The present study documents that th

The present study documents that there was no association
between kimchi consumption and the prevalence of hypertension.
Previous research has reported the beneficial effects of kimchi,
including it being a source of probiotics and its antioxidative activity,
immune regulation, chemopreventive effects, and ability to
improve metabolic profiles [1,2,18e20]. Due to these health benefits,
kimchi has been one of most famous fermented foods worldwide,
and industrial production of high-quality, standardized
kimchi has been considered [3,6].
However, concerns about the possibility of kimchi contributing
to an increased risk of hypertension have risen because of high salt
intake as a result of high kimchi consumption [7,8]. In animal
studies, blood pressure was elevated by consumption of highsodium-
containing kimchi but was not influenced by supplementing
with low-sodium kimchi [7]. In this study, levels of serum
biochemical parameters, including sodium and potassium, were
not different among the groups and the elevations in serum levels
of aldosterone decreased in the low-sodium kimchi group, which
meant that the renineangiotensinealdosterone system might have
been involved in the mechanism of blood pressure change
accompanied by kimchi consumption. However, in epidemiologic
studies, sodium intake itself, accompanied by a daily diet, did not
appear to have a relationship with the risk for hypertension after
adjusting for confounding factors [9]. When people have an
increased intake of potassium, high intake of sodium is not associated
with higher blood pressure [21]. Recent human trials have
probed the joint effects of sodium and potassium on hypertension
and its cardiovascular sequelae [22,23]. In the present study,
although the group of participants with the highest consumption of
kimchi also had the highest sodium intake, the risk of hypertension
was not different between the groups. With the increased intake of
kimchi, potassium intake was increased too in this study. The results
of recent human studies reported that the pathogenesis of
primary hypertension was the interaction of sodium excess and
potassium deficiency in the body, rather than either of the disturbances
alone [21e23]. As vegetables are a major source for potassium,
increased consumption of vegetables reduced the risk for
developing hypertension [24e26]. Kimchi is not only a source of
sodium, but also a major source of potassium in the typical Korean
diet. Therefore, our results suggest that high potassium intake from
high consumption of kimchi can help neutralize the effect of
elevated sodium intake on blood pressure levels.
There were several limitations in the present study. Our study
had a cross-sectional design, from which causal relationships
cannot be confirmed. To minimize this limitation, we excluded the
participants who were diagnosed with hypertension or were
receiving treatment for it. A randomized controlled trial design
could have provided stronger evidence for the causal relationship.
Considering the feasibility of randomized controlled trials for diet
intervention for humans in a large nationwide sample, an epidemiologic
study with 24-hour recalls can serve as one of the most
cost-effective and feasible replacements for a randomized
controlled trial, as the reliability of questionnaire-derived dietary
information and the stability of dietary intake habits of adults with
over time can provide valid and reliable data [27]. The other limitation
was that daily intakes of energy, nutrient, and kimchi were
estimated using one 24-hour dietary recall. Ideally, in biomedical
studies, at least three 24-hour recalls, one on an off day and two on
working days, would provide valid and reliable data to estimate the
intake of individuals. However, realistically, this could not be easily
applied to a large nationwide sample.
Even though longitudinal studies and randomizedcontrolled
trials are needed to confirm the relationship between kimchi
consumption and hypertension risk, the present study revealed
high consumption of kimchi was not associated with an increased
prevalence of hypertension in humans. Our results suggested that
high potassium intake from high consumption of kimchi might
have neutralized the effect of elevated sodium intake on blood
pressure levels. To confirm this association, well-designed randomized
controlled trials are warranted.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

เอกสารการศึกษาปัจจุบันว่า มันไม่มีระหว่างการใช้กิมจิและความชุกของความดันโลหิตสูงงานวิจัยก่อนหน้านี้ได้รายงานผลประโยชน์ของกิมจิรวมทั้งเป็นแหล่งของโปรไบโอติกและกิจกรรมของก่อนหน้านี้ระเบียบภูมิคุ้มกัน ผลวิจัยกรม และความสามารถในการปรับปรุงส่วนกำหนดค่าเผาผลาญ [1, 2, 18e20] เพราะประโยชน์เหล่านี้กิมจิเป็นหนึ่งในอาหารหมักดองมีชื่อเสียงทั่วโลกและอุตสาหกรรมการผลิตมีคุณภาพสูง มาตรฐานกิมจิได้รับการพิจารณา [3,6]อย่างไรก็ตาม ความกังวลเกี่ยวกับความเป็นไปได้ของกิมจิที่เอื้อต่อการเพิ่มความเสี่ยงของความดันโลหิตสูงได้เกิดขึ้นเนื่องจากมีเกลือสูงบริโภคเป็นผลมาจากปริมาณการใช้สูงกิมจิ [7.8] ในสัตว์การศึกษา ความดันโลหิตยก โดยการบริโภค highsodium-ประกอบด้วยกิมจิ แต่รับอิทธิพลเสริมมีโซเดียมต่ำกิมจิ [7] ในการศึกษานี้ ระดับของซีรั่มค่าพารามิเตอร์ทางชีวเคมี โซเดียมและโพแทสเซียม ถูกไม่แตกต่างกันระหว่างกลุ่มและระดับในระดับซีรั่มของ aldosterone ลดลงในกลุ่มกิมจิโซเดียมต่ำ ซึ่งหมายความ ว่า อาจมีระบบ renineangiotensinealdosteroneมีส่วนร่วมในกลไกของการเปลี่ยนแปลงความดันโลหิตมาพร้อมกับการบริโภคกิมจิ อย่างไรก็ตาม ใน epidemiologicไม่ได้ศึกษา บริโภคโซเดียมตัวเอง พร้อมกับอาหารประจำวันจะ มีความสัมพันธ์กับความเสี่ยงความดันโลหิตสูงหลังการปรับปรุงสำหรับรบกวนปัจจัย [9] เมื่อคนมีการการบริโภคที่เพิ่มขึ้นของโพแทสเซียม ทานโซเดียมไม่เกี่ยวข้องมีความดันโลหิตสูง [21] มีการทดลองในมนุษย์ล่าพิสูจน์ผลกระทบร่วมของโซเดียมและโพแทสเซียมในความดันโลหิตสูงและ sequelae ของหัวใจ [22,23] ในการศึกษาปัจจุบันแม้ว่ากลุ่มผู้เข้าร่วมมีการบริโภคสูงสุดกิมจิยังมีปริมาณโซเดียมสูง ความเสี่ยงของความดันโลหิตสูงไม่แตกต่างกันระหว่างกลุ่ม กับการบริโภคที่เพิ่มขึ้นของกิมจิ ปริมาณโพแทสเซียมเพิ่มขึ้นมากเกินไปในการศึกษานี้ ผลลัพธ์การศึกษามนุษย์ที่ล่าสุดรายงานว่า พยาธิกำเนิดความดันโลหิตสูงหลักคือ ปฏิสัมพันธ์ของโซเดียมเกิน และขาดธาตุโพแทสเซียมในร่างกาย การรบกวนอย่างใดอย่างหนึ่งคนเดียว [21e23] ผักเป็น แหล่งสำคัญสำหรับโพแทสเซียมการบริโภคผักเพิ่มขึ้นลดความเสี่ยงต่อการการพัฒนาความดันโลหิตสูง [24e26] กิมจิไม่เพียงเป็นแหล่งของโซเดียม แต่ยังเป็นแหล่งสำคัญของโพแทสเซียมในเกาหลีทั่วไปอาหาร ดังนั้น ผลของเราแนะนำว่า ปริมาณโพแทสเซียมสูงจากช่วยแก้ผลกระทบของการบริโภคสูงของกิมจิปริมาณโซเดียมที่สูงในระดับความดันโลหิตมีหลายข้อจำกัดในการศึกษา ศึกษาของเราออกแบบโรงพยาบาล จากความสัมพันธ์เชิงสาเหตุที่มีไม่สามารถยืนยัน เพื่อลดข้อจำกัดนี้ เราไม่รวมตัวผู้เข้าร่วมที่ถูกวินิจฉัยว่าเป็นความดันโลหิตสูง หรือมีได้รับการรักษา สุ่มออกแบบการทดลองไม่มีหลักฐานที่แข็งแกร่งสำหรับความสัมพันธ์เชิงสาเหตุพิจารณาความเป็นไปได้ของการทดลองแบบสุ่มควบคุมสำหรับอาหารสำหรับมนุษย์ในตัวขนาดใหญ่ทั่วประเทศอย่าง epidemiologic มีการแทรกแซงการศึกษากับการเรียกคืน 24 ชั่วโมงสามารถให้บริการเป็นหนึ่งในสุดคุ้มค่า และเหมาะสมในการเปลี่ยนทดแทนสำหรับการสุ่มทดลอง เป็นความน่าเชื่อถือของอาหารที่ได้รับแบบสอบถามข้อมูลและความมั่นคงของพฤติกรรมการบริโภคอาหารของผู้ใหญ่ด้วยช่วงเวลาสามารถให้ข้อมูลที่ถูกต้อง และเชื่อถือได้ [27] ข้อจำกัดอื่น ๆทุกวันบริโภคพลังงาน สารอาหาร และกิมจิได้ถูกประเมินโดยใช้การเรียกคืนอาหาร 24 ชั่วโมงหนึ่ง ในชีวการแพทย์การศึกษา เรียกคืน 24 ชั่วโมงน้อยสาม หนึ่งในวันปิดและ 2วันทำการ จะให้ข้อมูลที่ถูกต้อง และเชื่อถือได้การประเมินการบริโภคของบุคคล อย่างไรก็ตาม แนบเนียน นี้ไม่ได้ง่าย ๆใช้กับตัวอย่างขนาดใหญ่ทั่วประเทศระยะยาวแม้ว่าการศึกษาและ randomizedcontrolledทดลองมีความจำเป็นเพื่อยืนยันความสัมพันธ์ระหว่างกิมจิการใช้และความดันโลหิตสูงความเสี่ยง การศึกษาที่เปิดเผยการบริโภคสูงของกิมจิไม่เกี่ยวข้องกับการเพิ่มขึ้นความชุกของความดันโลหิตสูงในมนุษย์ ผลของเราแนะนำที่โพแทสเซียมสูงบริโภคจากการบริโภคสูงของกิมจิอาจมีเก็บผลของการบริโภคโซเดียมสูงในเลือดระดับความดัน เพื่อยืนยันความสัมพันธ์นี้ ออกแบบสุ่มทดลองควบคุมได้รับการประกัน

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

การศึกษาครั้งนี้ว่ามีการเชื่อมโยงไม่
ระหว่างการบริโภคกิมจิและความชุกของความดันโลหิตสูง.
วิจัยก่อนหน้านี้มีรายงานผลประโยชน์ของกิมจิ
รวมถึงมันจะเป็นแหล่งที่มาของโปรไบโอติกและกิจกรรมการต้านอนุมูลอิสระที่เป็น
ระเบียบภูมิคุ้มกันผลกระทบ chemopreventive และความสามารถในการ
ปรับปรุง โปรไฟล์การเผาผลาญ [1,2,18e20] เนื่องจากประโยชน์ต่อสุขภาพเหล่านี้
กิมจิได้รับหนึ่งในอาหารหมักดองที่มีชื่อเสียงมากที่สุดในโลก
และการผลิตภาคอุตสาหกรรมที่มีคุณภาพสูงมาตรฐาน
กิมจิได้รับการพิจารณา [3,6].
อย่างไรก็ตามความกังวลเกี่ยวกับความเป็นไปได้ของกิมจิที่เอื้อ
กับความเสี่ยงที่เพิ่มขึ้นของ ความดันโลหิตสูงได้เกิดขึ้นเพราะของเกลือสูง
การบริโภคเป็นผลมาจากการบริโภคกิมจิสูง [7,8] ในสัตว์
การศึกษา, ความดันโลหิตสูงขึ้นจากการบริโภคของ highsodium-
มีกิมจิ แต่ไม่ได้รับอิทธิพลโดยการเสริม
ด้วยโซเดียมต่ำกิมจิ [7] ในการศึกษานี้ระดับของซีรั่ม
ชีวเคมีรวมทั้งโซเดียมและโพแทสเซียมก็
ไม่ได้แตกต่างกันระหว่างกลุ่มและเอนไซม์ในระดับซีรั่ม
ของ aldosterone ลดลงในกลุ่มกิมจิโซเดียมต่ำซึ่ง
หมายความว่าระบบ renineangiotensinealdosterone อาจจะมี
ส่วนร่วมในการ กลไกของการเปลี่ยนแปลงความดันโลหิต
พร้อมกับการบริโภคกิมจิ อย่างไรก็ตามในทางระบาดวิทยา
ศึกษาการบริโภคโซเดียมตัวเองพร้อมด้วยอาหารประจำวันไม่
ปรากฏว่ามีความสัมพันธ์กับความเสี่ยงสำหรับความดันโลหิตสูงหลังจาก
ปรับค่าปัจจัย [9] เมื่อคนมี
การบริโภคที่เพิ่มขึ้นของโพแทสเซียมบริโภคสูงของโซเดียมไม่เกี่ยวข้อง
กับความดันโลหิตสูงขึ้น [21] การทดลองในมนุษย์ที่ผ่านมาได้
ตรวจสอบผลกระทบร่วมกันของโซเดียมและโพแทสเซียมในความดันโลหิตสูง
และผลที่ตามมาของโรคหัวใจและหลอดเลือด [22,23] ในการศึกษาในปัจจุบัน
ถึงแม้ว่ากลุ่มผู้เข้าร่วมกับการบริโภคที่สูงที่สุดของ
กิมจิยังมีปริมาณโซเดียมสูงที่สุดมีความเสี่ยงความดันโลหิตสูง
ไม่แตกต่างกันระหว่างกลุ่ม มีปริมาณที่เพิ่มขึ้นของ
กิมจิปริมาณโพแทสเซียมเพิ่มขึ้นมากเกินไปในการศึกษานี้ ผล
ของการศึกษาของมนุษย์ที่ผ่านมามีรายงานว่าทำให้เกิดโรคของ
ความดันโลหิตสูงหลักคือการทำงานร่วมกันของส่วนเกินโซเดียมและ
ขาดโพแทสเซียมในร่างกายมากกว่าอย่างใดอย่างหนึ่งของการระเบิด
เพียงอย่างเดียว [21e23] ในฐานะที่เป็นผักเป็นแหล่งสำคัญสำหรับโพแทสเซียม
บริโภคที่เพิ่มขึ้นของผักลดความเสี่ยงในการ
พัฒนาความดันโลหิตสูง [24e26] กิมจิไม่ได้เป็นเพียงแหล่งที่มาของ
โซเดียม แต่ยังเป็นแหล่งสำคัญของโพแทสเซียมในเกาหลีทั่วไป
อาหาร ดังนั้นผลของเราแสดงให้เห็นว่าปริมาณโพแทสเซียมสูงจาก
การบริโภคสูงของกิมจิสามารถช่วยแก้ผลกระทบของ
การบริโภคโซเดียมสูงในระดับความดันโลหิต.
มีข้อ จำกัด หลายประการอยู่ในการศึกษาครั้งนี้ การศึกษาของเรา
มีการออกแบบตัดขวางจากการที่ความสัมพันธ์เชิงสาเหตุ
ไม่สามารถยืนยันได้ เพื่อลดข้อ จำกัด นี้เรายกเว้น
ผู้เข้าร่วมที่ได้รับการวินิจฉัยที่มีความดันโลหิตสูงหรือถูก
ได้รับการรักษามัน การออกแบบการทดลองแบบสุ่มควบคุม
จะได้ให้หลักฐานที่แข็งแกร่งสำหรับความสัมพันธ์เชิงสาเหตุ.
พิจารณาความเป็นไปได้ของการทดลองควบคุมแบบสุ่มสำหรับการรับประทานอาหาร
การแทรกแซงของมนุษย์ในตัวอย่างทั่วประเทศขนาดใหญ่ระบาดวิทยา
การศึกษาที่มีตลอด 24 ชั่วโมงจำได้ว่าสามารถทำหน้าที่เป็นหนึ่งในที่สุด
ค่าใช้จ่าย ทดแทนที่มีประสิทธิภาพและเป็นไปได้สำหรับการสุ่ม
ทดลองควบคุมเป็นความน่าเชื่อถือของการบริโภคอาหารแบบสอบถามที่ได้มา
ข้อมูลและความมั่นคงของพฤติกรรมการบริโภคอาหารของผู้ใหญ่กับ
ช่วงเวลาที่สามารถให้ข้อมูลที่ถูกต้องและเชื่อถือได้ [27] ข้อ จำกัด อื่น ๆ
ก็คือว่าการบริโภคในชีวิตประจำวันของพลังงานสารอาหารและกิมจิถูก
คำนวณโดยใช้วิธีหนึ่งตลอด 24 ชั่วโมงเรียกคืนอาหาร จะเป็นการดีในชีวการแพทย์
การศึกษาอย่างน้อยสามตลอด 24 ชั่วโมงจำได้ว่าหนึ่งในวันออกและสอง
วันทำการจะให้ข้อมูลที่ถูกต้องและเชื่อถือได้ในการประมาณ
ปริมาณของบุคคล แต่แนบเนียนนี้ไม่สามารถได้อย่างง่ายดาย
นำไปใช้กับกลุ่มตัวอย่างทั่วประเทศที่มีขนาดใหญ่.
แม้ว่าศึกษาระยะยาวและ randomizedcontrolled
การทดลองที่มีความจำเป็นเพื่อยืนยันความสัมพันธ์ระหว่างกิมจิ
บริโภคและความเสี่ยงความดันโลหิตสูงการศึกษาพบว่ามี
การบริโภคสูงของกิมจิไม่ได้เกี่ยวข้องกับการเพิ่มขึ้น
ความชุกของความดันโลหิตสูงในมนุษย์ ผลของเราชี้ให้เห็นว่า
ปริมาณโพแทสเซียมสูงจากการบริโภคสูงของกิมจิอาจจะ
ได้ลบล้างผลของการบริโภคโซเดียมสูงในเลือด
ระดับความดัน เพื่อยืนยันการเชื่อมโยงนี้การออกแบบที่ดีสุ่ม
ทดลองการควบคุมมีการรับประกัน

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

การศึกษาเอกสารที่ไม่มีสมาคมระหว่างการบริโภคกิมจิและความชุกของโรคความดันโลหิตสูงงานวิจัยก่อนหน้านี้ได้รายงานผลประโยชน์ของกิมจิรวมทั้งเป็นแหล่งโปรไบโอติกและกิจกรรมต้านของมันภูมิคุ้มกันระเบียบ ผล การ และ ความสามารถในการปรับปรุงการเผาผลาญอาหารโปรไฟล์ [ 1,2,18e20 ] เนื่องจากประโยชน์ต่อสุขภาพเหล่านี้กิมจิเป็นอาหารหมักที่มีชื่อเสียงที่สุดทั่วโลกและการผลิตของอุตสาหกรรม คุณภาพสูง มาตรฐานกิมจิได้รับการพิจารณา [ 3 , 6 ]อย่างไรก็ตาม ความกังวลเกี่ยวกับความเป็นไปได้ของสาเหตุ กิมจิจะเพิ่มความเสี่ยงของความดันโลหิตสูงเพิ่มขึ้น เพราะเกลือสูงผลของการบริโภคสูงการบริโภคกิมจิ [ 7 , 8 ) ในสัตว์การศึกษาความดันเลือดสูงโดยการใช้ highsodium -ที่มีแต่ไม่ได้รับอิทธิพลจากรูปแบบกิมจิโซเดียมต่ำกับกิมจิ [ 7 ] การศึกษาระดับของซีรั่มพารามิเตอร์ทางชีวเคมี ได้แก่ โซเดียม และโพแทสเซียม คือไม่แตกต่างกันระหว่างกลุ่มและระดับเอนไซม์ในซีรั่มของอัลโดสเตอโรน ลดลงในกลุ่มที่โซเดียมต่ำ กิมจิ ,หมายถึง ระบบ renineangiotensinealdosterone อาจ มีการมีส่วนร่วมในกลไกของการเปลี่ยนแปลงความดันโลหิตพร้อม ด้วยการบริโภคกิมจิ อย่างไรก็ตาม ในทางระบาดวิทยา .ศึกษาการบริโภคโซเดียม ตัวเองพร้อมด้วยอาหารทุกวัน , ไม่ได้ปรากฏว่ามีความสัมพันธ์กับความเสี่ยงความดันโลหิตสูง หลังจากเมื่อปัจจัยที่เพิ่มโอกาสเสี่ยง [ 9 ] เมื่อบุคคลมีการบริโภคที่เพิ่มขึ้นของการบริโภคสูงของโซเดียม โพแทสเซียม ไม่เกี่ยวข้องด้วยแรงดันสูงในเลือด [ 21 ] การทดลองมนุษย์ล่าสุดมีสามารถร่วมผลของโซเดียมและโพแทสเซียมในโรคความดันโลหิตสูง[ ของ 22,23 ทางหัวใจและหลอดเลือดหัวใจ ] ในการศึกษาครั้งนี้แม้ว่ากลุ่มผู้ที่มีปริมาณสูงสุดของกิมจิก็มีปริมาณโซเดียมสูง ความเสี่ยงของโรคความดันโลหิตสูงไม่แตกต่างกันระหว่างกลุ่ม กับการบริโภคที่เพิ่มขึ้นของกิมจิ , โพแทสเซียมการบริโภคเพิ่มขึ้นด้วย ในการศึกษานี้ ผลลัพธ์การศึกษาพยาธิกำเนิดของมนุษย์ล่าสุดรายงานว่าความดันโลหิตสูงปฐมภูมิคือการปฏิสัมพันธ์ของโซเดียมส่วนเกิน และการขาดโพแทสเซียมในร่างกาย มากกว่าของการแปรปรวนอยู่คนเดียว [ 21e23 ] เป็นผักเป็นแหล่งสำคัญสำหรับโพแทสเซียมเพิ่มการบริโภคผักลดความเสี่ยงสำหรับการพัฒนาความดันโลหิตสูง [ 24e26 ] กิมจิไม่เพียงเป็นแหล่งของโซเดียม แต่ยังเป็นแหล่งของโพแทสเซียมในเกาหลีทั่วไปอาหาร ดังนั้น จากผลการศึกษานี้ ปริมาณโปแตสเซียมสูงจากการบริโภคสูงของกิมจิ สามารถช่วยแก้ผลกระทบของปริมาณโซเดียมสูงในระดับความดันโลหิตมีหลายข้อ จำกัด ในการศึกษาปัจจุบัน การศึกษาของเรามีแบบภาคตัดขวาง ซึ่งความสัมพันธ์เชิงสาเหตุยังยืนยันไม่ได้ เพื่อลดข้อจำกัดนี้ เราไม่รวมผู้ที่ได้รับการวินิจฉัยกับความดันโลหิตสูงหรือได้รับการรักษาสำหรับมัน การออกแบบการทดลองแบบสุ่มน่าจะให้แข็งแกร่งหลักฐานความสัมพันธ์เชิงสาเหตุพิจารณาความเป็นไปได้ของการสุ่มทดสอบอาหารการแทรกแซงของมนุษย์ในตัวอย่างทั่วประเทศขนาดใหญ่ , ระบาดวิทยาเรียน 24 ชั่วโมงหลังสามารถเป็นหนึ่งในมากที่สุดที่มีประสิทธิภาพและประหยัดค่าใช้จ่ายที่เป็นไปได้แทน 1การทดลองควบคุม เช่น ความน่าเชื่อถือของแบบสอบถามที่ได้รับ อาหารเสริมข้อมูล และเสถียรภาพของใยอาหารบริโภคนิสัยของผู้ใหญ่ด้วยในช่วงเวลาที่สามารถให้ข้อมูลที่ถูกต้องและเชื่อถือได้ [ 27 ] ข้อจำกัดอื่น ๆคือว่า การบริโภคทุกวัน พลังงาน สารอาหาร และกิมจิ คือโดยการเรียกคืนอาหาร 24 ชั่วโมง นึกคิด , ชีวการแพทย์ศึกษา เล่าให้บริการอย่างน้อยสามคน หนึ่งในวันที่ปิด ทั้ง 2 ด้านทำงานวัน จะ ให้ ถูกต้อง และเชื่อถือได้ของข้อมูลเพื่อประเมินการบริโภคของบุคคล อย่างไรก็ตาม ในความเป็นจริง นี้อาจไม่ได้ใช้ตัวอย่างทั่วประเทศ ขนาดใหญ่แม้ว่าการศึกษาระยะยาว และ randomizedcontrolledการทดลองจำเป็นต้องมีความสัมพันธ์ระหว่างกิมจิการบริโภคและความเสี่ยงความดันโลหิตสูง การศึกษาครั้งนี้ เปิดเผยการบริโภคสูงของกิมจิ ไม่ได้เกี่ยวข้องกับการเพิ่มขึ้นความชุกของโรคในมนุษย์ ผลของเราชี้ให้เห็นว่าปริมาณโพแทสเซียมสูงจากการบริโภคสูงของกิมจิ อาจมีการแก้ผลของปริมาณโซเดียมสูงในเลือดระดับความดัน เพื่อยืนยันว่าสมาคมนี้ เรียนแบบสุ่มการทดลองควบคุมอยู่ในประกัน