Early historyThe first report of el

Early history
The first report of electrically generated light by emission from a solid-state device came from H.J. Round working at Marconi Electronics in 1907 [1]. He applied voltage across two contacts on a carborundum (SiC) crystal. At low voltages yellow light was observed, but more colours were emitted at higher voltages. Electroluminescence was also studied by O. Losev (1903-1942), a device physicist in the Soviet Union, who in the 1920s and 1930s published several articles in international journals on electroluminescence from carborundum [2].

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ประวัติศาสตร์ยุคแรกรายงานแรกของแสงไฟฟ้าสร้างโดยปล่อยก๊าซจากอุปกรณ์โซลิดสเตตมาจาก H.J. รอบทำงานอิเล็กทรอนิกส์ Marconi ใน 8 ธันวาคมพ.ศ. 2450 [1] เขาใช้แรงดันไฟฟ้าทั้งสองติดต่อกับคริสตัล carborundum (SiC) ถูกสังเกตแสงสีเหลืองที่แรงดันต่ำ แต่สีอื่น ๆ ถูกปล่อยออกที่แรงดันสูง นอกจากนี้ยังได้ศึกษา electroluminescence โดยโอ Losev (1903-ปี 1942), physicist อุปกรณ์ในสหภาพโซเวียต ใครในปี 1920 และ 1930s หลายบทความในวารสารนานาชาติบน electroluminescence จาก carborundum [2]

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

สมัยก่อนประวัติศาสตร์
รายงานครั้งแรกของแสงที่สร้างด้วยระบบไฟฟ้าโดยการปล่อยจากอุปกรณ์ของรัฐที่มั่นคงมาจาก HJ รอบการทำงานที่โคนีอิเล็กทรอนิกส์ในปี 1907 [1] เขาใช้แรงดันไฟฟ้าในสองรายชื่อในกากเพชร (sic) คริสตัล แรงดันไฟฟ้าที่ต่ำแสงสีเหลืองก็สังเกตเห็น แต่สีอื่น ๆ อีกมากมายที่ถูกปล่อยออกมาที่แรงดันไฟฟ้าที่สูงขึ้น electroluminescence ยังได้ศึกษาโดยทุม Losev (1903-1942) นักฟิสิกส์อุปกรณ์ในสหภาพโซเวียตที่ในปี ค.ศ. 1920 และ 1930 ตีพิมพ์บทความหลายในวารสารระดับนานาชาติเกี่ยวกับอิจากกากเพชร [2]

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ประวัติศาสตร์
รายงานแรกของแสง โดยการสร้างพลังงานไฟฟ้าจากอุปกรณ์ที่ได้รับมาจาก h.j. รอบการทำงานที่มาร์โคนีอิเล็กทรอนิกส์ใน 1907 [ 1 ] เขาใช้แรงดันผ่านสองติดต่อบนกากเพชร ( sic ) คริสตัล ที่แรงดันไฟฟ้าต่ำเหลืองอ่อน สังเกตได้ แต่สีเพิ่มเติมได้ถูกปล่อยออกมาในแรงดันไฟฟ้าที่สูงขึ้น เล็กโทรลูมิเนสเซนซ์ได้ทำการศึกษาโดย losev ( 1903-1942 )อุปกรณ์นักฟิสิกส์ในสหภาพโซเวียต ซึ่งในปี ค.ศ. 1920 และ 1930 ตีพิมพ์บทความในวารสารนานาชาติจากหลายเล็กโทรลูมิเนสเซนซ์คาร์โบรันดัม [ 2 ]