The Electoral College elected Washi

The Electoral College elected Washington unanimously as the first president in 1789,[Note 6] and again in the 1792 election;[5] he remains the only president to have received 100 percent of the electoral votes.[Note 7] John Adams, who received the next highest vote total, was elected Vice President. At his inauguration, Washington took the oath of office as the first President of the United States of America on April 30, 1789, on the balcony of Federal Hall in New York City.[114]

The 1st United States Congress voted to pay Washington a salary of $25,000 a year—a large sum in 1789. Washington, despite facing financial troubles at the time, declined the salary, since he valued his image as a selfless public servant. At the urging of Congress, however, he ultimately accepted the payment, to avoid setting a precedent whereby the presidency would be perceived as limited only to independently wealthy individuals who could serve without any salary.[115] The president, aware that everything he did set a precedent, attended carefully to the pomp and ceremony of office, making sure that the titles and trappings were suitably republican and never emulated European royal courts.[Note 8][116] To that end, he preferred the title "Mr. President" to the more majestic names proposed by the Senate.[117]

Washington proved an able administrator. An excellent delegator and judge of talent and character, he talked regularly with department heads and listened to their advice before making a final decision.[118] In handling routine tasks, he was "systematic, orderly, energetic, solicitous of the opinion of others ... but decisive, intent upon general goals and the consistency of particular actions with them".[119]

Washington invented the workings of the presidency and established many forms and procedures that became part of the American tradition, such as messages to Congress and a cabinet form of government.[8] Despite fears that a democratic system would lead to political violence, he set the standard for tolerance of opposition voices and conducted a smooth transition of power to his successor.[7]

After reluctantly serving a second term, Washington refused to run for a third, establishing the tradition of a maximum of two terms for a president.[120]

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

วิทยาลัย Electoral เลือกวอชิงตันมีมติเป็นเอกฉันท์ เป็นแรกประธานาธิบดีในค.ศ. 1789, [หมายเหตุ 6] และอีกครั้ง ในการเลือก ตั้ง 1792[5] เขายังคงประธานเท่านั้นจะได้รับ 100 เปอร์เซ็นต์ของการลงคะแนนเลือกตั้ง[หมายเหตุที่ 7] จอห์น Adams ที่ได้รับคะแนนสูงสุดถัดไปรวม ได้รับเลือกเป็นรองประธาน ที่เขานอก วอชิงตันเอาคำสาบานของ office เป็นประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกาครั้งแรกบน 30 เมษายน ค.ศ. 1789 บนระเบียงของศาลากลางเมืองนิวยอร์ค[114]รัฐสภาแห่งสหรัฐอเมริกา 1 โหวตเพื่อจ่ายเงินเดือนของ $25000 ปีวอชิงตัน — ผลรวมขนาดใหญ่ในค.ศ. 1789 วอชิงตัน แม้จะเผชิญกับปัญหาทางการเงินในเวลา ปฏิเสธเงินเดือน ตั้งแต่เขามูลค่ารูปราชการเสียสละของเขา ในการกระตุ้นให้รัฐสภา อย่างไรก็ตาม เขาสุดยอมรับการชำระเงิน หลีกเลี่ยงการเหตุโดยประธานาธิบดีจะถือว่าเป็นบุคคลจำกัดเฉพาะเพื่อรวยอย่างอิสระที่สามารถให้บริการได้โดยไม่ต้องมีเงินเดือน[115] ประธานาธิบดี ทราบว่า ทุกอย่างเขาไม่ได้ตั้งเป็นเหตุ เข้าร่วมอย่างเอิกเกริกและพิธีของสำนักงาน ทำให้แน่ใจว่า ชื่อและสุขได้พลเหมาะสม และไม่จำลองศาลยุโรปรอยัล[หมายเหตุที่ 8][116] ที่กล่าว เขาต้องชื่อ "นายใหญ่" ชื่อตระหง่านมากที่เสนอ โดยวุฒิสภา[117]วอชิงตันพิสูจน์ผู้ดูแลสามารถ มี delegator แห่งและผู้พิพากษาของพรสวรรค์และอักขระ เขาพูดคุยเป็นประจำกับหัวหน้าแผนก และฟังคำแนะนำของพวกเขาก่อนที่จะตัดสินใจขั้นสุดท้ายจัดการ [118] ในงานประจำ เขาถูก "ระบบ เป็นระเบียบ มีพลัง solicitous ของความเห็นของผู้อื่น... แต่เด็ดขาด ปรับค่าเป้าหมายทั่วไปและความสอดคล้องของการดำเนินการเฉพาะกับพวกเขา"[119]วอชิงตันคิดค้นผลงานของประธานาธิบดี และก่อตั้งขึ้นหลายรูปแบบและกระบวนการที่กลายเป็นส่วนหนึ่งของประเพณีอเมริกัน เช่นข้อความแบบฟอร์มคณะรัฐมนตรีของรัฐบาลและรัฐสภา[8] แม้ มีความกลัวที่ระบอบประชาธิปไตยจะนำไปสู่ความรุนแรงทางการเมือง เขาตั้งมาตรฐานในการยอมรับเสียงของฝ่ายค้าน และดำเนินการราบรื่นเปลี่ยนอำนาจการสืบของเขา[7]หลังจากเต็มใจให้บริการระยะที่สอง วอชิงตันปฏิเสธที่จะเรียกใช้สำหรับสาม สร้างประเพณีของสองเงื่อนไขได้สูงสุดสำหรับการเป็นประธานาธิบดี[120] <

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

วิทยาลัยการเลือกตั้งได้รับการเลือกตั้งเป็นเอกฉันท์วอชิงตันเป็นประธานาธิบดีคนแรกใน ค.ศ. 1789 [หมายเหตุ 6] และอีกครั้งในการเลือกตั้ง 1792;. [5] เขายังคงเป็นประธานเท่านั้นที่จะได้รับร้อยละ 100 ของจำนวนเสียงเลือกตั้ง [หมายเหตุ 7] จอห์นอดัมส์ที่ ที่ได้รับคะแนนรวมสูงสุดต่อไปได้รับเลือกรองประธาน ในการเข้ารับตำแหน่งของเขาวอชิงตันเอาคำสาบานของสำนักงานเป็นประธานาธิบดีคนแรกของสหรัฐอเมริกาวันที่ 30 เมษายน 1789 บนระเบียงของห้องโถงกลางในนครนิวยอร์ก. [114] 1 รัฐสภาคองเกรสแห่งสหรัฐอเมริกาลงมติให้จ่ายวอชิงตัน เงินเดือน 25,000 ดอลลาร์ปีเงินก้อนใหญ่ในวอชิงตัน 1789 แม้จะต้องเผชิญปัญหาทางการเงินในขณะที่ลดลงเงินเดือนตั้งแต่เขามูลค่าภาพของเขาในฐานะที่เป็นข้าราชการเสียสละ แนะนำให้สภาคองเกรส แต่ในที่สุดเขาก็ยอมรับการชำระเงินเพื่อหลีกเลี่ยงการตั้งค่าเป็นแบบอย่างโดยประธานาธิบดีจะถูกมองว่าเป็น จำกัด เฉพาะบุคคลที่ร่ำรวยเป็นอิสระที่สามารถให้บริการได้โดยไม่ต้องเงินเดือนใด ๆ . [115] ประธานตระหนักว่าทุกอย่างที่เขาทำ เป็นแบบอย่างได้เข้าร่วมอย่างรอบคอบเพื่อให้เอิกเกริกและพิธีของสำนักงานเพื่อให้แน่ใจว่าชื่อและเครื่องประดับได้อย่างเหมาะสมรีพับลิกันและไม่เคยเทิดทูนราชสำนักยุโรป. [หมายเหตุ 8] [116] ไปสิ้นสุดที่เขาชอบชื่อ "นาย "เพื่อชื่อคู่บารมีเพิ่มเติมที่เสนอโดยวุฒิสภา. [117] วอชิงตันพิสูจน์แล้วว่าผู้ดูแลระบบสามารถ Delegator ที่ยอดเยี่ยมและผู้พิพากษาของความสามารถและตัวละครที่เขาพูดคุยกันเป็นประจำกับหัวหน้าแผนกและฟังคำแนะนำของพวกเขาก่อนที่จะทำการตัดสินใจขั้นสุดท้าย. [118] ในการจัดการงานตามปกติเขาเป็น "ระบบมีระเบียบมีพลังกระวนกระวายของความคิดเห็นของผู้อื่น ... แต่การตัดสินใจโดยมองที่เป้าหมายและความสอดคล้องของการดำเนินการโดยเฉพาะอย่างยิ่งกับพวกเขา ". [119] วอชิงตันคิดค้นการทำงานของประธานาธิบดีและเป็นที่ยอมรับหลายรูปแบบและวิธีการที่กลายเป็นส่วนหนึ่งของประเพณีอเมริกันเช่นข้อความไปยังรัฐสภาและ รูปแบบตู้ของรัฐบาล. [8] แม้จะมีความหวาดกลัวว่าระบบประชาธิปไตยจะนำไปสู่ความรุนแรงทางการเมืองเขาตั้งมาตรฐานสำหรับความอดทนของเสียงฝ่ายค้านและดำเนินการราบรื่นของอำนาจในการสืบทอดของเขา. [7] หลังจากที่ไม่เต็มใจให้บริการระยะที่สอง วอชิงตันปฏิเสธที่จะวิ่งไปหาที่สามการสร้างประเพณีของสูงสุดของสองคำตำแหน่งประธานาธิบดี. [120] <

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

วิทยาลัยการเลือกตั้งการเลือกตั้งวอชิงตันเป็นประธานาธิบดีคนแรกที่พร้อมใจกันใน 1789 [ 6 ] และอีกครั้งในการเลือกตั้ง 1792 ; [ 5 ] เขายังคงเป็นประธานเท่านั้นที่จะได้รับ 100 ร้อยละของคะแนนการเลือกตั้ง . [ 7 ] จอห์น อดัมส์ ผู้ที่ได้รับคะแนนโหวตสูงสุดรวมต่อไป ได้รับเลือกเป็นประธาน ที่เข้ารับตำแหน่งของเขาวอชิงตันเอาคำสาบานของสำนักงานประธานาธิบดีคนแรกของสหรัฐอเมริกาเมื่อ 30 เมษายน 1789 บนระเบียงของ Federal Hall ในนิวยอร์ก [ 114 ]

สหรัฐอเมริกาลงคะแนนจ่ายวอชิงตันเงินเดือนของ $ 25 , 000 year-a ผลรวมขนาดใหญ่ใน 1789 . วอชิงตัน แม้จะเผชิญปัญหาทางการเงินในเวลาที่ลดลง เงินเดือนเพราะเขามีภาพลักษณ์เป็นการช่วยเหลือข้าราชการ ที่เรียกร้องของรัฐสภา อย่างไรก็ตาม เขาก็ยอมรับการชำระเงินเพื่อหลีกเลี่ยงก่อนกำหนด โดยประธานาธิบดีจะรับรู้ว่าเป็น จำกัด เท่านั้นที่จะเป็นอิสระที่ร่ำรวย บุคคลที่สามารถใช้โดยไม่ต้องเงินเดือน [ 115 ] ประธาน ทราบว่า ทุกอย่างที่เขาทำไว้เป็นแบบอย่าง ,เข้าร่วมพิธีอย่างเอิกเกริกและสำนักงานให้แน่ใจว่าชื่อเรื่องและเครื่องประดับได้เหมาะสม รีพับลิกันและไม่เคยเลียนแบบยุโรปสนามรอยัล . [ 8 ] [ 116 ] เพื่อสิ้นสุดนั้น เขาชอบชื่อ " ท่านประธาน " คู่บารมีชื่อเพิ่มเติมที่เสนอโดยวุฒิสภา [ 117 ]

วอชิงตันพิสูจน์เป็น สามารถบริหารงาน มีคณะผู้แทนที่ยอดเยี่ยมและผู้พิพากษาของความสามารถและนิสัยเขาพูดอยู่เสมอกับหัวหน้าภาควิชา และรับฟังคำแนะนำของพวกเขาก่อนที่จะตัดสินใจขั้นสุดท้าย [ 118 ] ในการจัดการงานประจำ เขาคือ " ระบบ , ระเบียบ , คึกคัก , กระวนกระวายใจของความคิดเห็นของผู้อื่น . . . . . . . แต่เจตนาเด็ดขาด เมื่อเป้าหมายทั่วไปและความสอดคล้องของการกระทำเฉพาะกับพวกเขา [ 119 ]

"วอชิงตันคิดค้นการทำงานของประธานาธิบดีและสร้างหลายรูปแบบและขั้นตอนที่เป็นส่วนหนึ่งของประเพณีอเมริกัน เช่นข้อความที่รัฐสภาและคณะรัฐมนตรีเป็นรูปแบบของรัฐบาล [ 8 ] แม้จะมีความกลัวว่า ระบอบประชาธิปไตยจะนำไปสู่ความรุนแรงทางการเมือง เขาตั้งค่ามาตรฐานสำหรับความอดทนต่อเสียงคัดค้าน และดำเนินการราบรื่นของอำนาจ กับผู้สืบทอดของเขา [ 7 ]

หลังจากอย่างไม่เต็มใจให้บริการระยะที่สอง , วอชิงตันปฏิเสธที่จะวิ่งที่สาม การสร้างประเพณีสูงสุดสองแง่ เป็นประธาน [ 120 ]