stress. Thus,
meditation should be prescribed as a complementary therapy for the prevention of many stress-related conditions.
Since the early 1960s the practice of Meditation has called the attention of many prominent scientists and as a result, studies of the physiological effects of meditation began. An investigation carried out by the Professor of Medicine Herbert Benson at Harvard University, arrived to the conclusion that mediation alters the chemistry of the brain increasing the perception of positive emotions and balancing the mechanisms associated to stress. Besides, researchers at Washington University found out that Meditation reduces the level of cortisol, which is a stress hormone; subjects who meditated during eight weeks were compared to those who did not, and the former performed better on stressful multitasking tests. Statistics on Meditation in the west culture have shown it has improved lifestyles of people suffering from stress-related conditions. According to the authors Roth and Creaser, a group of inner-city residents suffering from chronic pain, anxiety, depression and hypertension were trained in meditation. As a result, they experienced a 50% reduction in overall psychiatric symptoms, a 70% decrease in anxiety, and a 44% reduction in medical symptoms. What is more, an investigation carried out by Gregg Jacobs at Harvard Medical School arrived to the conclusion that
75
% of long-term insomniacs who have been trained in meditation can fall asleep within 20 minutes after going to bed. To conclude, Meditation should be recommended for patients suffering from conditions triggered by stress. In the recent years scientists and Doctors have shown interest in the effects meditation practice has in people undergoing stressful situations; it should be noticed that many prestigious Universities such as Harvard and Washington have invested their efforts in researching, and undoubtedly, the results are conclusive: Meditation is a key tool to cope with stress-related conditions. Then, through Meditation one can turn to the inner peace to calm down the pain caused by stressful experiences.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

"ถ้าบุคคลสถานะพื้นฐานของจิตใจไม่ สงบ แล้วก็เป็นไปได้นี้ความสงบสุขล้นเป็นประสบการณ์จริงที่เจ็บปวด.”-Dalai Lama ตามพระพุทธที่ได้รับการฝึกทำสมาธิปีพัน รัฐชัดเจน และเงียบสงบของจิตใจสามารถทำได้ผ่านแบบฝึกหัดนี้ เน้นวัตถุ แสดงภาพประกอบเพลง ลมหายใจ ขบวนการ การสนใจตัวเอง เพื่อเพิ่มการรับรู้ของปัจจุบัน และลดความเครียด ดังนั้นควรจะกำหนดสมาธิบำบัดเสริมสำหรับเงื่อนไขที่เกี่ยวข้องกับความเครียดตั้งแต่ช่วงปี 1960 ก่อน เข้าฌานได้เรียกความสนใจของนักวิทยาศาสตร์ที่โดดเด่นมาก และเริ่มศึกษาผลสรีรวิทยาของการทำสมาธิเป็นผล การสอบสวนดำเนินการตามอาจารย์ของแพทย์เฮอร์เบิร์ตเบนสันมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด ถึงบทสรุปว่า กาชาดเปลี่ยนแปลงเคมีของสมองเพิ่มการรับรู้ของอารมณ์บวก และสมดุลกลไกที่เกี่ยวข้องกับความเครียด นอกจาก นักวิจัยที่มหาวิทยาลัยวอชิงตันพบว่า สมาธิช่วยลดระดับของ cortisol ซึ่งเป็นฮอร์โมนความเครียด เรื่องที่ได้ระหว่างแปดสัปดาห์ถูกเปรียบเทียบกับผู้ที่ไม่ และอดีตทำดีบนทดสอบเครียดหลาย สถิติเกี่ยวกับสมาธิในวัฒนธรรมตะวันตกได้แสดงมีการปรับปรุงวิถีชีวิตของคนที่ทุกข์ทรมานจากสภาพความเครียดที่เกี่ยวข้อง ตามผู้เขียนรอดและ Creaser กลุ่มของผู้อยู่อาศัยภายในเมืองที่ทุกข์ทรมานจากอาการปวดเรื้อรัง วิตกกังวล ซึมเศร้า และความดันโลหิตสูงได้รับการอบรมธรรม ดังนั้น พวกเขามีอาการทางจิตเวชโดยรวมลด 50%, 70% ลดลงความวิตกกังวล และลด 44% อาการทางการแพทย์ มีอะไรเพิ่มเติม การสอบสวนที่ดำเนินการ โดยเกร็กเจคอปส์ที่โรงเรียนการแพทย์ฮาร์วาร์ดถึงข้อสรุปที่75%ของ insomniacs ระยะยาวที่ได้รับการฝึกอบรมในการทำสมาธิสามารถจะหลับภายใน 20 นาทีหลังจากเข้านอน เพื่อสรุป สมาธิควรแนะนำสำหรับผู้ป่วยที่ทุกข์ทรมานจากสภาพที่ถูกทริกเกอร์ โดยความเครียด ในปีที่ผ่านมา นักวิทยาศาสตร์และแพทย์ได้แสดงความสนใจในผลกระทบจากการปฏิบัติสมาธิมีคนตามสถานการณ์ที่เครียด จะสังเกตเห็นว่า มหาวิทยาลัยอันทรงเกียรติมากมายเช่นฮาร์วาร์ดและวอชิงตันได้ลงทุนความเพียรพยายามในการค้นหา และไม่ต้องสงสัย ผลลัพธ์ข้อสรุป: สมาธิเป็นเครื่องมือสำคัญเพื่อรับมือกับเงื่อนไขที่เกี่ยวข้องกับความเครียด ผ่านสมาธิ หนึ่งสามารถเปิดเพื่อความสงบสุขภายในสงบความเจ็บปวดที่เกิดจากประสบการณ์เครียด

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

"ถ้ารัฐขั้นพื้นฐานของบุคคลของจิตใจเป็นที่เงียบสงบและเงียบสงบแล้วมันเป็นไปได้สำหรับการนี้ความสงบภายในที่จะครอบงำเป็นประสบการณ์ที่เจ็บปวดทางกายภาพ." - ดาไลลามะ ตามที่ชาวพุทธพระสงฆ์ที่ได้รับการฝึกการทำสมาธิสำหรับพันปีรัฐที่ชัดเจนและความสงบสุขของจิตใจสามารถทำได้โดยการปฏิบัตินี้ จะมุ่งเน้นวัตถุ, การแสดง, ลมหายใจการเคลื่อนไหวหรือความสนใจของตัวเองเพื่อเพิ่มความตระหนักของช่วงเวลาปัจจุบันและเพื่อลดความเครียด ดังนั้นการทำสมาธิควรจะกำหนดเป็นยาเสริมสำหรับการป้องกันของเงื่อนไขที่เกี่ยวข้องกับความเครียดหลาย. ตั้งแต่ต้นปี 1960 การปฏิบัติของการทำสมาธิได้เรียกความสนใจของนักวิทยาศาสตร์ที่ประสบความสำเร็จจำนวนมากและเป็นผลการศึกษาผลกระทบทางสรีรวิทยาของการทำสมาธิเริ่ม การตรวจสอบการดำเนินการโดยศาสตราจารย์แพทย์เฮอร์เบิร์เบนสันที่ Harvard University ที่มาถึงข้อสรุปว่าการไกล่เกลี่ยเปลี่ยนแปลงทางเคมีของสมองที่เพิ่มขึ้นการรับรู้ของอารมณ์เชิงบวกและสมดุลกลไกที่เกี่ยวข้องกับความเครียด นอกจากนี้นักวิจัยที่มหาวิทยาลัยวอชิงตันพบว่าการทำสมาธิจะช่วยลดระดับคอร์ติซอซึ่งเป็นฮอร์โมนความเครียด; อาสาสมัครที่ปฏิบัติในช่วงแปดสัปดาห์ถูกเมื่อเทียบกับผู้ที่ไม่ได้และอดีตทำได้ดีในการทดสอบการทำงานแบบ multitasking เครียด สถิติเกี่ยวกับการทำสมาธิในวัฒนธรรมตะวันตกได้แสดงให้เห็นว่ามันมีการปรับปรุงการดำเนินชีวิตของผู้คนที่ทุกข์ทรมานจากเงื่อนไขที่เกี่ยวข้องกับความเครียด ตามที่ผู้เขียนโรทและ Creaser กลุ่มของผู้อยู่อาศัยในเขตเมืองชั้นที่ทุกข์ทรมานจากอาการปวดเรื้อรังความวิตกกังวลซึมเศร้าและความดันโลหิตสูงได้รับการฝึกฝนในการทำสมาธิ เป็นผลให้พวกเขามีประสบการณ์การลดลง 50% ในอาการทางจิตเวชโดยรวมลดลง 70% ในความวิตกกังวลและลดลง 44% ในอาการทางการแพทย์ อะไรคือสิ่งที่การตรวจสอบการดำเนินการโดยเกร็กจาคอบส์ที่ Harvard Medical School มาถึงข้อสรุปที่ว่า75% ของผู้ที่นอนไม่หลับระยะยาวที่ได้รับการฝึกอบรมในการทำสมาธิสามารถหลับภายใน 20 นาทีหลังจากนั้นจะไปที่เตียง เพื่อสรุปการทำสมาธิควรจะแนะนำสำหรับผู้ป่วยที่ทุกข์ทรมานจากสภาพที่เกิดจากความเครียด ในปีที่ผ่านมานักวิทยาศาสตร์และแพทย์ได้แสดงความสนใจในการฝึกสมาธิมีผลกระทบในคนที่ได้รับการสถานการณ์ที่เครียด; มันควรจะสังเกตเห็นว่ามหาวิทยาลัยที่มีชื่อเสียงหลายอย่างเช่นฮาร์วาร์และวอชิงตันได้ลงทุนพยายามของพวกเขาในการวิจัยและไม่ต้องสงสัยผลลัพธ์ที่ได้ข้อสรุป: การทำสมาธิเป็นเครื่องมือสำคัญในการรับมือกับเงื่อนไขที่เกี่ยวข้องกับความเครียด จากนั้นผ่านการทำสมาธิหนึ่งสามารถเปิดให้สงบภายในที่จะสงบลงปวดที่เกิดจากประสบการณ์ที่เครียด