Despite federal legislation and a c

Despite federal legislation and a clear precedent established by the judiciary, the inclusion of students with disabilities in regular education classrooms remains problematic. The purpose of this quantitative research was to understand teacher attitudes toward inclusion in rural and urban school settings and the underlying factors influencing those teacher's attitudes. The theoretical basis for this study was drawn from Maslow's hierarchy of needs and Fromm's writings on self- awareness. This non experimental quantitative research study sampled 50 rural and 50 urban regular education teachers in a southern U.S. state. All study participants completed the Scale of Teachers' Attitudes Toward Inclusion (STATIC). The data were analyzed using descriptive statistics, a t - test and analysis of covariance (ANCOVA). The alpha level for this study was set at p < .05. Results indicated that teacher attitudes toward individuals with disabilities and inclusion were similar in both settings. Teachers' STATIC scores suggested a positive correlation between teacher attitude toward inclusion and both class size and number of special education students enrolled in a class. This study contributes to social change by identifying factors to consider when planning for inclusion of special education student in regular classrooms. The implications of this study demonstrate that location does not play a part in teacher attitudes toward inclusion.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

แม้ มีกฎหมายของรัฐบาลกลางและเหตุชัดเจนที่ก่อตั้ง โดยตุลาการ การรวมของนักเรียนพิการในห้องเรียนปกติศึกษายังคงมีปัญหา วัตถุประสงค์ของการวิจัยเชิงปริมาณนี้เข้าใจครูเจตคติรวมในโรงเรียนเขตเมือง และชนบทการตั้งค่าและปัจจัยพื้นฐานที่มีอิทธิพลต่อทัศนคติของครูเหล่านั้นได้ ข้อมูลพื้นฐานของทฤษฎีการศึกษานี้มาจากการของมาสโลว์ลำดับชั้นของความต้องการและงานเขียนของ Fromm บนรับรู้ตนเอง ศึกษาวิจัยทดลองไม่ใช่เชิงปริมาณตัวอย่าง 50 ชนบท 50 เมืองทั่วไปศึกษา และครูในรัฐสหรัฐอเมริกาใต้ ผู้เข้าร่วมการศึกษาทั้งหมดเสร็จสมบูรณ์ระดับครูทัศนคติต่อรวม (คง) ข้อมูลได้วิเคราะห์โดยใช้สถิติพรรณนา t - ทดสอบและการวิเคราะห์ความแปรปรวนร่วม (ANCOVA) ในระดับอัลฟาสำหรับการศึกษานี้ถูกตั้งค่าที่ p < .05 ผลระบุว่า ครูเจตคติบุคคลที่มีความพิการและการรวมคล้ายกันในการตั้งค่าทั้งสอง คะแนนคงครูแนะนำความสัมพันธ์ในเชิงบวกระหว่างทัศนคติของครูไปรวม และ ทั้งขนาดของชั้นเรียนและจำนวนนักเรียนการศึกษาพิเศษเข้าเรียนในชั้นเรียน การศึกษานี้สนับสนุนการเปลี่ยนแปลงทางสังคม โดยระบุปัจจัยที่ต้องพิจารณาในการวางแผนสำหรับการรวมการศึกษาพิเศษนักเรียนในห้องเรียนปกติ ผลการศึกษานี้แสดงให้เห็นว่า สถานเล่นเป็นส่วนหนึ่งในครูเจตคติรวม

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

แม้จะมีการออกกฎหมายของรัฐบาลกลางและเป็นแบบอย่างที่ชัดเจนที่จัดตั้งขึ้นโดยตุลาการรวมของนักเรียนที่มีความพิการในห้องเรียนการศึกษาปกติยังคงมีปัญหา วัตถุประสงค์ของการวิจัยเชิงปริมาณนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อทำความเข้าใจทัศนคติของครูที่มีต่อการรวมในการตั้งค่าโรงเรียนในชนบทและในเมืองและปัจจัยพื้นฐานที่มีอิทธิพลต่อทัศนคติของครูเหล่านั้น ทฤษฎีพื้นฐานสำหรับการศึกษานี้ถูกดึงออกมาจากลำดับขั้นความต้องการของมาสโลว์และงานเขียนฟรอม์มในการรับรู้ของตนเอง การศึกษาวิจัยเชิงปริมาณนี้ไม่ใช่การทดลองเก็บตัวอย่าง 50 ในชนบทและในเมือง 50 ครูการศึกษาปกติในรัฐทางตอนใต้ของสหรัฐ ผู้เข้าร่วมการศึกษาทั้งหมดเสร็จสิ้นการชั่งน้ำหนักของทัศนคติของครูที่มีต่อการรวม (คงที่) วิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้สถิติเชิงพรรณนาที่ - การทดสอบและการวิเคราะห์ความแปรปรวนร่วม (ANCOVA) ระดับอัลฟาสำหรับการศึกษานี้ตั้งอยู่ที่ p <0.05 ผลการศึกษาพบว่าทัศนคติที่มีต่อครูบุคคลที่มีความพิการและการรวมมีความคล้ายคลึงกันในการตั้งค่าทั้งสอง ครูคะแนนคงแนะนำความสัมพันธ์เชิงบวกระหว่างทัศนคติที่มีต่อครูรวมทั้งขนาดของชั้นเรียนและจำนวนของนักเรียนการศึกษาพิเศษเข้าเรียนในชั้นเรียน การศึกษาครั้งนี้ก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงทางสังคมโดยการระบุปัจจัยที่ควรพิจารณาเมื่อมีการวางแผนสำหรับการรวมของนักเรียนการศึกษาพิเศษในห้องเรียนปกติ ผลกระทบของการศึกษาครั้งนี้แสดงให้เห็นว่าสถานที่ไม่ได้มีส่วนร่วมในทัศนคติของครูที่มีต่อการรวม

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

Despite federal legislation and a clear precedent established by the judiciary, the inclusion of students with disabilities in regular education classrooms remains problematic. The purpose of this quantitative research was to understand teacher attitudes toward inclusion in rural and urban school settings and the underlying factors influencing those teacher's attitudes. The theoretical basis for this study was drawn from Maslow's hierarchy of needs and Fromm's writings on self- awareness. This non experimental quantitative research study sampled 50 rural and 50 urban regular education teachers in a southern U.S. state. All study participants completed the Scale of Teachers' Attitudes Toward Inclusion (STATIC).วิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้สถิติเชิงพรรณนา การทดสอบและ T - การวิเคราะห์ความแปรปรวนร่วม ( ANCOVA ) ระดับต้นเพื่อการศึกษานี้ไว้ที่ P < . 05 ผลการศึกษาพบว่า ทัศนคติของครูต่อบุคคลที่มีความพิการและการรวมกันทั้งในการตั้งค่าครูคงคะแนนแนะนำความสัมพันธ์เชิงบวกกับทัศนคติที่มีต่อการเรียน และครู รวมทั้งขนาดและจำนวนของการศึกษาพิเศษนักศึกษาที่ลงทะเบียนเรียนในชั้นเรียน การศึกษานี้ก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงทางสังคมโดยการระบุปัจจัยที่ควรพิจารณาเมื่อการวางแผนสำหรับการรวมของนักเรียนการศึกษาพิเศษในโรงเรียนปกติ The implications of this study demonstrate that location does not play a part in teacher attitudes toward inclusion.