9) Know the author(s) and their org

9) Know the author(s) and their organizations

Knowing who wrote a book helps you judge its quality and understand its full significance.

Authors are people. Like anyone else, their views are shaped by their educations, their jobs, their early lives, and the rest of their experiences. Also like anyone else, they have prejudices, blind spots, desperate moments, failings, and desires — as well as insights, brilliance, objectivity, and successes. Notice all of it.

Most authors belong to organizations: universities, corporations, governments, newspapers, magazines. These organizations each have cultures, hierarchies of power, and social norms. Organizations shape both how a work is written and the content of what it says. For example, university professors are expected to write books and/or journal articles in order to get tenure. These pieces of writing must meet certain standards of quality, defined chiefly by other professors; for them, content usually matters more than good writing. Journalists, by contrast, are often driven by deadlines and the need to please large audiences. Because of this, their standards of quality are often directed more toward clear and engaging writing than toward unimpeachable content; their sources are usually oral rather than written.

The more you know about the author and his/her organization, the better you will be able to evaluate what you read. Try to answer questions like these: What shaped the author’s intellectual perspective? What is his or her profession? Is the author an academic, a journalist, a professional (doctor, lawyer, industrial scientist, etc.)? Expertise? Other books and articles? Intellectual network(s)? Gender? Race? Class? Political affiliation? Why did the author decide to write this book? When? For what audience(s)? Who paid for the research work (private foundations, government grant agencies, industrial sponsors, etc.)? Who wrote “jacket blurbs” in support of the book?

You can often (though not always) learn about much of this from the acknowledgments, the bibliography, and the author’s biographical statement.

10) Know the intellectual context

Knowing the author and his/her organization also helps you understand the book’s intellectual context. This includes the academic discipline(s) from which it draws, schools of thought within that discipline, and others who agree with or oppose the author’s viewpoint.

A book is almost always partly a response to other writers, so you’ll understand a book much better if you can figure out what, and who, it is answering. Pay special attention to points where the author tells you directly that s/he is disagreeing with others: “Conventional wisdom holds that x, but I argue instead that y.” (Is x really conventional wisdom? Among what group of people?) “Famous Jane Scholar says that x, but I believe that y.” (Who’s Famous Jane, and why do other people believe her? How plausible are x and y? Is the author straining to find something original to say, or has s/he genuinely convinced you that Famous Jane is wrong?) Equally important are the people and writings the author cites in support of his/her arguments.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

9) ทราบใน author(s) และองค์กรของพวกเขา รู้ว่าใครเขียนหนังสือช่วยคุณในการตัดสินคุณภาพ และเข้าใจความสำคัญของเต็ม ผู้เขียนเป็นคน เช่นใคร มุมมองของพวกเขามีรูปร่าง ทางการศึกษา งาน ชีวิตต้น ส่วนเหลือของประสบการณ์ของพวกเขา เหมือนคนอื่น มีอคติ จุดบอด ช่วงเวลาที่หมดหวัง ความล้มเหลว และความปรารถนาซึ่งความเข้าใจ ความหมาย ปรวิสัย และความสำเร็จ สังเกตทั้งหมด ผู้เขียนส่วนใหญ่เป็นสมาชิกขององค์กร: มหาวิทยาลัย องค์กร รัฐบาล หนังสือพิมพ์ นิตยสาร องค์กรเหล่านี้แต่ละวัฒนธรรม ลำดับชั้น และบรรทัดฐานทางสังคมได้ องค์กรรูปร่างวิธีเขียนงานและเนื้อหาของสิ่งที่กล่าว ตัวอย่าง อาจารย์มหาวิทยาลัยจะต้องเขียนหนังสือหรือบทความสมุดรายวันเพื่อให้ได้อายุงาน ชิ้นส่วนเหล่านี้เขียนต้องตรงกับมาตรฐานบางอย่างของคุณภาพ กำหนดส่วนใหญ่ โดยอาจารย์อื่น ๆ สำหรับพวกเขา เนื้อหามักจะเป็นเรื่องมากกว่าเขียนดี ผู้สื่อข่าว โดยคมชัด มีบ่อยขับเคลื่อน โดยกำหนดเวลาและต้องการผู้ชมขนาดใหญ่ ด้วยเหตุนี้ คุณภาพมาตรฐานของพวกเขาจะมักจะตรงขึ้นไปทางชัดเจน และต้องเขียนกว่าไปทางเนื้อหา unimpeachable แหล่งที่มาได้มักจะพูดมากกว่าเขียน ยิ่งคุณรู้เกี่ยวกับผู้เขียน และเขา/เธอองค์กร ที่ดีกว่าคุณจะสามารถประเมินสิ่งที่คุณอ่าน พยายามตอบคำถามดังนี้: อะไรรูปร่างมุมมองทางปัญญาของผู้เขียน อาชีพของเขา หรือเธอคืออะไร เป็นผู้เขียนเป็นนักวิชาการ นักข่าว ผู้เชี่ยวชาญ (แพทย์ ทนายความ นักวิทยาศาสตร์อุตสาหกรรม ฯลฯ) หรือไม่ ความเชี่ยวชาญหรือไม่ หนังสือและบทความอื่น ๆ Network(s) ปัญญา เพศ แข่งขัน ชั้น สังกัดทางการเมืองหรือไม่ ทำไมไม่ได้ผู้เขียนตัดสินใจเขียนหนังสือเล่มนี้ เมื่อ สำหรับ audience(s) ใด ผู้ที่ชำระเงินสำหรับการทำงานวิจัย (มูลนิธิเอกชน หน่วยงานรัฐบาลเงินช่วยเหลือ สนับสนุนอุตสาหกรรม ฯลฯ) ใครเขียน "เสื้อ blurbs" สนับสนุนหนังสือ คุณสามารถมัก (แต่ไม่เสมอ) เรียนรู้เกี่ยวกับนี้มากจากการตอบ การบรรณานุกรม และงบชีวประวัติของผู้เขียนได้ 10) รู้บริบททางปัญญา ผู้เขียนและองค์กรเขา/เธอยังช่วยให้คุณเข้าใจบริบททางปัญญาของหนังสือ ซึ่งรวมถึง discipline(s) ศึกษาซึ่งจะวาด โรงเรียนคิดว่าวินัย และอื่น ๆ ที่เห็นด้วย หรือต่อต้านมุมมองของผู้เขียน หนังสือได้เกือบตลอดเวลาบางส่วนการตอบสนองต่อนักเขียนอื่น ๆ ดังนั้นคุณจะเข้าใจหนังสือดีถ้าคุณสามารถคิดออกว่า และ มีการตอบรับ ความสนใจพิเศษไปยังจุดที่ผู้เขียนบอกตรงว่า หล่อ disagreeing กับผู้อื่น: "ภูมิปัญญาแบบดั้งเดิมถือว่า x แต่ฉันโต้เถียงแทน y ที่" (เป็น x ภูมิปัญญาดั้งเดิมจริง ๆ หมู่ใดกลุ่มคน) "เจนชื่อเสียงนักวิชาการกล่าวว่า x แต่ฉันเชื่อว่า y นั้น" (ที่มีชื่อเสียงของเจน และทำไมคนอื่นเชื่อว่าเธอ วิธีรับมือคือ x และ y หรือไม่ เป็นผู้เขียนรัดหาสิ่งเดิมพูด หรือมีหล่อจริงใจมั่นใจคุณว่าเจนมีชื่อเสียงไม่ถูกต้อง) เท่า ๆ กันคนมีความสำคัญ และงานเขียนผู้เขียนสแตนดาร์ดชาร์เตอร์ดสนับสนุนอาร์กิวเมนต์เขา/เธอ

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

9) รู้ว่าผู้เขียน (s) และองค์กรของพวกเขารู้ว่าผู้เขียนหนังสือที่จะช่วยให้คุณตัดสินคุณภาพและเข้าใจความสำคัญอย่างเต็มรูปแบบ. ผู้เขียนเป็นคนที่ เหมือนคนอื่นมุมมองของพวกเขามีรูปทรงโดยการศึกษาของพวกเขางานของพวกเขาในช่วงต้นชีวิตของพวกเขาและส่วนที่เหลือของประสบการณ์ของพวกเขา ก็เหมือนกับคนอื่น ๆ ที่พวกเขามีอคติจุดบอดช่วงเวลาที่หมดหวังความล้มเหลวและความปรารถนา - เช่นเดียวกับข้อมูลเชิงลึก, ความฉลาด, ความเที่ยงธรรมและความสำเร็จ ขอให้สังเกตทั้งหมดของมัน. ผู้เขียนส่วนใหญ่เป็นองค์กร: มหาวิทยาลัย, บริษัท , รัฐบาล, หนังสือพิมพ์นิตยสาร องค์กรเหล่านี้แต่ละคนมีวัฒนธรรมลำดับชั้นของอำนาจและบรรทัดฐานทางสังคม องค์กรรูปร่างทั้งวิธีการทำงานที่เป็นลายลักษณ์อักษรและเนื้อหาของสิ่งที่มันพูดว่า ยกตัวอย่างเช่นอาจารย์มหาวิทยาลัยที่คาดว่าจะเขียนหนังสือและ / หรือบทความในวารสารวิชาการเพื่อให้ได้รับการดำรงตำแหน่ง ชิ้นส่วนเหล่านี้ของการเขียนต้องเป็นไปตามมาตรฐานบางอย่างที่มีคุณภาพที่กำหนดไว้ส่วนใหญ่โดยอาจารย์อื่น ๆ สำหรับพวกเขาเนื้อหามักจะมีความสำคัญมากกว่าการเขียนที่ดี ผู้สื่อข่าวตรงกันข้ามมักจะถูกผลักดันโดยการกำหนดเวลาและความจำเป็นที่จะโปรดผู้ชมที่มีขนาดใหญ่ ด้วยเหตุนี้มาตรฐานของพวกเขาที่มีคุณภาพจะถูกนำขึ้นไปมักจะเขียนที่ชัดเจนกว่าและมีส่วนร่วมที่มีต่อเนื้อหาดีเลิศ; แหล่งที่มาของพวกเขามักจะมีในช่องปากมากกว่าการเขียน. ยิ่งคุณรู้เกี่ยวกับผู้เขียนและ / องค์กรของเขาดีกว่าที่คุณจะสามารถที่จะประเมินสิ่งที่คุณอ่าน พยายามที่จะตอบคำถามเช่นนี้สิ่งที่มีรูปร่างมุมมองทางปัญญาของผู้เขียน? เป็นอาชีพของเขาหรือเธอคืออะไร? เป็นผู้เขียนนักวิชาการนักข่าวมืออาชีพ (แพทย์ทนายความนักวิทยาศาสตร์อุตสาหกรรมและอื่น ๆ )? ความเชี่ยวชาญ? หนังสือและบทความอื่น ๆ ? เครือข่ายทางปัญญา (s)? เพศ? การแข่งขัน? ชั้น? ความร่วมมือทางการเมือง? ผู้เขียนทำไมตัดสินใจที่จะเขียนหนังสือเล่มนี้? เมื่อไหร่? สำหรับสิ่งที่ผู้ชม (s)? ที่จ่ายสำหรับการทำงานวิจัย (มูลนิธิเอกชน, หน่วยงานของรัฐบาลที่มอบให้ผู้ให้การสนับสนุนอุตสาหกรรม ฯลฯ )? ผู้เขียน "blurbs แจ็คเก็ต" ในการสนับสนุนของหนังสือเล่มนี้? คุณมักจะสามารถ (แต่ไม่เสมอไป) เรียนรู้เกี่ยวกับเรื่องนี้จากกิตติกรรมประกาศที่บรรณานุกรมและคำสั่งเกี่ยวกับชีวประวัติของผู้เขียน. 10) รู้บริบททางปัญญารู้ผู้เขียนและเขา/ องค์กรของเธอนอกจากนี้ยังช่วยให้คุณเข้าใจบริบททางปัญญาของหนังสือเล่มนี้ ซึ่งรวมถึงการมีวินัยทางวิชาการ (s) จากที่ที่มันดึงโรงเรียนแห่งความคิดที่อยู่ในระเบียบวินัยนั้นและคนอื่น ๆ ที่เห็นด้วยกับหรือคัดค้านมุมมองของผู้เขียน. หนังสืออยู่เกือบตลอดเวลาบางส่วนตอบสนองต่อนักเขียนคนอื่นเพื่อให้คุณเข้าใจหนังสือ ดีมากถ้าคุณสามารถคิดออกว่าและผู้ที่ก็จะตอบ ความใส่ใจเป็นพิเศษไปยังจุดที่ผู้เขียนบอกคุณโดยตรงที่ s / เขาจะไม่เห็นด้วยกับคนอื่น ๆ "ภูมิปัญญาดั้งเดิมถือได้ว่า x แต่ผมยืนยันว่าแทนที่จะวาย." (คือ x จริงๆภูมิปัญญาดั้งเดิมในบรรดาสิ่งที่กลุ่มคน?) " ที่มีชื่อเสียงเจนนักวิชาการบอกว่า x แต่ผมเชื่อว่าปี. "(ใครที่มีชื่อเสียงเจนและทำไมคนอื่นเชื่อเธอหรือไม่วิธีการที่เป็นไปได้มี x และ y หรือไม่ผู้เขียนรัดที่จะหาสิ่งเดิมที่จะพูดหรือมี s / เขา ความเชื่อมั่นอย่างแท้จริงที่คุณเจนที่มีชื่อเสียงเป็นสิ่งที่ผิด?) ความสำคัญเท่าเทียมกันเป็นคนเขียนและผู้เขียนอ้างอิงในการสนับสนุนการ / ข้อโต้แย้งของเขาและเธอ

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

น่ารักน่ารักน่ารักน่ารักน่ารักน่ารักน่ารักน่ารักน่ารัก