Summary scoring. Judgments about th

Summary scoring. Judgments about the test taker’s status with
respect to a claim are rarely made on the basis of a single task,
however. Therefore, the last of the four processes accumulates scores
across the presented tasks. Summary scoring requires the application
of a quantitative method of some sort. Scoring systems vary widely
in complexity. For example, a test that targets a single ability, with a
single score, and an evidence model in which each task connects
directly to this single ability could appropriately be scored by simply
counting the number of right answers and placing the number on a
meaningful scale. On the other hand, a diagnostic assessment that
targets multiple abilities, with many subscores, and an evidence
model in which there are multiple connections among tasks and
different KSAs would more appropriately be scored by a more
sophisticated model such as Cognitive Diagnostic Models or Bayes
nets (see, e.g., de la Torre & Minchen, this issue; Mislevy, Almond,
Yan, & Steinberg, 1999).

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

สรุปคะแนน คำพิพากษาเกี่ยวกับสถานะของคำบรรยายการทดสอบด้วยกับข้อเรียกร้องจะไม่ค่อยทำงานเดี่ยวอย่างไรก็ตาม ดังนั้น ที่สุดท้ายของกระบวนการ 4 สะสมคะแนนในงานนำเสนอ สรุปการให้คะแนนต้องการแอพลิเคชันวิธีเชิงปริมาณบางอย่าง ระบบการให้คะแนนแตกต่างกันในความซับซ้อนนั้น ตัวอย่าง การทดสอบซึ่งความเดียว มีการคะแนนเดียว และแบบจำลองหลักฐานที่เชื่อมต่อแต่ละงานโดยตรงเพื่อความสามารถนี้เดียวได้อย่างเหมาะสมจะทำประตูเพียงนับจำนวนคำตอบที่ถูก และใส่หมายเลขในการระดับมีความหมาย ในทางกลับกัน มีการประเมินวินิจฉัยที่เป้าหมายหลายความสามารถ มีคะแนนมาก และหลักฐานการซึ่งมีการเชื่อมต่อระหว่างงานหลายรูปแบบ และKSAs ที่แตกต่างกันจะเหมาะสมมากขึ้นทำคะแนน โดยมากขึ้นรูปแบบทันสมัยเช่นรุ่นรับรู้วินิจฉัยหรือ Bayesตาข่าย (ดู เช่น เดอลาทอร์เรคาและ Minchen ปัญหานี้ Mislevy อัลมอนด์ยาน และ Steinberg, 1999)

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

สรุปคะแนน คำตัดสินเกี่ยวกับสถานะของผู้สอบที่มี
ความเคารพต่อการเรียกร้องที่ทำไม่ค่อยบนพื้นฐานของงานเดียว
แต่ ดังนั้นสุดท้ายของสี่กระบวนการสะสมคะแนน
ผ่านงานนำเสนอ เกณฑ์การให้คะแนนข้อมูลอย่างต้องใช้
วิธีการเชิงปริมาณของการจัดเรียงบาง ระบบการให้คะแนนแตกต่างกัน
ในความซับซ้อน ยกตัวอย่างเช่นการทดสอบที่มีเป้าหมายเดียวความสามารถที่มี
คะแนนเดียวและรุ่นหลักฐานที่แต่ละงานเชื่อมต่อ
โดยตรงกับความสามารถเดียวนี้อาจจะทำแต้มได้อย่างเหมาะสมโดยเพียงแค่
การนับจำนวนของคำตอบที่ถูกต้องและการวางตัวเลขบน
เครื่องชั่งที่มีความหมาย . บนมืออื่น ๆ , การประเมินผลการวินิจฉัยว่า
เป้าหมายความสามารถหลายคนที่มีคะแนนย่อยจำนวนมากและหลักฐาน
ในรูปแบบที่มีการเชื่อมต่อหลายหมู่งานและ
KSAs ที่แตกต่างกันมากขึ้นอย่างเหมาะสมจะได้คะแนนมากขึ้นจาก
รูปแบบที่มีความซับซ้อนเช่นรุ่นวินิจฉัยความรู้ความเข้าใจหรือเบส์
มุ้ง (ดูเช่นเดอลาตอร์เร่และ Minchen ปัญหานี้; Mislevy, อัลมอนด์,
แยนและ Steinberg, 1999)

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

สรุปคะแนน . คำตัดสินเกี่ยวกับ taker ทดสอบสถานะกับ
เคารพข้อเรียกร้องจะไม่ค่อยทำบนพื้นฐานของงานเดียว
อย่างไรก็ตาม ดังนั้น สุดท้าย ของ สี่กระบวนการสะสมคะแนน
ข้ามที่นำเสนองาน สรุปคะแนนต้องใช้โปรแกรม
ของวิธีการเชิงปริมาณของบางจัดเรียง ระบบการให้คะแนนแตกต่างกันอย่างกว้างขวาง
ในความซับซ้อน ตัวอย่างเช่นทดสอบเป้าหมายที่ความสามารถเดียวกับ
คะแนนเดียว และหลักฐานแบบ ซึ่งในแต่ละงานเชื่อมต่อโดยตรงกับความสามารถ
เดียวนี้อาจเหมาะสมที่จะได้คะแนนเพียงแค่
การนับตอบถูกและใส่หมายเลขบน
ชั่งมีความหมาย บนมืออื่น ๆที่การวินิจฉัยการประเมินความสามารถ
เป้าหมายหลายหลาย subscores และหลักฐาน
ซึ่งมีการเชื่อมต่อหลายรูปแบบของงานและ
ksas อื่นจะเหมาะสมเป็นคะแนนโดยมากกว่ารูปแบบ เช่น รูปแบบการคิด
ซับซ้อนการวินิจฉัยหรือ Bayes
มุ้ง ( ดูเช่น de la Torre & minchen ปัญหานี้ ; mislevy , อัลมอนด์ ,
ยัน & Steinberg , 1999 )