การสำรองห้องพัก
การสำรองห้องพักก็คือ การสั่งจองห้องพักล่วงหน้า ซึ่งอาจทำได้โดยติดต่อทางโทรเลข ทางจดหมายหรือทางโทรศัพท์ การรับจองห้องพักจะแยกต่างหากกับการรับจองห้องจัดเลี้ยงหรือการรับจองโต๊ะในห้องอาหาร โดยทั่วไปการสำรองห้องพักต้องดำเนินการล่วงหน้าหลายวันหรือหลายสัปดาห์ ถ้าเป็นการสำรองห้องพักแบบหมู่คณะอาจจะต้องจองล่วงหน้าเป็นเวลาหลายเดือน ยิ่งหากเป็นการประชุมระดับนานาชาติยิ่งจะต้องจองล่วงหน้าเป็นเวลาแรมปีทีเดียว
ในบางครั้งอาจจะมีแขกที่ต้องการมาพักโดยไม่ได้จองไว้ก่อนโดยขอเปิดห้องพักเลย กรณีเช่นนี้อาจจะทำได้หากมีห้องพักว่างอยู่ แต่ถ้าห้องพักเต็มหมดหรือเหลือแต่ห้องชุดพิเศษราคาแพงก็อาจจะเป็นปัญหา
ดังนั้นการสำรองห้องพักส่วนหน้าจะช่วยให้แขกตัดปัญหาเรื่องที่พักไปได้และสำหรับทางโรงแรมเองหากสามารถรวบรวมตัวเลขการสำรองห้องพักล่วงหน้าก็จะทำให้ทางโรงแรมสามารถประเมินรายรับของตนได้ การสำรองห้องพักจึงมีประโยชน์ต่อทั้งแขกและทางโรงแรม
โรงแรมระดับแนวหน้าที่มีขนาดใหญ่ทั่วไปมักมีวิธีจับจองห้องพักตามแบบของโรงแรมชั้นนำในอเมริกา กล่าวคือ
(1) แผนกรับจองห้องพักจะจัดการกับการสำรองห้องล่วงหน้าทั้งหมดยกเว้นการจองสำหรับวันนี้
(2) งานรับจองห้องพักสำหรับวันนั้นจะเป็นหน้าที่ของแผนกบริการส่วนหน้าโดยจะจัดแบ่งห้องพักให้ ถ้ามีผู้โทรศัพท์สอบถามเรื่องการสำรองห้องพัก พนักงานบริษัทจะต้องสอบถามว่า “จะจองสำหรับวันนี้หรือจองล่วงหน้า?”
การสำรองห้องพักมีหลายแบบ
1. การสำรองส่วนบุคคล
เป็นการสำรองห้องพักสำหรับคนจำนวนตั้งแต่หนึ่งถึงสิบห้าคน
2. การสำรองสำหรับกลุ่ม
เป็นการสำรองห้องพักสำหรับหมู่คณะที่มีจำนวนตั้งแต่สิบห้าคนขึ้นไป หัวหน้าคณะมักจะได้รับการงดเว้นค่าห้อง บางโรงแรมยังให้เงินแก่ไกด์ประจำกรุ๊ปทัวร์อีกด้วย การจองแบบนี้จึงมักจะได้รับสิทธิพิเศษต่างๆ มากมาย
โรงแรมจำนวนมากจะใช้ใบสำรองสีต่างๆ กัน เพื่อจำแนกการสำรองส่วนบุคคลออกจากการ
สำรองสำหรับกลุ่ม
การสำรองห้องพักอาจแบ่งได้อีกแบบคือ
(1) การสำรองทั่วไป คือการสำรองส่วนบุคคลไม่ว่าจะเป็นการสำรองด้วยตนเองหรือผ่านตัวแทนโดยที่ทางโรงแรมไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายให้
(2) การสำรองโดยบริษัทท่องเที่ยว หมายถึงการสำรองห้องพักส่วนบุคคลหรือสำหรับกลุ่ม โดยที่ทางโรงแรมต้องเสียค่าใช้จ่ายโดยทั่วไปเป็นการสำรองผ่านบริษัทท่องเที่ยว
(3) อื่นๆ เช่นการสำรองห้องพักโดยสายการบิน กรณีนี้ถ้าไม่ได้สั่งจองผ่านบริษัทท่องเที่ยว ทางโรงแรมก็ไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายใดๆ และวิธีจัดการก็เหมือนกับการสำรองทั่วๆ ไป แต่เพื่อประโยชน์ในการเก็บข้อมูลทางสถิติ บางโรงแรมอาจใช้ใบจองสีที่ต่างออกไป
นอกจากนี้แล้วการสำรองห้องพักสำหรับบุคคลสำคัญ เช่น ประมุขของประเทศ ทูต สมาชิกรัฐสภา ศิลปินที่มีชื่อเสียง ฯลฯ จะต้องใช้ใบสำรองสีสะดุดตา งานเตรียมการรับรองจะต้องไม่ให้ขาด ตกบกพร่อง การสำรองแบบนี้จะต้องดำเนินการอย่างพิถีพิถัน
โรงแรมบางแห่งยังจัดของขวัญและให้การบริการเป็นพิเศษสำหรับแขกที่มาฮันนีมูนด้วย
นอกจากนี้ยังมีการสำรองที่พักของแขกพิเศษที่จะได้ลดค่าห้องพัก เช่น ผู้อำนวยการบริษัทท่องเที่ยว เจ้าหน้าที่ระดับสูงของสายการบิน ฯลฯ พนักงานบริการจะต้องบันทึกในใบสำรองห้องพักของแขกเหล่านี้ให้ชัดเจนว่า เป็นแขกพิเศษที่ได้รับส่วนลดค่าห้องพัก และก่อนที่แขกจะมาถึงหนึ่งวัน เจ้าหน้าที่แผนกรับจองห้องพักจะต้องบันทึกเรื่องการลดค่าห้องพักลงในหมายเหตุของใบสำรองห้องสำหรับวันต่อไป เพื่อให้แผนกบริการส่วนหน้ารับทราบ
ข้อควรสนใจในเรื่องการสำรองห้องพัก
เพื่อที่จะทำให้การรับจองห้องพักสำหรับบุคคลเป็นไปอย่างถูกต้อง เจ้าหน้าที่แผนกรับจองห้องพักควรสนใจรายละเอียดดังต่อไปนี้
(1) ชื่อของแขกที่เข้าพัก
(2) วันเดือนปีและเวลาที่จะมาถึงโรงแรม ชื่อสายการบิน เที่ยวบิน สนามบินต้นทาง
กำหนดเวลาที่จะมาถึง หรือเดินทางโดยรถไฟขบวนใด เป็นต้น
(3) วันเดือนปีและเวลาที่จะออกจากโรงแรม ชื่อสายการบิน เที่ยวบิน สนามบินต้นทาง
กำหนดเวลาที่จะออกเดินทาง หรือเดินทางโดยรถไฟขบวนใดเป็นต้น
(4) ชื่อของผู้สั่งจอง ชื่อบริษัท หมายเลขโทรศัพท์
(5) รายการค่าใช้จ่ายต่างๆ ของแขก ความแตกต่างระหว่างการชำระเงินเองกับการชำระโดย
บริษัท รายละเอียดเกี่ยวกับการชำระโดยบริษัท ชำระทั้งหมดหรือเฉพาะค่าห้องพัก นอกจากนั้นยังต้องแจ้งค่าใช้จ่ายรายละเอียดอื่น เช่น ค่าอาหาร ค่าเครื่องดื่ม ค่าโทรศัพท์ ค่าซักรีด ฯลฯ ต้องรู้ว่าใครเป็นเจ้าหน้าที่รับผิดชอบการชำระเงิน ตำแหน่งและหมายเลขโทรศัพท์
(6) ประเภทของห้องพักที่สำรองและราคา เป็นห้องเดี่ยว ห้องคู่ หรือห้องชุด
การบริหารงานรับจองห้องพัก
ฝ่ายห้องพักซึ่งต้องรับการจองห้องพักเป็นจำนวนหลายสิบหลายร้อยรายแต่ละวัน จะต้องสนใจตรวจสอบดีมานด์ซัพพลายของห้องพักและปรับราคาห้องพัก เพื่อทำให้อัตราการเข้าพักเต็มร้อยเปอร์เซ็นต์ ซึ่งก็คือการบริหารงานรับจองห้องพัก
โดยทั่วไปถึงแม้ว่าโรงแรมจะมีห้องพักถึงห้าร้อยหรือพันห้อง แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าจะมีผู้มาเข้าพักเต็มทุกห้อง บางห้องอาจกำลังซ่อมแซม บางห้องอาจจัดไว้สำหรับรับแขกพิเศษโดยเฉพาะ ดังนั้นจึงมีห้องราวสี่ร้อยเก้าสิบหรือเก้าร้อยแปดสิบเก้าห้องเท่านั้น ที่สามารถให้แขกเข้าพักได้ จุดมุ่งหมายของการบริหารงานรับจองห้องพักก็เพื่อทำให้ห้องดังกล่าวมีแขกเข้าพักจนเต็มและทำได้อย่างนี้ทุกวัน ซึ่งก็นับว่าเป็นงานที่ยากมากทีเดียว
เมื่อมีแขกกลุ่มใหญ่เข้ามาพักในโรงแรมเป็นเรื่องที่น่ายินดี แต่เมื่อแขกกลุ่มนั้นออกไปแล้ว ปัญหาต่อมาคือจะทำให้แขกรายย่อยอื่นเข้ามาพักในห้องที่ว่างอยู่นั้นได้อย่างไร ถ้าหากมีแขกกลุ่มหนึ่งเพิ่งออกไปแล้วก็มีกลุ่มใหม่เข้ามาพักแทนทันทีทุกอย่างก็ราบรื่น แต่หากมีแขกกลุ่มใหญ่เข้ามาพักพร้อมๆ กัน 3 – 4 กลุ่ม หลังจากนั้นก็ออกจากโรงแรมพร้อมกันหมด สภาพเช่นนี้ทางโรงแรมจะประสบปัญหาที่มีแขกมากจนรับมือไม่ทันแล้วต่อมากลับเป็นสภาพที่แขกร่อยหรอจนโรงแรมว่างโหรงเหรง
ปัจจุบันโรงแรมบางแห่งใช้คอมพิวเตอร์มาจัดระบบการสำรองห้องพัก แต่โรงแรมบางแห่งก็ยังคงใช้วิธีบันทึกลงในตารางการสำรองห้องพัก สำหรับโรงแรมที่มีห้องพักราวสองร้อยห้อง หากมีการจัดแบ่งประเภทของห้องพักไม่ซับซ้อน (คือมีเพียงห้องเดี่ยวและ