A volcano is a rupture on the crust

A volcano is a rupture on the crust of a planetary mass object, such as the Earth, which allows hot lava, volcanic ash, and gases to escape from a magma chamber below the surface.

Earth's volcanoes occur because the planet's crust is broken into 17 major, rigid tectonic plates that float on a hotter, softer layer in the Earth's mantle.[1] Therefore, on Earth, volcanoes are generally found where tectonic plates are diverging or converging. For example, a mid-oceanic ridge, such as the Mid-Atlantic Ridge, has volcanoes caused by divergent tectonic plates pulling apart; the Pacific Ring of Fire has volcanoes caused by convergent tectonic plates coming together. Volcanoes can also form where there is stretching and thinning of the crust's interior plates, e.g., in the East African Rift and the Wells Gray-Clearwater volcanic field and Rio Grande Rift in North America. This type of volcanism falls under the umbrella of "plate hypothesis" volcanism.[2] Volcanism away from plate boundaries has also been explained as mantle plumes. These so-called "hotspots", for example Hawaii, are postulated to arise from upwelling diapirs with magma from the core–mantle boundary, 3,000 km deep in the Earth. Volcanoes are usually not created where two tectonic plates slide past one another.

Erupting volcanoes can pose many hazards, not only in the immediate vicinity of the eruption. One such hazard is that volcanic ash can be a threat to aircraft, in particular those with jet engines where ash particles can be melted by the high operating temperature; the melted particles then adhere to the turbine blades and alter their shape, disrupting the operation of the turbine. Large eruptions can affect temperature as ash and droplets of sulfuric acid obscure the sun and cool the Earth's lower atmosphere (or troposphere); however, they also absorb heat radiated up from the Earth, thereby warming the upper atmosphere (or stratosphere). Historically, so-called volcanic winters have caused catastrophic famines.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ภูเขาไฟจะแตกบนเปลือกของวัตถุมวลดาวเคราะห์ เช่นโลก ซึ่งทำให้ลาวาร้อน เถ้าภูเขาไฟ และก๊าซหนีหอหินหนืดใต้ผิว

โลกของไฟเกิดขึ้นเนื่องจากเปลือกของโลกถูกแบ่งออกเป็น 17 หลัก แข็งเคลื่อนแผ่นที่ลอยบนชั้นร้อน นุ่มในหิ้งของโลก[1] ดังนั้น ในโลก โดยทั่วไปจะพบภูเขาที่เคลื่อนเถร หรือบรรจบ ตัวอย่าง ริดจ์ที่กลางมหาสมุทร เช่นสันเขา แอตแลนติกตอนกลางมีภูเขาที่เกิดจากแผ่นธรณีขันติธรรมที่ดึงออกจากกัน แปซิฟิกวงแหวนแห่งไฟมีไฟที่เกิดจากแผ่นธรณี convergent ที่มาด้วยกัน ภูเขาสามารถยังฟอร์มมีจะยืด และบางของเปลือกภายในแผ่น เช่น ริฟท์แอฟริกาตะวันออก และฟิลด์ภูเขาไฟเคลียร์วอเตอร์ลอวน์บ่อสีเทา และ Rio Grande ริฟท์ในอเมริกาเหนือได้ Volcanism ชนิดนี้อยู่ภายใต้ร่มของ volcanism "จานสมมติฐาน"[2] ยังได้อธิบาย volcanism จากขอบจานเป็นหิ้งเบิ้ลพลูม เหล่านี้เรียกว่า "บกพร่อง" เช่นฮาวาย เป็น postulated จะเกิดขึ้นจาก upwelling diapirs กับหินหนืดจากขอบเขตหลัก – หิ้ง 3000 กิโลเมตรลึกในโลก ภูเขามักจะไม่สร้างสองเคลื่อนแผ่นเลื่อนผ่านกันได้

Erupting ภูเขาสามารถก่อให้เกิดอันตรายมาก ไม่เฉพาะในบริเวณใกล้เคียงการระเบิดได้ อันตรายเช่นหนึ่งคือ ว่า สามารถเถ้าภูเขาไฟจะเป็นภัยคุกคามต่อเครื่องบิน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ผู้มีเจ็ทเครื่องยนต์ที่สามารถหลอมอนุภาคเถ้า โดยอุณหภูมิทำงานสูง อนุภาคหลอมแล้วยึดติดใบพัด และการเปลี่ยนแปลงรูปร่างของพวกเขา อาจรบกวนการทำงานของกังหันลม ปะทุใหญ่อาจมีผลต่ออุณหภูมิเป็นเถ้า และหยดกรดซัลฟิวริกบดบังแสงอาทิตย์ และเย็นของโลกต่ำกว่าบรรยากาศ (หรือโทรโพสเฟียร์); อย่างไรก็ตาม พวกเขายังดูดซับความร้อน radiated ขึ้นจากโลก ร้อนบนบรรยากาศ (หรือสตราโทสเฟียร์) ประวัติ นี่เรียกว่าภูเขาไฟได้เกิดกันดารรุนแรง

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ภูเขาไฟเป็นแตกบนเปลือกของวัตถุมวลของดาวเคราะห์เช่นโลกซึ่งช่วยให้ลาวาร้อนเถ้าภูเขาไฟและก๊าซที่จะหนีจากหินหนืดด้านล่างพื้นผิวภูเขาไฟของโลกเกิดขึ้นเนื่องจากเปลือกของโลกถูกแบ่งออกเป็น 17 ที่สำคัญแผ่นเปลือกโลกแข็งที่ลอยอยู่บนร้อนชั้นนุ่มในเสื้อคลุมของโลก. [1] ดังนั้นบนโลกภูเขาไฟที่พบทั่วไปที่ซึ่งแผ่นเปลือกโลกสองแผ่นแยกหรือบรรจบ ตัวอย่างเช่นสันเขากลางมหาสมุทรเช่นกลางมหาสมุทรแอตแลนติกมีภูเขาไฟที่เกิดจากแผ่นเปลือกโลกแตกต่างดึงออกจากกัน; วงแหวนแห่งไฟแปซิฟิกมีภูเขาไฟที่เกิดจากแผ่นเปลือกโลกมาบรรจบกันมาร่วมกัน ภูเขาไฟที่ยังสามารถฟอร์มที่มีการยืดและผอมบางของแผ่นเปลือกโลกของการตกแต่งภายในเช่นในรอยแยกแอฟริกาตะวันออกและทุ่งลาวาเวลส์สีเทาวอเทอร์และริโอแกรนด์ความแตกแยกในทวีปอเมริกาเหนือ ประเภทของภูเขาไฟนี้ตกอยู่ภายใต้ร่มของ "จานสมมติฐาน" ภูเขาไฟ. [2] ภูเขาไฟอยู่ห่างจากรอยต่อแผ่นเปลือกโลกยังได้รับการอธิบายเป็นขนนกเสื้อคลุม เหล่านี้เรียกว่า "ฮอตสปอต" ยกตัวอย่างเช่นฮาวายมีการตั้งสมมติฐานที่จะเกิดขึ้นจาก diapirs เต็มตื่นด้วยแมกม่าจากหลักเขตแดนเสื้อคลุม 3,000 กิโลเมตรลึกลงไปในโลก ภูเขาไฟมักจะไม่สร้างที่สองสไลด์แผ่นเปลือกโลกอีกคนหนึ่งที่ผ่านมาการระเบิดของภูเขาไฟสามารถก่อให้เกิดอันตรายมากไม่เพียง แต่ในบริเวณใกล้เคียงของการระเบิด อันตรายอย่างหนึ่งที่ดังกล่าวคือเถ้าภูเขาไฟอาจเป็นภัยคุกคามต่อเครื่องบินโดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้ที่มีเครื่องยนต์เจ็ตที่อนุภาคเถ้าสามารถละลายโดยอุณหภูมิในการทำงานสูง อนุภาคที่ละลายแล้วยึดติดกับใบพัดกังหันและปรับเปลี่ยนรูปร่างของพวกเขารบกวนการทำงานของกังหัน การปะทุขนาดใหญ่จะมีผลต่ออุณหภูมิเป็นเถ้าละอองของกรดซัลฟูริกปิดบังดวงอาทิตย์และเย็นของโลกบรรยากาศชั้นล่าง (หรือ troposphere); แต่พวกเขายังดูดซับความร้อนที่แผ่ออกมาจากโลกจึงร้อนชั้นบรรยากาศ (หรือตราโตสเฟี) ในอดีตที่เรียกว่าฤดูหนาวภูเขาไฟจะทำให้เกิดความอดอยากภัยพิบัติ

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ภูเขาไฟเป็นแตกในเปลือกของดาวเคราะห์มวลวัตถุ เช่น ดิน ซึ่งช่วยให้ลาวาร้อนของภูเขาไฟขี้เถ้า และก๊าซเพื่อหนีจากหินหนืดห้องด้านล่างพื้นผิว ภูเขาไฟ

โลกเกิดขึ้นเพราะเปลือก โลกมันแตกเป็น 17 สาขา แข็งแผ่นเปลือกโลกที่ลอยบนร้อนชั้นแมนเทิลของโลกลงใน [ 1 ] ดังนั้น บนโลกภูเขาไฟโดยทั่วไปจะพบว่าแผ่นเปลือกโลกมีการแยกหรือมาบรรจบกัน . ตัวอย่างเช่น สันเขากลางมหาสมุทรเช่นสันเขากลางมหาสมุทรแอตแลนติก มีภูเขาไฟ เกิดจากแผ่นเปลือกโลกซึ่งดึงออกจากกัน ; แหวนไฟแปซิฟิกมีภูเขาไฟเกิดจากแผ่นเปลือกโลกลู่เข้ามาด้วยกันภูเขาไฟสามารถฟอร์มที่มีการยืดและบางของแผ่นเปลือกโลก ภายใน เช่น ในรอยแยกแอฟริกาตะวันออกและหลุมภูเขาไฟสีเทา เคลียร์วอเตอร์ ฟิลด์ และ Rio Grande ความแตกแยกในทวีปอเมริกาเหนือ ของหินชนิดนี้ตกอยู่ภายใต้ร่มของ " สมมติฐาน " แผ่นหิน [ 2 ] หินห่างจากรอยต่อแผ่นเปลือกโลกยังได้รับการอธิบายเป็นเสื้อคลุมขนนกเหล่านี้เรียกว่า " ฮอตสปอต " เช่นฮาวาย , ซึ่งเกิดขึ้นจากกระบวนการน้ำผุด diapirs กับหินหนืดจากแก่นแมนเทิลและขอบเขต , 3000 กิโลเมตรลึกลงไปในพื้นดิน ภูเขาไฟมักจะไม่สร้างที่สองแผ่นเปลือกโลกเลื่อนผ่านกัน

ปะทุภูเขาไฟสามารถก่อให้เกิดอันตรายมากมาย ไม่เพียง แต่ในบริเวณใกล้เคียงของการระเบิดอันตรายเช่นว่าเถ้าถ่านภูเขาไฟจะเป็นภัยคุกคามต่อเครื่องบิน โดยเฉพาะผู้ที่มีเครื่องยนต์เจ็ทที่อนุภาคเถ้าสามารถหลอมละลายด้วยอุณหภูมิสูงอนุภาคสูง ละลายแล้วยึดติดกับใบพัด และเปลี่ยนรูปร่างของพวกเขา ขัดขวางการทำงานของกังหันภูเขาไฟขนาดใหญ่ที่สามารถส่งผลกระทบต่ออุณหภูมิและเถ้าละอองกรดกำมะถันปิดบังดวงอาทิตย์และเย็นชั้นบรรยากาศของโลก ( หรือโทรโปสเฟียร์ ) ; แต่พวกเขายังดูดซับความร้อนที่เกิดขึ้นจากโลกจึงร้อนบรรยากาศชั้นบน ( Stratosphere ) ในอดีตเรียกว่าภูเขาไฟฤดูหนาวเหตุรุนแรงเกิด .