There are seven major classes of nu

There are seven major classes of nutrients: carbohydrates, fats, dietary fiber, minerals, proteins, vitamins, and water.
These nutrient classes can be categorized as either macronutrients (needed in relatively large amounts) or micronutrients (needed in smaller quantities). The macronutrients are carbohydrates, fats, fiber, proteins, and water. The micronutrients are minerals and vitamins.
The macronutrients (excluding fiber and water) provide structural material (amino acids from which proteins are built, and lipids from which cell membranes and some signaling molecules are built), energy. Some of the structural material can be used to generate energy internally, and in either case it is measured in Joules or kilocalories (often called "Calories" and written with a capital C to distinguish them from little 'c' calories). Carbohydrates and proteins provide 17 kJ approximately (4 kcal) of energy per gram, while fats provide 37 kJ (9 kcal) per gram,[3] though the net energy from either depends on such factors as absorption and digestive effort, which vary substantially from instance to instance. Vitamins, minerals, fiber, and water do not provide energy, but are required for other reasons. A third class of dietary material, fiber (i.e., non-digestible material such as cellulose), seems also to be required, for both mechanical and biochemical reasons, though the exact reasons remain unclear.
Molecules of carbohydrates and fats consist of carbon, hydrogen, and oxygen atoms. Carbohydrates range from simple monosaccharides (glucose, fructose, galactose) to complex polysaccharides (starch). Fats are triglycerides, made of assorted fatty acid monomers bound to a glycerol backbone. Some fatty acids, but not all, are essential in the diet: they cannot be synthesized in the body. Protein molecules contain nitrogen atoms in addition to carbon, oxygen, and hydrogen. The fundamental components of protein are nitrogen-containing amino acids, some of which are essential in the sense that humans cannot make them internally. Some of the amino acids are convertible (with the expenditure of energy) to glucose and can be used for energy production just as ordinary glucose. By breaking down existing protein, some glucose can be produced internally; the remaining amino acids are discarded, primarily as urea in urine. This occurs naturally when atrophy takes place, or during periods of starvation.
Other micronutrients include antioxidants and phytochemicals which are said to influence (or protect) some body systems. Their necessity is not as well established as in the case of, for instance, vitamins.
Most foods contain a mix of some or all of the nutrient classes, together with other substances. Some nutrients can be stored internally (e.g., the fat soluble vitamins), while others are required more or less continuously. Poor health can be caused by a lack of required nutrients or, in extreme cases, too much of a required nutrient. For example, both salt and water (both absolutely required) will cause illness or even death in too large amounts.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

มีเจ็ดชั้นเรียนที่สำคัญของสารอาหาร:. คาร์โบไฮเดรตไขมันใยอาหารแร่ธาตุโปรตีน, วิตามินและน้ำ
เรียนเหล่านี้สารอาหารที่สามารถแบ่งออกเป็นธาตุอาหารอย่างใดอย่างหนึ่ง (ที่จำเป็นในปริมาณที่ค่อนข้างใหญ่) หรือธาตุอาหารเสริม (ที่จำเป็นในปริมาณขนาดเล็ก) ธาตุอาหารที่มีคาร์โบไฮเดรตไขมันเส้นใยโปรตีนและน้ำ ธาตุอาหารที่มีแร่ธาตุและวิตามิน.
ธาตุอาหาร (ไม่รวมเส้นใยและน้ำ) ให้วัสดุโครงสร้าง (กรดอะมิโนจากโปรตีนที่ถูกสร้างขึ้นและไขมันที่เยื่อหุ้มเซลล์และบางสัญญาณโมเลกุลที่ถูกสร้างขึ้น), พลังงาน บางส่วนของวัสดุโครงสร้างที่สามารถใช้ในการสร้างพลังงานภายในและในกรณีอย่างใดอย่างหนึ่งมันมีหน่วยวัดเป็นจูลส์หรือกิโลแคลอรี (มักเรียกว่า "แคลอรี่" และเขียนด้วยทุน c เพื่อแยกพวกเขาออกจากแคลอรี่น้อย 'c') คาร์โบไฮเดรตและโปรตีนให้ประมาณ 17 kj (4 กิโลแคลอรี) ของพลังงานต่อกรัมในขณะที่ไขมันให้ 37 kj (9 กิโลแคลอรี) ต่อกรัม, [3] แม้ว่าพลังงานสุทธิจากการอย่างใดอย่างหนึ่งขึ้นอยู่กับปัจจัยต่างๆเช่นการดูดซึมและความพยายามในการย่อยอาหารซึ่งแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญจากตัวอย่างที่ยกตัวอย่างเช่น วิตามินแร่ธาตุเส้นใยและน้ำไม่ให้พลังงาน แต่ต้องมีเหตุผลอื่น ๆ ชั้นที่สามของวัสดุอาหารเส้นใย (เช่นวัสดุที่ย่อยไม่เช่นเซลลูโลส) ดูเหมือนว่ายังจะต้องสำหรับเหตุผลทั้งทางกลและทางชีวเคมี แต่เหตุผลที่แน่นอนยังไม่ชัดเจน.
โมเลกุลของคาร์โบไฮเดรตและไขมันประกอบด้วยอะตอมของคาร์บอนไฮโดรเจนและออกซิเจน คาร์โบไฮเดรตช่วงจาก monosaccharides ง่าย (กลูโคสฟรุกโตส, กาแลคโต) เพื่อ polysaccharides ที่ซับซ้อน (แป้ง) ไขมันไตรกลีเซอไรด์ที่ทำจากสารพันโมโนเมอร์ของกรดไขมันผูกพันกับแกนนำกลีเซอรอล กรดไขมันบางส่วน แต่ไม่ทั้งหมดที่มีความจำเป็นในอาหารของพวกเขาไม่สามารถสังเคราะห์ในร่างกายโมเลกุลของโปรตีนที่มีไนโตรเจนอะตอมนอกเหนือไปจากคาร์บอนออกซิเจนและไฮโดรเจน องค์ประกอบพื้นฐานของโปรตีนไนโตรเจนที่มีกรดอะมิโนบางส่วนที่มีความสำคัญในแง่ที่ว่ามนุษย์ไม่สามารถทำให้พวกเขาภายใน บางส่วนของกรดอะมิโนที่มีการแปลงสภาพ (โดยมีค่าใช้จ่ายของพลังงาน) เพื่อกลูโคสและสามารถใช้สำหรับการผลิตพลังงานเพียงแค่สามัญเป็นกลูโคสโดยทำลายลงโปรตีนที่มีอยู่กลูโคสบางส่วนสามารถผลิตได้ภายใน; กรดอะมิโนที่เหลือจะถูกทิ้งส่วนใหญ่เป็นยูเรียในปัสสาวะ นี้เกิดขึ้นตามธรรมชาติเมื่อฝ่อจะเกิดขึ้นหรือในช่วงระยะเวลาของความอดอยาก.
จุลธาตุอื่น ๆ รวมถึงสารต้านอนุมูลอิสระและสารอาหารจากพืชที่มีการกล่าวว่าจะมีอิทธิพลต่อ (หรือป้องกัน) บางระบบต่างๆของร่างกายความจำเป็นของพวกเขาจะไม่เป็นที่ยอมรับเช่นเดียวกับในกรณีของตัวอย่างเช่นวิตามิน.
ที่สุดที่อาหารที่มีส่วนผสมของบางส่วนหรือทั้งหมดของชั้นเรียนสารอาหารร่วมกับสารอื่น ๆ สารอาหารบางอย่างสามารถเก็บไว้ภายใน (เช่นวิตามินที่ละลายในไขมัน) ในขณะที่คนอื่น ๆ จะต้องขึ้นหรือน้อยลงอย่างต่อเนื่อง สุขภาพไม่ดีสามารถเกิดจากการขาดสารอาหารที่จำเป็นหรือในกรณีที่รุนแรง,มากเกินไปของสารอาหารที่จำเป็น ตัวอย่างเช่นเกลือและน้ำ (ทั้งต้องอย่างแน่นอน) จะทำให้เกิดการเจ็บป่วยหรือแม้กระทั่งความตายในปริมาณที่มีขนาดใหญ่เกินไป

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

มีเจ็ดชั้นสำคัญของสารอาหาร: คาร์โบไฮเดรต ไขมัน ใยอาหาร เกลือแร่ โปรตีน วิตามิน และน้ำ.
เรียนธาตุอาหารเหล่านี้สามารถจัดประเภทเป็นรับ (ใช้ในขนาดค่อนข้างใหญ่) หรือองค์ประกอบตามโรค (ใช้ในปริมาณน้อย) รับมีคาร์โบไฮเดรต ไขมัน ไฟเบอร์ โปรตีน และน้ำ องค์ประกอบตามโรคมีวิตามินและเกลือแร่
รับ (ไม่รวมใยและน้ำ) (กรดอะมิโนโปรตีนถูกสร้างขึ้น และโครงการที่เยื่อหุ้มเซลล์และโมเลกุลบาง signaling สร้าง), โครงสร้างวัสดุให้พลังงาน วัสดุโครงสร้างบางอย่างสามารถใช้ในการสร้างพลังงานภายใน และในกรณีใด จะวัดใน Joules หรือ kilocalories (มักเรียกว่า "แคลอรี่" และเขียน ด้วยทุน C แตกต่างจากแคลอรี่น้อย 'c') คาร์โบไฮเดรตและโปรตีนให้ 17 kJ ประมาณ (4 กิโลแคลอรี่) ของพลังงานต่อกรัม ในขณะที่ไขมันให้ 37 kJ (9 กิโลแคลอรี) ต่อกรัม, [3] แม้ว่าพลังงานสุทธิจากขึ้นอยู่กับปัจจัยดังกล่าวเป็นการดูดซึมและย่อยอาหารพยายาม ซึ่งแตกต่างกันมากอย่างไปอย่าง วิตามิน แร่ธาตุ ไฟเบอร์ และน้ำไม่ให้พลังงาน แต่จำเป็นต้องมีเหตุผลอื่น ๆ ชั้นที่สามเป็นวัสดุอาหาร ไฟเบอร์ (เช่น ไม่ใช่ digestible วัสดุเช่นเซลลูโลส), น่ายังจะต้อง เหตุผลชีวเคมี และเครื่องจักรกล แม้ว่าเหตุผลแท้จริงยังคงไม่ชัดเจน
โมเลกุลของคาร์โบไฮเดรตและไขมันประกอบด้วยคาร์บอน ไฮโดรเจน และออกซิเจนอะตอม คาร์โบไฮเดรตการช่วงตั้งแต่เรื่อง monosaccharides (กลูโคส ฟรักโทส กาแล็กโทส) ถึงซับซ้อน polysaccharides (แป้ง) ไขมันระดับไตรกลีเซอไรด์ ทำจาก monomers สารพันกรดไขมันกับกลีเซอรกระดูกสันหลังได้ กรดไขมันบาง แต่ไม่ทั้งหมด มีความสำคัญในอาหาร: ไม่สามารถสังเคราะห์ในร่างกายได้ โมเลกุลโปรตีนประกอบด้วยไนโตรเจนอะตอมนอก จากคาร์บอน ออกซิเจน ไฮโดรเจน ส่วนประกอบพื้นฐานของโปรตีนประกอบด้วยไนโตรเจนกรดอะมิโน ซึ่งมีความสำคัญในแง่ที่ว่า มนุษย์ไม่สามารถทำให้ภายใน กรดอะมิโนมีแปลง (มีรายจ่ายพลังงาน) ให้กลูโคส และสามารถใช้สำหรับผลิตพลังงานกลูโคสปกติก็ โดยแบ่งกลุ่มโปรตีนที่มีอยู่ น้ำตาลกลูโคสบางส่วนสามารถผลิตภายใน กรดอะมิโนที่เหลือจะถูกทิ้งไป เป็นยูเรียในปัสสาวะเป็นหลัก นี้เกิดขึ้นตามธรรมชาติ เมื่อเกิดการฝ่อ หรือใน ระหว่างรอบระยะเวลาของความอดอยาก
รวมองค์ประกอบตามโรคอื่น ๆ สารต้านอนุมูลอิสระและ phytochemicals ซึ่งกล่าวว่า การมีอิทธิพลต่อ (ป้องกัน) บางระบบของร่างกาย ความจำเป็นของไม่ดีสำเร็จตามที่กำหนด เช่น วิตามิน
อาหารส่วนใหญ่ประกอบด้วยการผสมธาตุอาหารชั้นเรียน ร่วมกับสารอื่น ๆ ทั้งหมดหรือบางส่วน สารอาหารบางอย่างสามารถถูกเก็บไว้ภายใน (เช่น การละลายไขมันวิตามิน), ในขณะที่คนอื่น ๆ จำเป็นมากน้อยอย่างต่อเนื่องได้ สุขภาพไม่ดีอาจเกิดจากการขาดสารอาหารที่จำเป็น หรือ ใน กรณีที่รุนแรง มากเกินไปของสารอาหารที่จำเป็น ตัวอย่าง เกลือและน้ำ (ทั้งสองอย่างต้อง) จะทำให้เจ็บป่วยหรือตายในปริมาณมากเกินไป

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

มี 7 ชั้นเรียนหลักของสารอาหารไขมันคาร์โบไฮเดรตเกลือแร่เส้นใยอาหารโปรตีนวิตามินและน้ำ.
ชั้นเรียนสารอาหารเหล่านี้สามารถแบ่งออกเป็นทั้งว่าสารอาหารหลัก(จำเป็นต้องอยู่ในปริมาณขนาดใหญ่)หรือสารอาหาร(จำเป็นต้องเป็นจำนวนมากมีขนาดเล็กกว่า) ที่ว่าสารอาหารหลักคือคาร์โบไฮเดรตเส้นใยโปรตีนไขมันและน้ำ สารอาหารที่มีวิตามินและเกลือแร่.
ว่าสารอาหารหลัก(ไม่รวมน้ำและเส้นใย)จัดให้มีโครงสร้างวัสดุ(เป็นกรดอะมิโนจากที่มีโปรตีนและไขมันสร้างขึ้นจากที่เซลล์เยื่อหุ้มแผ่นและโมเลกุลของสัญญาณบางอย่างจะสร้างขึ้น)ประหยัดพลังงาน วัสดุโครงสร้างบางส่วนที่สามารถใช้ในการสร้างพลังงาน ภายในและไม่ว่าในกรณีใดก็เป็นการวัดใน kilocalories หรือจูล(มักเรียกว่า"แคลอรี่"และเขียนด้วยเงินทุนที่ C เพื่อสร้างความแตกต่างจากน้อย' C 'แคลอรี่) โปรตีนคาร์โบไฮเดรตและจัดให้บริการประมาณ 17 kJ ( 4 kcal )ของการใช้พลังงานต่อกรัมในขณะที่ไขมันให้ 37 kJ ( 9 kcal )ต่อกรัม[ 3 ]แม้พลังงานสุทธิจากขึ้นอยู่กับปัจจัยเช่นช่วยดูดซับแรงกระแทกและความพยายามย่อยอาหารซึ่งแตกต่างกันไปอย่างมากจากตัวอย่างเช่นการยกตัวอย่างเช่น วิตามินไฟเบอร์และแร่ธาตุต่างๆน้ำไม่ให้ใช้พลังงานแต่มีที่จำเป็นสำหรับเหตุผลอื่น. Class B - Class ที่สามของวัสดุเส้นใยอาหาร(เช่นไม่ใช่ย่อยง่ายวัสดุต่างๆเช่นเซลลูโลส)ดูเหมือนจะยังเป็นที่ต้องการสำหรับเหตุผลกลไกและทางชีวเคมีทั้งสองแม้จะด้วยเหตุผลที่แน่นอนจะยังคงไม่ชัดเจน.
โมเลกุลของไขมันและคาร์โบไฮเดรตประกอบด้วยของอะตอมออกซิเจนและไฮโดรเจนคาร์บอน คาร์โบไฮเดรตช่วงจาก monosaccharides เรียบง่าย( galactose น้ำตาลฟรัค - โทซกลูโคส)เพื่อ polysaccharides คอมเพล็กซ์(แป้ง) มีไขมันไตรกลีเซอไรด์ทำจากสารพลาสติกกรดไขมันชนิดต่างๆต้องถือเป็นหัวใจหลักกลีซ - เออะรินที่ กรดไขมันบางส่วนแต่ไม่ทั้งหมดเป็นเรื่องที่จำเป็นในการรับประทานอาหารที่ไม่สามารถสังเคราะห์ความถี่ในร่างกายได้โมเลกุลของโปรตีนประกอบด้วยอะตอมธาตุไนโตรเจนในนอกจากนี้ยังคาร์บอนออกซิเจนและไฮโดรเจน คอมโพเนนต์พื้นฐานของโปรตีนมีกรดอะมิโนชนิดของโปรตีนที่มีบางส่วนซึ่งมีความสำคัญอย่างยิ่งในเรื่องที่ว่ามนุษย์ไม่สามารถทำให้ ภายใน เป็นกรดอะมิโนที่สามารถแปลงเป็นหุ้นบางส่วนมี(มีค่าใช้จ่ายด้านการวิจัยการใช้พลังงาน)ให้กลูโคสและสามารถใช้ได้สำหรับการผลิตพลังงานอยู่เป็นของน้ำตาลกลูโคสในหุ้นสามัญโดยการทำลายลงโปรตีนที่มีอยู่ของน้ำตาลกลูโคสในบางส่วนสามารถผลิตได้ ภายใน เป็นกรดอะมิโนที่เหลือจะถูกยกเลิกเป็นยูเรียและปุ๋ยชนิดในปัสสาวะ โรงแรมแห่งนี้จะเกิดขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติเมื่อแกร็นจะเกิดขึ้นหรือในระหว่างช่วงเวลาของความอดอยาก.
สารอาหารอื่นๆรวมถึงพืชผักผลไม้และสารต้านอนุมูลอิสระซึ่งกล่าวกันว่าจะมีอิทธิพลต่อ(หรือปกป้อง)ระบบร่างกายบางส่วนความจำเป็นของพวกเขายังไม่เกิดขึ้นเช่นในกรณีของตัวอย่างเช่นวิตามิน.
อาหารโดยส่วนใหญ่มีการผสมของบางส่วนหรือทั้งหมดของชั้นเรียนสารอาหารที่พร้อมด้วยสารอื่นๆเป็นอย่างดี สารอาหารบางอย่างสามารถจัดเก็บไว้ ภายใน (เช่นวิตามินสามารถละลายได้ไขมันที่)ในขณะที่คนอื่นจะต้องมีมากกว่าหรือน้อยกว่าอย่างต่อเนื่อง ด้าน สุขภาพ อาจเกิดจากการขาดสารอาหารที่จำเป็นหรือในกรณีที่จำเป็นมากเกินไปของสารอาหารที่จำเป็น. ตัวอย่างเช่นน้ำและเกลือป่น(ทั้งสองอย่างแท้จริงที่จำเป็น)ทั้งสองฝ่ายจะทำให้เกิดการเจ็บป่วยหรือแม้แต่การตายในขนาดใหญ่เกินไป