According to Greg Bradburn, evapora

According to Greg Bradburn, evaporation occurs when there is an increased energy present and occurs rapidly. It occurs from the bottom of the container when allowed to boil. The bubbles form at the bottom of the container and then rise on top of the container. In boiling, bubbles do not form at the bottom and rise to the surface. Evaporation occurs at room temperature and therefore, occurs at a slower rate when compared to boiling.

In boiling, there is formation of bubbles as it is a complex physical process and these bubbles are formed on a heated liquid. There is cavitation and acoustic effects seen in boiling. There is no such bubbles formed in evaporation and there is no cavitation and acoustic effect present in evaporation.



The microscopic difference between evaporation and boiling is as follows:

In boiling, the motion of particles is increased and this force separates the particles apart from each other. The temperature is uniform and the boiling also occurs throughout. In evaporation the movement of the particles is not the same. Few particles move at slower speed and few particles move at an increased speed. The surface particles are held in place by the particles beneath the surface layer and the particles in the middle layer is held by the forces acting on the sides of the container. The particles on the surface can break easily from the liquid.



Read more: Difference Between Evaporation and Boiling | Difference Between | Evaporation vs Boiling http://www.differencebetween.net/science/difference-between-evaporation-and-boiling/#ixzz347bRi4fm

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ตามกา Bradburn ระเหยเกิดมีพลังงานเพิ่มขึ้น และเกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว มันเกิดขึ้นจากด้านล่างของภาชนะบรรจุเมื่อได้รับอนุญาตให้ต้ม ฟองอากาศแบบที่ด้านล่างของภาชนะบรรจุ และขึ้นบนภาชนะบรรจุแล้ว ในเดือด ฟองได้ที่ด้านล่างและขึ้นสู่พื้นผิว เกิดการระเหยที่อุณหภูมิห้องดัง นั้น เกิดขึ้นในอัตราช้าลงเมื่อเทียบกับเดือดนั้น

ในเดือด มีการก่อตัวของฟองอากาศซึ่งเป็นกระบวนการซับซ้อนทางกายภาพ และฟองอากาศเหล่านี้จะเกิดขึ้นของเหลวอุ่น มี cavitation และลักษณะอะคูสติกในเดือด มีไม่มีฟองดังกล่าวที่เกิดขึ้นในการระเหย และมีไม่ cavitation และอคูสติกผลในระเหย



กล้องจุลทรรศน์ความแตกต่างระหว่างการระเหยและการเดือดเป็นดังนี้:

ในเดือด เพิ่มการเคลื่อนไหวของอนุภาค และแรงนี้แยกอนุภาคจากกัน อุณหภูมิจะสม่ำเสมอ และเดือดเกิดขึ้นตลอด ในการระเหย การเคลื่อนไหวของอนุภาคจะไม่เหมือนกัน อนุภาคบางย้ายที่ความเร็วช้าลง และอนุภาคน้อยย้ายที่ความเร็วเพิ่มขึ้น อนุภาคผิวจะมีขึ้นในสถานที่ โดยอนุภาคใต้ชั้นผิว และอนุภาคในชั้นกลางถูกจัดขึ้น โดยกองกำลังที่ทำหน้าที่ด้านภาชนะบรรจุ อนุภาคบนพื้นผิวสามารถแบ่งง่าย ๆ จากของเหลว


อ่านเพิ่มเติม: ความแตกต่างระหว่างระเหยและเดือด | ความแตกต่างระหว่าง | เทียบกับระเหยเดือด http://www.differencebetweenสุทธิ/วิทยาศาสตร์/ผลต่างระหว่างระเหย และ เดือด/#ixzz347bRi4fm

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ตาม bradburn เกร็ก การระเหยจะเกิดขึ้นเมื่อมีการเพิ่มพลังงานในปัจจุบัน และจะเกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว มันเกิดขึ้นจากด้านล่างของภาชนะ เมื่อได้รับอนุญาตให้เดือด ฟองอากาศแบบฟอร์มที่ด้านล่างของภาชนะบรรจุแล้วขึ้นด้านบนของภาชนะ เดือด , ฟองไม่ฟอร์มที่ด้านล่างและขึ้นสู่พื้นผิว การระเหยจะเกิดขึ้นที่อุณหภูมิห้องและ ดังนั้นเกิดขึ้นในอัตราที่ช้าลงเมื่อเทียบกับเดือด

ในเดือด มีการสร้างฟองอากาศมันซับซ้อนทางกายภาพกระบวนการและฟองอากาศเหล่านี้จะเกิดขึ้นในของเหลวร้อน มีโพรงอากาศและเสียงผลที่เห็นในการต้ม ไม่มีฟองเกิดขึ้นในการระเหยและไม่มีโพรงอากาศและเสียง Effect ปัจจุบัน



ในการระเหยความแตกต่างระหว่างการระเหยด้วยต้มมีดังนี้

ในเดือด การเคลื่อนที่ของอนุภาคจะเพิ่มขึ้นและนี้บังคับแยกอนุภาคที่แตกต่างจากแต่ละอื่น ๆ อุณหภูมิสม่ำเสมอและเดือดยังเกิดขึ้นตลอด ในการระเหย การเคลื่อนไหวของอนุภาค จะไม่เหมือนเดิม ไม่ย้ายที่ช้ากว่าความเร็วอนุภาคและอนุภาคน้อยย้ายที่ความเร็วที่เพิ่มขึ้น .พื้นผิวของอนุภาคจะจัดขึ้นในสถานที่โดยอนุภาคที่อยู่ใต้ชั้นผิว และอนุภาคในชั้นกลางจะจัดขึ้นโดยกำลังแสดงอยู่บนด้านข้างของภาชนะ อนุภาคบนพื้นผิวสามารถแบ่งได้อย่างง่ายดายจากของเหลว .



อ่านเพิ่มเติม : ความแตกต่างระหว่างการระเหยและเดือด | ความแตกต่างระหว่าง | การระเหย ปะทะเดือด http://www.differencebetween .สุทธิ / วิทยาศาสตร์ / ความแตกต่างระหว่างการระเหยและเดือด / # ixzz347bri4fm