Let no one be slow to seek wisdom w

Let no one be slow to seek wisdom when he is young nor weary in the search of it when he has grown old. For no age is too early
or too late for the health of the soul. And to say that the season for studying philosophy has not yet come, or that it is past and
gone, is like saying that the season for happiness is not yet or that it is now no more. Therefore, both old and young alike ought to
seek wisdom, the former in order that, as age comes over him, he may be young in good things because of the grace of what has
been, and the latter in order that, while he is young, he may at the same time be old, because he has no fear of the things which
are to come. So we must exercise ourselves in the things which bring happiness, since, if that be present, we have everything, and,
if that be absent, all our actions are directed towards attaining it.
In Chapter 7, I will challenge the assumption of Epicurus that happiness is the meaning of life, and I
prefer to write of the health of the mind or brain rather than the soul. But I agree wholeheartedly that
old and young alike ought to seek wisdom.
Wisdom operates at different levels. Most generally, it concerns recognizing major goals such as
love, work, and play. In addition, much wisdom consists in knowledge about how to accomplish these
goals. For example, learning from experience how to have a good romantic relationship contributes to
satisfaction of the goal of having love in one's life. Moreover, wisdom includes many kinds of
knowledge that complement more specific information about primary goals and how to accomplish
them. In particular, knowing how to keep yourself healthy by eating well is valuable for ensuring that
illness won't prevent the pursuit of major goals. Wisdom of a particularly deep sort concerns knowing
why some goals such as love, work, and play are so important to people. Chapter 8 will argue that
love, work, and play are the meaning of life because they help to satisfy vital human needs.
Where can we look for all these kinds of wisdom? Philosophers have sought wisdom for thousands
of years, but there is little consensus about what they have learned. The philosopher Jerry Fodor
joked that anybody who thinks that philosophers have access to large resources of practical wisdom
hasn't been going to faculty meetings. My own approach to wisdom is unusual in that I use
experimental psychology and recent research in neuroscience to develop a systematic account of what
matters to people and why it matters.
Philosophical Approaches
The approach to philosophy that I favor, attempting to answer fundamental questions by relating them
to scientific findings, is called naturalism. Many philosophers since Plato have scorned naturalism,
arguing that science cannot provide answers to the deepest philosophical questions, especially ones
that concern not just how the world is but how it ought to be. They think that philosophy should reach
conclusions that are true a priori, which means that they are prior to sensory experiences and can be
gained by reason alone. Unfortunately, despite thousands of years of trying, no one has managed to
find any undisputed a priori truths. The absence of generally accepted a priori principles shows that
the distinguished Platonic philosophical tradition of looking for them has failed. Wisdom must be
sought more modestly.
Sometimes, however, philosophy gets too modest. The highly influential Austrian/British
philosopher Wittgenstein asserted that philosophy is unlike science in that all it should aim for is
conceptual clarification. In his early writings, he looked to formal logic to provide the appropriate
tools, and in his later work he emphasized attention to ordinary language. He claimed that philosophy
“leaves everything as it is.” Much of twentiethcentury philosophy in English devoted itself to the
modest goal of merely clarifying existing concepts. But no one has learned much from analyzing the
logic or the ordinary use of the words “wise” and “wisdom.” We need a theory of wisdom that can
tell us what is important and why it is important. Such theorizing requires introducing new concepts
and rejecting or modifying old ones.
My approach in this book is to seek wisdom that is natural, not in the health food sense of being
free of chemical additives, but in the scientific sense of being guided by experiments and theories.
Philosophical naturalism is more intellectually ambitious than conceptual clarification, but rejects
Platonic and religious ambitions to seek truth in supernatural realms. In Chapter 2, I will give a
sustained argument why we should base our beliefs on scientific evidence rather than on faith.
Psychology and neuroscience are particularly rich sources of evidence relevant to the four central
philosophical questions about reality, knowledge, meaning, and morality, so I call my approach
neural naturalism.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ให้ใครจะช้าเพื่อค้นหาภูมิปัญญาเมื่อเขาเป็นหนุ่ม ไม่เหนื่อยในการค้นหาของมันเมื่อจนเก่า สำหรับอายุไม่เกินต้นหรือสายเกินไปสำหรับสุขภาพของจิตวิญญาณ และ จะบอกว่า ฤดูกาลสำหรับการศึกษาปรัชญาไม่ได้มา หรือว่า มันเป็นอดีต และหายไป เป็นเช่นพูดว่า ฤดูกาลสำหรับความสุขยังไม่มี หรือเป็นไม่ ดังนั้น ทั้งเก่าและยังเหมือนควรจะค้นหาภูมิปัญญา เดิมเพื่อให้ อายุมาเหนือเขา เขาอาจจะอ่อนในสิ่งที่ดีเนื่องจากพระคุณของสิ่งมีรับ และลำดับที่ ในขณะที่เขาเป็นหนุ่ม เขาอาจพร้อมกันหลังเก่า เนื่องจากเขามีความกลัวในสิ่งที่กำลังจะมา ดังนั้นเราต้องออกกำลังกายตนเองในสิ่งที่นำความสุข ตั้งแต่ ถ้าที่มีอยู่ เรามีทุกอย่าง และถ้าที่จะขาดงาน การกระทำของเราทั้งหมดจะถูกนำไปทางเรือได้ในบทที่ 7 ฉันจะท้าทายสมมติฐานของ Epicurus ว่า ความสุขเป็นความหมายของชีวิต และชอบการเขียนของสุขภาพของจิตใจ หรือสมอง มากกว่าจิตวิญญาณ แต่ฉันเห็นคำที่เก่าและเหมือนหนุ่มสาวควรจะแสวงหาปัญญาภูมิปัญญาดำเนินงานในระดับต่าง ๆ มากที่สุดโดยทั่วไป มันเกี่ยวข้องกับการจดจำเป้าหมายหลักเช่นรัก ทำงาน และเล่น นอกจากนี้ ภูมิปัญญามากประกอบด้วยในความรู้เกี่ยวกับวิธีการดำเนินการเหล่านี้เป้าหมาย ตัวอย่าง เรียนรู้จากประสบการณ์วิธีการมีความสัมพันธ์ที่โรแมนติกดีสนับสนุนความพึงพอใจของเป้าหมายของการมีความรักในชีวิต นอกจากนี้ ภูมิปัญญารวมหลายชนิดของความรู้ที่เติมเต็มข้อมูลเฉพาะเพิ่มเติมเกี่ยวกับเป้าหมายหลักและวิธีการทำพวกเขา โดยเฉพาะ รู้เพื่อสุขภาพตัวเอง ด้วยการกินดีมีคุณค่าสำหรับลูกค้าที่เจ็บป่วยจะไม่ป้องกันการแสวงหาเป้าหมายสำคัญ ภูมิปัญญาของความกังวลเรียงลึกโดยเฉพาะอย่างยิ่งความรู้ทำไมบางเป้าหมายเช่นความรัก ทำงาน และเล่นได้ให้ความสำคัญกับคน บทที่ 8 จะโต้เถียงที่ความรัก งาน และมีความหมายของชีวิตให้เพื่อตอบสนองความต้องการมนุษย์ที่สำคัญเราค้นหาทุกชนิดเหล่านี้ของภูมิปัญญาที่สามารถ นักปรัชญาได้พยายามภูมิปัญญาหลักพันปี แต่มีมติเพียงเล็กน้อยเกี่ยวกับสิ่งที่พวกเขาได้เรียนรู้ นักปราชญ์ Jerry Fodorพูดติดตลกว่า ใครที่คิดว่า ปรัชญามีการเข้าถึงทรัพยากรขนาดใหญ่ของปัญญาปฏิบัติไม่ได้จะไปประชุมคณะ วิธีการของตนเองภูมิปัญญาเป็นปกติที่ใช้จิตวิทยาการทดลองและวิจัยประสาทวิทยาศาสตร์การบัญชีเป็นระบบที่พัฒนาล่าสุดเรื่องและทำไมมันเป็นเรื่องแนวทางปรัชญาวิธีการปรัชญาที่ฉันชอบ พยายามที่จะตอบคำถามพื้นฐาน โดยเกี่ยวข้องกับพวกเขาการค้นพบทางวิทยาศาสตร์ เรียกว่า naturalism นักปรัชญาจำนวนมากตั้งแต่เพลโตมี scorned naturalismโต้เถียงที่ วิทยาศาสตร์ไม่สามารถให้คำตอบลึกที่สุดปรัชญาถาม โดยเฉพาะอย่างยิ่งคนที่กังวลว่าโลกจะไม่เพียงแต่ว่ามันควรจะเป็น พวกเขาคิดว่า ควรถึงปรัชญาบทสรุปที่แท้จริงเป็น priori ซึ่งหมายความ ว่า พวกเขามีประสบการณ์ทางประสาทสัมผัสก่อน และสามารถได้รับ โดยเหตุผลเพียงอย่างเดียว อับ แม้พันปีพยายาม ไม่มีจัดการเพื่อใดไม่จริง priori ความค้นหา แสดงการขาดงานของ priori มีหลักทั่วไปที่ทั้งประเพณีปรัชญา Platonic การหาพวกเขาล้มเหลว ต้องเป็นภูมิปัญญาค้นหาเพิ่มเติมทั้งบางครั้ง อย่างไรก็ตาม ปรัชญาจะเจียมเนื้อเจียมตัวเกินไป ออสเตรีย/อังกฤษมีอิทธิพลสูงนักปราชญ์ Wittgenstein คนปรัชญาแตกต่างจากวิทยาศาสตร์ในให้มันควรมุ่งหวังชี้แจงแนวคิด ในงานเขียนแรก ๆ ของเขา เขาดูแบบทางตรรกะเพื่อให้งานเครื่องมือ และในงานของเขาในภายหลัง เขาได้เน้นให้ความสนใจกับภาษาธรรมดา เขาอ้างว่า ปรัชญานั้น"ทำทุกอย่างก็" Twentiethcentury ปรัชญาในภาษาอังกฤษมากทุ่มเทเพื่อการเป้าหมายที่เจียมเนื้อเจียมตัวทำเพียงแนวคิดที่มีอยู่ แต่ไม่ได้เรียนรู้มากจากการวิเคราะห์การตรรกะ หรือปกติใช้คำว่า "ฉลาด" และ "ภูมิปัญญา" เราต้องเป็นทฤษฎีของภูมิปัญญาที่สามารถบอกเราสำคัญคืออะไรและทำไมจึงสำคัญ เช่นเก่าต้องการแนะนำแนวคิดใหม่และปฏิเสธ หรือปรับเปลี่ยนคนเก่าวิธีการของฉันในหนังสือเล่มนี้คือเพื่อ ค้นหาภูมิปัญญาที่เป็นธรรมชาติ ในแง่อาหารสุขภาพที่ไม่ฟรี ของสารเคมี แต่ ในแง่ของการแนะนำโดยการทดลองและทฤษฎีทางวิทยาศาสตร์ปรัชญา naturalism ไม่ทะเยอทะยานมากสติปัญญามากกว่าการชี้แจงแนวคิด แต่ไม่ยอมรับความทะเยอทะยาน Platonic และศาสนาเพื่อค้นหาความจริงในอาณาจักรเหนือธรรมชาติ ในบทที่ 2 จะให้เป็นยั่งยืนอาร์กิวเมนต์ทำไมเราควรยึดความเชื่อของหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ มากกว่าความเชื่อจิตวิทยาและประสาทวิทยาศาสตร์เป็นแหล่งอุดมไปด้วยโดยเฉพาะหลักฐานที่เกี่ยวข้องกับเซ็นทรัล 4คำถามปรัชญาเกี่ยวกับความจริง ความรู้ ความหมาย และ ศีลธรรม ดังนั้นฉันเรียกวิธีของฉันnaturalism ประสาท

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

อย่าให้ผู้ใดจะช้าที่จะแสวงหาปัญญาเมื่อเขาเป็นเด็กไม่เบื่อในการค้นหาของมันเมื่อเขาได้เติบโตเก่า อายุไม่เร็วเกินไปหรือสายเกินไปสำหรับสุขภาพของจิตวิญญาณ
และจะบอกว่าฤดูกาลสำหรับการศึกษาปรัชญายังไม่ได้มาหรือว่ามันเป็นอดีตและหายไปก็เหมือนบอกว่าฤดูกาลเพื่อความสุขยังไม่เป็นหรือว่าขณะนี้ไม่มีอะไรมาก
ดังนั้นทั้งเด็กและคนแก่เหมือนกันควรจะแสวงหาภูมิปัญญาในอดีตในการสั่งซื้อที่เป็นอายุมามากกว่าเขาเขาอาจจะเป็นหนุ่มสาวในสิ่งที่ดีเพราะพระคุณของสิ่งที่มีได้และหลังเพื่อที่ว่าในขณะที่เขาเป็นหนุ่มสาวที่เขาอาจจะในเวลาเดียวกันจะเก่าเพราะเขามีความกลัวในสิ่งที่ไม่มีจะเกิดมา ดังนั้นเราจึงต้องใช้ตัวเองในสิ่งที่นำความสุขเพราะหากที่เป็นปัจจุบันเรามีทุกอย่างและหากที่จะขาดการกระทำของเราทั้งหมดจะถูกนำไปบรรลุมัน. ในบทที่ 7 ผมจะท้าทายสมมติฐานของ Epicurus ความสุขที่เป็นความหมายของชีวิตและฉันชอบที่จะเขียนของสุขภาพของจิตใจหรือสมองมากกว่าจิตวิญญาณ แต่ผมเห็นด้วยใจจริงที่เด็กและคนแก่เหมือนกันควรที่จะแสวงหาภูมิปัญญา. ภูมิปัญญาทำงานที่ระดับที่แตกต่าง ส่วนใหญ่โดยทั่วไปมันเกี่ยวข้องกับการตระหนักถึงเป้าหมายที่สำคัญเช่นความรักการทำงานและการเล่น นอกจากนี้ยังมีสติปัญญามากประกอบด้วยในความรู้เกี่ยวกับวิธีการเหล่านี้ประสบความสำเร็จตามเป้าหมาย ยกตัวอย่างเช่นการเรียนรู้จากประสบการณ์ว่าจะมีความสัมพันธ์ที่โรแมนติกที่ดีก่อให้เกิดความพึงพอใจของเป้าหมายของการมีความรักในชีวิตหนึ่งของ นอกจากนี้ยังรวมถึงภูมิปัญญาหลายชนิดของความรู้ที่เติมเต็มข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับเป้าหมายหลักและวิธีการที่จะบรรลุพวกเขา โดยเฉพาะอย่างยิ่งรู้วิธีเพื่อให้ตัวเองมีสุขภาพดีโดยการรับประทานอาหารที่ดีมีคุณค่าเพื่อให้มั่นใจว่าการเจ็บป่วยจะไม่ป้องกันการแสวงหาเป้าหมายที่สำคัญ ภูมิปัญญาของความกังวลโดยเฉพาะอย่างยิ่งการจัดเรียงลึกรู้ว่าทำไมบางเป้าหมายเช่นความรักการทำงานและการเล่นที่ให้ความสำคัญกับคน บทที่ 8 จะยืนยันว่าความรักการทำงานและการเล่นที่มีความหมายของชีวิตเพราะพวกเขาช่วยในการตอบสนองความต้องการของมนุษย์ที่สำคัญ. ที่เราสามารถมองหาทุกชนิดเหล่านี้ของภูมิปัญญา? นักปรัชญาได้ขอภูมิปัญญาเป็นพันๆ ปี แต่มีมติเพียงเล็กน้อยเกี่ยวกับสิ่งที่พวกเขาได้เรียนรู้ นักปรัชญาเจอร์โดล้อว่าใครที่คิดว่านักปรัชญาที่มีการเข้าถึงทรัพยากรที่มีขนาดใหญ่ของภูมิปัญญาในทางปฏิบัติยังไม่ได้รับไปกับการประชุมคณะ วิธีการของตัวเองภูมิปัญญาเป็นเรื่องปกติในการที่ผมใช้จิตวิทยาการทดลองและการวิจัยที่ผ่านมาในประสาทในการพัฒนาระบบบัญชีของสิ่งที่มีความสำคัญกับผู้คนและทำไมมันเรื่อง. ปรัชญาแนวทางแนวทางปรัชญาที่ผมชอบความพยายามที่จะตอบคำถามพื้นฐานโดยที่เกี่ยวข้องพวกเขาจะค้นพบทางวิทยาศาสตร์เรียกว่าธรรมชาติ นักปรัชญาหลายคนตั้งแต่เพลโตได้ดูหมิ่นนิยม, การโต้เถียงที่วิทยาศาสตร์ไม่สามารถให้คำตอบสำหรับคำถามทางปรัชญาที่ลึกที่สุดโดยเฉพาะคนที่ไม่ได้เป็นเพียงความกังวลว่าโลกเป็นเพียงวิธีการที่มันควรจะเป็น พวกเขาคิดปรัชญาที่ว่าควรจะถึงข้อสรุปที่เป็นจริงเบื้องต้นซึ่งหมายความว่าพวกเขาจะเป็นก่อนที่จะมีประสบการณ์ทางประสาทสัมผัสและสามารถได้รับจากเหตุผลเดียว แต่น่าเสียดายที่แม้จะมีเป็นพัน ๆ ปีของการพยายามที่ไม่มีใครได้พยายามที่จะหาใดๆ ที่ความจริงไม่มีปัญหาเบื้องต้น กรณีที่ไม่มีการยอมรับโดยทั่วไปหลักการเบื้องต้นแสดงให้เห็นว่าโดดเด่นประเพณีปรัชญาของเพลโตมองหาพวกเขาล้มเหลว ภูมิปัญญาจะต้องพยายามมากขึ้นอย่างสุภาพ. บางครั้งได้รับปรัชญาเจียมเนื้อเจียมตัวมากเกินไป ที่มีอิทธิพลอย่างมากออสเตรีย / อังกฤษปรัชญาWittgenstein ถูกกล่าวหาว่าจะแตกต่างจากปรัชญาวิทยาศาสตร์ว่าทั้งหมดมันควรจะเป็นจุดมุ่งหมายเพื่อชี้แจงแนวความคิด ในงานเขียนแรกของเขาเขามองเหตุผลอย่างเป็นทางการเพื่อให้เหมาะสมเครื่องมือและต่อมาในการทำงานของเขาที่เขาเน้นความสนใจกับภาษาสามัญ เขาอ้างว่าปรัชญา"ใบทุกอย่างที่มันเป็น." มากของปรัชญา twentiethcentury ในภาษาอังกฤษอุทิศตัวเพื่อการเป้าหมายเจียมเนื้อเจียมตัวเป็นเพียงแนวความคิดที่มีอยู่ชัดเจน แต่ไม่มีใครได้เรียนรู้มากจากการวิเคราะห์ตรรกะหรือการใช้งานปกติของคำว่า "ฉลาด" และ "ภูมิปัญญา." เราจำเป็นต้องทฤษฎีของภูมิปัญญาที่ที่สามารถบอกเราว่ามีความสำคัญและเหตุผลที่สำคัญคือ ทฤษฎีดังกล่าวต้องแนะนำแนวคิดใหม่และการปฏิเสธหรือการปรับเปลี่ยนคนเก่า. วิธีการของฉันในหนังสือเล่มนี้คือการแสวงหาภูมิปัญญาที่เป็นธรรมชาติไม่ได้อยู่ในความรู้สึกของอาหารเพื่อสุขภาพของการเป็นอิสระจากสารเคมี แต่ในความหมายทางวิทยาศาสตร์ของการถูกชี้นำโดยการทดลองและ ทฤษฎี. นิยมปรัชญามากขึ้นกว่าที่มีความทะเยอทะยานปัญญาชี้แจงแนวคิด แต่ปฏิเสธความทะเยอทะยานเพื่อนคุยและศาสนาเพื่อแสวงหาความจริงในอาณาจักรเหนือธรรมชาติ ในบทที่ 2 ผมจะให้โต้แย้งอย่างยั่งยืนเหตุผลที่เราควรฐานความเชื่อของเราเกี่ยวกับหลักฐานทางวิทยาศาสตร์มากกว่าความเชื่อ. จิตวิทยาและประสาทเป็นแหล่งที่อุดมไปด้วยโดยเฉพาะอย่างยิ่งหลักฐานที่เกี่ยวข้องกับสี่กลางคำถามปรัชญาเกี่ยวกับความเป็นจริงความรู้ความหมายและศีลธรรมดังนั้นผมจึงเรียกวิธีการของฉันนิยมประสาท

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

อย่าช้าที่จะแสวงหาภูมิปัญญาเมื่อเขาเป็นหนุ่มสาว หรือเหนื่อยในการค้นหาเมื่อเขาเติบโตเก่า ไม่มีอายุเร็วเกินไป
หรือสายเกินไปสำหรับสุขภาพของหัวใจ และบอกว่า ฤดูการศึกษาปรัชญา ยังไม่ได้มา หรือ ว่า มันคืออดีตและ
หายไป เหมือนบอกว่าฤดูกาลความสุขไม่ได้ หรือว่าตอนนี้ไม่มี ดังนั้น ทั้งเก่าและเล็กเหมือนกัน

น่าจะแสวงหาปัญญา อดีตเพื่อที่อายุมามากกว่าเขา เขาอาจจะยังเด็ก ในสิ่งที่ดี เพราะพระคุณของสิ่งที่มี
ถูก และหลังตามลำดับ ขณะที่เขาเป็นเด็ก เขาอาจในเวลาเดียวกันจะเก่า เพราะเขาไม่มีความกลัวในสิ่งที่
เป็น มา ดังนั้น เราต้องฝึกตัวเองในสิ่งที่นำความสุข เพราะ ถ้าเป็นปัจจุบัน เราได้ทุกอย่าง และ
ถ้าขาด ทุกการกระทำของเราจะมุ่งไปที่การบรรลุมัน .
ในบทที่ 7 ผมจะท้าทายสมมติฐานของพิคิวรัสว่า ความสุขคือความหมายของชีวิต และผม
ต้องการเขียนของสุขภาพของจิตใจหรือสมองมากกว่าหัวใจ แต่ผมเห็นด้วยอย่างหมดใจว่า
เก่าและเล็กเหมือนกันควรจะแสวงหาปัญญา
ปัญญาดำเนินการในระดับที่แตกต่างกัน มากที่สุดโดยทั่วไปมันเกี่ยวกับการเป้าหมายหลักเช่น
รักงานและเล่น นอกจากนี้ ปัญญามาก ประกอบด้วยความรู้เกี่ยวกับวิธีที่จะบรรลุเป้าหมายเหล่านี้

ตัวอย่างเช่น การเรียนรู้จากประสบการณ์วิธีการมีความสัมพันธ์ที่โรแมนติกที่ดีมีส่วนช่วย
ความพึงพอใจของเป้าหมายของการมีความรักในชีวิตหนึ่งของ นอกจากนี้ ภูมิปัญญามีหลายชนิด
ความรู้ที่สมบูรณ์ข้อมูลเฉพาะเกี่ยวกับเป้าหมายหลักและวิธีการเพื่อให้บรรลุ
. โดยเฉพาะการรู้วิธีการเพื่อให้ตัวเองมีสุขภาพดี ด้วยการรับประทานอาหารที่ดีมีคุณค่าเพื่อให้มั่นใจว่าโรคจะไม่ป้องกัน
แสวงหาเป้าหมายหลัก ภูมิปัญญาของการจัดเรียงโดยเฉพาะอย่างยิ่งลึกเกี่ยวกับการรู้
ทำไมเป้าหมายบางอย่าง เช่น ความรัก การงาน และการเล่นสำคัญกับคน บทที่ 8 จะเถียงว่า
ความรัก การทำงาน และการเล่นความหมายของชีวิต เพราะจะช่วยตอบสนองความต้องการที่สำคัญของมนุษย์
ซึ่งเราสามารถค้นหาทั้งหมดเหล่านี้ชนิดของปัญญา นักปรัชญาได้แสวงหาปัญญาเพื่อพัน
ปี แต่มีน้อยฉันทามติเกี่ยวกับสิ่งที่พวกเขาได้เรียนรู้ นักปรัชญา เจอร์รี่ โฟดอร์
กล่าวติดตลกว่า ใครที่คิดว่ามีการเข้าถึงทรัพยากรของนักปรัชญาใหญ่
ปัญญาปฏิบัติไม่ได้ไปประชุมคณะ วิธีการของฉันเอง สติปัญญาเป็นปกติที่ผมใช้จิตวิทยาการทดลองและวิจัย
ล่าสุดในทางที่จะพัฒนาระบบบัญชีอะไร
เรื่องคน และทำไมมันสำคัญ แนวทางปรัชญา

แนวปรัชญาที่ผมโปรดปราน พยายามที่จะตอบคำถามพื้นฐานโดยเกี่ยวข้องกับ
ค้นพบทางวิทยาศาสตร์ เรียกว่า ธรรมชาตินิยมนักปรัชญาหลายคนตั้งแต่เพลโตได้ดูถูกธรรมชาตินิยม
การโต้เถียงที่ไม่สามารถให้คําตอบคําถามวิทยาศาสตร์ปรัชญาลึก โดยเฉพาะอย่างยิ่งที่
ที่เกี่ยวข้องไม่ได้เป็นโลกเพียงไร แต่สิ่งที่มันควรจะเป็น . พวกเขาคิดว่าปรัชญาควรจะเข้าถึง
ข้อสรุปที่เป็นจริงระหว่างซึ่งหมายความว่าพวกเขามีก่อนประสบการณ์ทางประสาทสัมผัสและสามารถ
ได้ด้วยเหตุผลเพียงอย่างเดียว ขออภัยแม้จะมีหลายปีของการพยายาม ไม่มีใครจัดการ
พบได้ระหว่างความจริงได้ การยอมรับกันโดยทั่วไประหว่างหลักการแสดงให้เห็นว่าแตกต่างเพลโตปรัชญา
ประเพณีมองหาพวกเขาล้มเหลว ปัญญาต้อง

ขอเพิ่มเติมเจียม บางครั้ง แต่ปรัชญาก็ถ่อมตัวเกินไป ที่มีอิทธิพลสูงออสเตรีย / อังกฤษ
นักปรัชญาวิทเก้นสไตน์อ้างว่าปรัชญาจะแตกต่างจากวิทยาศาสตร์ในที่ทั้งหมด มันควรจะมีจุดมุ่งหมายคือ
ชี้แจงครั้งนี้ ในงานเขียนแรกของเขา เขาหันไปมองทางตรรกะเพื่อให้เครื่องมือที่เหมาะสมและการทำงานในภายหลัง
ของเขาเขาเน้นความสนใจในภาษาสามัญ เขาอ้างว่าปรัชญา
" ใบอย่างที่เป็น" มากของปรัชญา twentiethcentury ภาษาอังกฤษได้ทุ่มเทตัวเองเพื่อ
เป้าหมายเจียมเนื้อเจียมตัวของเพียงชี้แจงแนวคิดที่มีอยู่ แต่ไม่มีใครได้เรียนรู้มากจากการวิเคราะห์
ตรรกะหรือปกติใช้คำว่า " ปัญญา " และ " ปัญญา " เราต้องการทฤษฎีของปัญญาที่สามารถ
บอกเราสิ่งที่สำคัญและทำไมมันเป็นสิ่งสำคัญ เช่นทฤษฎีนี้ต้องแนะนำแนวคิดใหม่
และการปฏิเสธหรือการปรับเปลี่ยนคนเก่า
วิธีการของฉันในหนังสือเล่มนี้คือการแสวงหาปัญญาธรรมชาติที่ไม่ใช่อาหารเพื่อสุขภาพความรู้สึก
ฟรีของสารเคมี แต่ในแง่ของการแนะนำโดยทฤษฎีการทดลองทางวิทยาศาสตร์และปรัชญาธรรมชาตินิยม .
เป็นสติปัญญาทะเยอทะยานมากกว่าชี้แจงแนวคิด แต่ปฏิเสธ
เกี่ยวกับเพลโตศาสนาและความทะเยอทะยานที่จะแสวงหาความจริงในอาณาจักรเหนือธรรมชาติ ในบทที่ 2 จะให้
ยั่งยืนอาร์กิวเมนต์ทำไมเราควรฐานความเชื่อของเราเกี่ยวกับหลักฐานทางวิทยาศาสตร์มากกว่าความเชื่อ จิตวิทยาและประสาทวิทยาศาสตร์รวย
โดยเฉพาะแหล่งที่มาของหลักฐานที่เกี่ยวข้องกับสี่กลาง
ปรัชญาคำถามเกี่ยวกับความจริง ความรู้ ความหมาย และศีลธรรม ผมโทรหา
วิธีการของฉันประสาทธรรมชาตินิยม