While the post-classification chang

While the post-classification change detection provides insight
into the nature of land change, the integration of remote sensing
and geographic information system (GIS) can be quite useful for
characterizing the spatial patterns of urban land change (e.g.,
Aspinall & Hill, 2008; Chen, Zeng, & Xie, 2000). GIS provides a
flexible environment for entering, analyzing, and displaying digital
data from various sources necessary for land type identification,
change detection, and database development. On the one hand,
integrating GIS with remote sensing can help improve land map-
ping in urban areas. Examples include on-screen digitizing urban
features from high resolution satellite imagery (e.g., Lathrop, 2004)
and combining GIS ancillary data to improve image classification
(e.g., Guindon et al., 2004; Liu & Yang, 2013; Mundia & Aniya, 2005;
Shalaby & Tateishi, 2007; Yang & Liu, 2005). On the other hand, the
integration of remote sensing and GIS can help generate useful
information on how much, where, and what types of land changes
have occurred. For example, various GIS spatial analysis functions
ranging from overlay to cluster analysis has been applied to the
spatial pattern analysis of land changes (e.g., Li & Yeh, 2004;
Mundia & Aniya, 2005; Weng, 2002; Wu et al., 2006; Xiao et al.,
2006; Yang & Lo, 2002).

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ในขณะที่การตรวจสอบการเปลี่ยนแปลงการโพสต์การจัดหมวดหมู่ให้ลึก
ลงไปในธรรมชาติของการเปลี่ยนแปลงที่ดินรวมของการสำรวจระยะไกล
และระบบสารสนเทศภูมิศาสตร์ (GIS) จะมีประโยชน์มากสำหรับ
พัฒนาการรูปแบบการกระจายของการเปลี่ยนแปลงที่ดินในเมือง (เช่น
Aspinall & Hill, 2008; เฉินเซงและ Xie, 2000) GIS ให้
สภาพแวดล้อมที่มีความยืดหยุ่นสำหรับการป้อนวิเคราะห์และแสดงผลดิจิตอล
ข้อมูลจากแหล่งต่างๆที่จำเป็นในการจำแนกประเภทที่ดิน,
การตรวจสอบการเปลี่ยนแปลงและการพัฒนาฐานข้อมูล ในมือข้างหนึ่ง,
การบูรณาการระบบสารสนเทศภูมิศาสตร์ที่มีการสำรวจระยะไกลสามารถช่วยปรับปรุงที่ดิน map-
ปิงในเขตเมือง ตัวอย่างเช่นบนหน้าจอแปลงเป็นดิจิทัลเมือง
คุณสมบัติจากความละเอียดสูงภาพดาวเทียม (เช่น Lathrop, 2004)
และการรวมระบบสารสนเทศภูมิศาสตร์ข้อมูลเสริมเพื่อปรับปรุงการจัดหมวดหมู่ภาพ
(เช่น Guindon et al, 2004;. & หลิวหยาง, 2013; Mundia & Aniya 2005 ;
Shalaby & Tateishi, 2007; & Yang Liu, 2005) ในทางตรงกันข้าม,
การบูรณาการการสำรวจระยะไกลและระบบสารสนเทศภูมิศาสตร์จะช่วยสร้างประโยชน์
ข้อมูลเกี่ยวกับวิธีการมากที่และสิ่งที่ประเภทของการเปลี่ยนแปลงที่ดิน
ได้เกิดขึ้น ยกตัวอย่างเช่นระบบสารสนเทศภูมิศาสตร์ต่างๆฟังก์ชั่นการวิเคราะห์เชิงพื้นที่
ตั้งแต่ซ้อนทับที่จะจัดกลุ่มการวิเคราะห์ได้ถูกนำไปใช้
ในการวิเคราะห์รูปแบบการกระจายตัวของการเปลี่ยนแปลงที่ดิน (เช่น Li & Yeh 2004;
Mundia & Aniya 2005; Weng 2002; Wu et al, 2006. ; เสี่ยว, et al.
2006; & ยาง Lo, 2002)

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ในขณะที่การโพสต์การเปลี่ยนแปลงให้ลึกลงไปในธรรมชาติของที่ดิน

เปลี่ยน บูรณาการของระยะไกลและระบบสารสนเทศภูมิศาสตร์ ( GIS ) การตรวจวัดสามารถค่อนข้างมีประโยชน์สำหรับ
ลักษณะรูปแบบทางพื้นที่ของเมืองเปลี่ยน ( เช่น
แอสพินอล&ฮิลล์ , 2008 ; เฉิน เซง& Xie , 2000 ) ระบบสารสนเทศภูมิศาสตร์มีสภาพแวดล้อมที่มีความยืดหยุ่นสำหรับการป้อน

แสดงดิจิตอล , การวิเคราะห์ , และข้อมูลจากแหล่งข้อมูลที่จำเป็นสำหรับการกำหนดประเภทที่ดินต่างๆ
ตรวจจับการเปลี่ยนแปลงและการพัฒนาฐานข้อมูล ในมือข้างหนึ่ง ,
รวม GIS กับการรับรู้จากระยะไกลสามารถช่วยปรับปรุงที่ดิน แผนที่ -
ปิ้งในเมืองพื้นที่ ตัวอย่าง ได้แก่ หน้าจอดิจิตอลมีความละเอียดสูงเมือง
จากภาพถ่ายดาวเทียม ( เช่น Lathrop , 2004 )
และการรวม GIS ancillary ข้อมูลเพื่อปรับปรุง
การจำแนกภาพ ( เช่นกินเดิ้น et al . , 2004 ; &หลิวหยาง , 2013 ; mundia &อานิยะ , 2005 ;
shalaby & tateishi , 2007 ; ยาง&หลิว , 2005 ) บนมืออื่น ๆ ,
บูรณาการการรับรู้จากระยะไกลและระบบสารสนเทศภูมิศาสตร์สามารถช่วยสร้างข้อมูลที่เป็นประโยชน์
บนเท่าไหร่ ที่ไหน และสิ่งที่ประเภทของการเปลี่ยนแปลง
ที่ดินเกิดขึ้น ตัวอย่างเช่น ระบบสารสนเทศภูมิศาสตร์ พื้นที่ต่าง ๆการวิเคราะห์ฟังก์ชัน
ตั้งแต่ซ้อนทับกับการวิเคราะห์แบบกลุ่มได้ถูกประยุกต์ใช้กับ
การวิเคราะห์รูปแบบทางพื้นที่ของแปลงที่ดิน ( เช่น หลี่&เย , 2004 ;
mundia &อานิยะ , 2005 ; เวง , 2002 ; Wu et al . , 2006 ; เสี่ยว et al . ,
2006 ; ยาง&โล , 2002 )