Shampoo is generally made by combin

Shampoo is generally made by combining a surfactant, most often sodium lauryl sulfate or sodium laureth sulfate, with a co-surfactant, most often cocamidopropyl betaine in water to form a thick, viscous liquid. Other essential ingredients include salt (sodium chloride), which is used to adjust the viscosity, a preservative and fragrance.[18][19] Other ingredients are generally included in shampoo formulations to maximize the following qualities:

pleasing foam
ease of rinsing
minimal skin and eye irritation
thick or creamy feeling
pleasant fragrance[20]
low toxicity
good biodegradability
slight acidity (pH less than 7)
no damage to hair
repair of damage already done to hair
Many shampoos are pearlescent. This effect is achieved by addition of tiny flakes of suitable materials, e.g. glycol distearate, chemically derived from stearic acid, which may have either animal or vegetable origins. Glycol distearate is a wax. Many shampoos also include silicone to provide conditioning benefits.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

โดยทั่วไปมีทำแชมพู โดยรวมเป็น surfactant หรือส่วนใหญ่มักโซเดียม lauryl ซัลเฟตโซเดียม ซัลเฟตฟ้า กับ surfactant ร่วม มัก cocamidopropyl betaine ในน้ำแบบเหลวข้น หนา ส่วนผสมสำคัญอื่น ๆ ได้แก่เกลือ (โซเดียมคลอไรด์), ซึ่งใช้ปรับความหนืด preservative และกลิ่นหอม [18] [19] โดยทั่วไปอยู่อื่น ๆ ส่วนผสมในแชมพูเพื่อเพิ่มคุณสมบัติต่อไปนี้:โฟมที่ชื่นชอบความสะดวกในการล้างระคายเคืองผิวและตาน้อยที่สุดรู้สึกหนา หรือครีมจมูก [20]ความเป็นพิษต่ำbiodegradability ดีมีเล็กน้อย (pH น้อยกว่า 7)ไม่ทำลายเส้นผมซ่อมแซมความเสียหายแล้วทำให้ผมแชมพูหลาย pearlescent ได้ ผลนี้จะกระทำ โดยการเพิ่ม flakes เล็ก ๆ ของวัสดุที่เหมาะสม เช่น glycol distearate ได้รับสารเคมีจากกรด stearic ซึ่งอาจมีสัตว์หรือจุดเริ่มต้นของผัก Glycol distearate เป็นตัวขี้ผึ้ง ในแชมพูได้แก่ซิลิโคนให้ปรับประโยชน์

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

แชมพูที่ทำโดยทั่วไปรวมลดแรงตึงผิวส่วนใหญ่มักจะซัลเฟต lauryl โซเดียมหรือโซเดียมซัลเฟต laureth กับผู้ร่วมลดแรงตึงผิวส่วนใหญ่มักจะ Cocamidopropyl betaine ในน้ำในรูปแบบหนาของเหลวข้นหนืด ส่วนผสมสำคัญอื่น ๆ ได้แก่ เกลือ (โซเดียมคลอไรด์) ซึ่งจะใช้ในการปรับความหนืดของสารกันบูดและกลิ่นหอม [18] [19] ส่วนผสมอื่น ๆ ที่จะถูกรวมโดยทั่วไปในสูตรแชมพูเพื่อเพิ่มคุณภาพต่อไปนี้:. ชื่นชอบโฟมความสะดวกในการล้างผิวน้อยที่สุดและการระคายเคืองตาหนาหรือความรู้สึกครีมกลิ่นหอมรื่นรมย์[20] ความเป็นพิษต่ำย่อยสลายทางชีวภาพที่ดีความเป็นกรดเล็กน้อย(pH น้อยกว่า 7) ความเสียหายให้กับผมไม่มีการซ่อมแซมความเสียหายที่กระทำไปแล้วผมแชมพูหลายคนมีมุก ผลกระทบนี้จะประสบความสำเร็จโดยนอกเหนือจากสะเก็ดเล็ก ๆ ของวัสดุที่เหมาะสมเช่น distearate ไกลคอลที่ได้มาจากสารเคมีกรดสเตียซึ่งอาจจะมีสัตว์หรือพืชทั้งต้นกำเนิด ไกลคอล distearate เป็นขี้ผึ้ง แชมพูจำนวนมากยังรวมถึงซิลิโคนเพื่อให้เกิดประโยชน์เครื่อง

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

แชมพูโดยทั่วไปจะทำโดยการรวมการใช้บ่อยที่สุด laureth โซเดียมซัลเฟตหรือโซเดียมซัลเฟตกับ Co สารลดแรงตึงผิวส่วนใหญ่มักจะคอคามิโดโพรพิลีนในน้ำแบบข้นหนืดของของเหลว ส่วนผสมที่จำเป็นอื่น ๆ ได้แก่ เกลือ ( โซเดียมคลอไรด์ ) ซึ่งจะใช้ในการปรับค่าความหนืด สารกันบูด และน้ำหอม[ 18 ] [ 19 ] ส่วนผสมอื่น ๆโดยทั่วไปจะรวมอยู่ในแชมพูสูตรเพื่อเพิ่มคุณภาพดังต่อไปนี้ :

ถูกใจ

ง่ายโฟมล้างน้อยที่สุดการระคายเคืองผิวหนังและตา

รู้สึกหนาหรือครีมกลิ่นหอมสบาย [ 20 ]


ดีพิษย่อยสลายทางชีวภาพต่ำเล็กน้อยกรด ( pH น้อยกว่า 7 )
ไม่มีเสียหาย ซ่อมแซมความเสียหายแล้วผม

ผมหลายแชมพูเป็น Pearlescent .ผลนี้ได้เพิ่มเกล็ดเล็ก ๆของวัสดุที่เหมาะสม เช่น distearate สาร เคมีที่ได้จากกรดสเตียริก ซึ่งอาจมีทั้งสัตว์หรือต้นพืช ไกลคอล distearate เป็นขี้ผึ้ง แชมพูหลายยังรวมถึงซิลิโคนเพื่อให้ประโยชน์
เครื่องปรับอากาศ