In the first equation, is the gravi

In the first equation, is the gravitational potential energy, m is the mass of the object, is the magnitude of the acceleration due to gravity, and h is the height of the object above some arbitrary point.


In the second equation, is the spring potential energy, k is the spring constant, and Δx is the displacement from the unstretched spring length.

In the third equation, K is the kinetic energy, m is the mass of the object, and v is the speed.


In the fourth equation, is the work done by friction, which is converted into heat, is the force of friction, and Δx is the total distance the object moved while being acted on by the frictional force.
...which means now we know almost everything we need to know to apply conservation of energy.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ในสมการแรก เป็นพลังงานศักย์โน้มถ่วง m คือมวลของวัตถุ คือ ขนาดของความเร่งเนื่องจากแรงโน้มถ่วง และ h คือ ความสูงของวัตถุข้างต้นบางจุดโดยพลการในสมการที่สอง เป็นพลังงานศักย์ในสปริง k เป็นค่าคงของสปริง และ Δx เป็นระวางจากความยาวสปริง unstretchedในสมการที่สาม K คือ พลังงานจลน์ m คือ มวลของวัตถุ และ v คือ ความเร็วในสมการสี่ เป็นงานที่ทำ โดยแรงเสียดทาน ซึ่งจะถูกแปลงเป็นความร้อน แรงเสียดทาน และ Δx รวมระยะทางที่วัตถุถูกย้ายในขณะที่กำลังดำเนินการโดยแรงแรงเสียดทาน... ปกหมายถึงตอนนี้เรารู้เกือบทุกอย่างที่เราต้องรู้การใช้การอนุรักษ์พลังงาน

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ในสมการแรกเป็นพลังงานที่มีศักยภาพแรงโน้มถ่วง m คือมวลของวัตถุที่เป็นขนาดของความเร่งเนื่องจากแรงโน้มถ่วงและ h คือความสูงของวัตถุสูงกว่าจุดโดยพลบางส่วนได้.


ในสมการที่สองคือฤดูใบไม้ผลิ พลังงานที่มีศักยภาพ, k คือค่าคงที่ในฤดูใบไม้ผลิและΔxคือการกระจัดจากระยะเวลาในฤดูใบไม้ผลิ unstretched ได้.

ในสมการที่สามเคเป็นพลังงานจลน์ m คือมวลของวัตถุและ V คือความเร็ว.


ในสมการที่สี่ เป็นงานที่ทำโดยแรงเสียดทานซึ่งจะถูกแปลงเป็นความร้อนที่เป็นแรงเสียดทานและΔxเป็นระยะทางรวมวัตถุย้ายในขณะที่ถูกดำเนินการโดยกองทัพเสียดทาน.
... ซึ่งหมายความว่าตอนนี้เรารู้เกือบทุกอย่างที่เราต้อง รู้ที่จะใช้การอนุรักษ์พลังงาน

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ในสมการแรก คือพลังงานศักย์จากแรงโน้มถ่วง m คือมวลของวัตถุ คือ ขนาดของความเร่งเนื่องจากแรงโน้มถ่วงและ h คือความสูงของวัตถุเหนือบางจุดโดยพลการในสมการที่สอง คือฤดูใบไม้ผลิ ศักยภาพพลังงาน k คือค่าคงตัวสปริง และΔ X คือการกระจัดจากความยาวโดยที่สปริงไม่ได้ยืดออกในสมการที่ 3 K คือพลังงานจลน์ , m คือมวลของวัตถุ และ v คือความเร็วในสมการที่ 4 คือ งานที่ทำโดยแรงเสียดทาน ซึ่งจะถูกเปลี่ยนเป็นร้อน เป็นแรงเสียดทาน และΔ x คือระยะทางทั้งหมดวัตถุย้ายในขณะที่ถูกทำโดยแรงเสียดทาน .. . . . . . . ซึ่งหมายความว่า ตอนนี้เรารู้เกือบทุกอย่างที่เราต้องรู้เพื่อใช้ในการอนุรักษ์พลังงาน