According to legend, the temple sit

According to legend, the temple site was chosen by an elephant carrying a holy relic. Originally the relic was to be enshrined at Wat Suan Dok in 1371, but it split in two. The second piece was placed on the back of an elephant which proceeded to climb Doi Suthep, stopping twice.

After three days the elephant finally reached a level piece of ground, circled three times, knelt down and then died. A hole was dug at the site for the relic, which was then covered with a chedi over seven meters in height.

Until the road was built in 1935, pilgrims had to walk up the mountain and then up more than 200 steps on the long naga stairway to reach the temple. This stairway was originally constructed in the mid-16th century in the reign of Phra Mekuti. Like the rest of the temple, the stairway has since been renovated several times.

Small tiles inscribed with the names of donors and the amounts given have been built into the walls just above each step.

The inner walled sanctuary is surrounded by a lower terrace. From this level there is an excellent view over Chiang Mai and valley. The faithful like to ring the bells and gongs round the base of the sanctuary. A statue of the elephant commemorates the founding of the temple.

The inner sanctuary is one of the classic sights of Chiang Mai. A gold plated chedi lies in the middle of a square marble tiled courtyard. The chedi reached its present height of over 16 meters in 1525 in the reign of King Muang Kaew. A railing surrounding the square base of the chedi encloses a walkway for devotional rounds of the chedi (women may not enter this). Parasols, symbols of royal regalia, have been placed at the four corners of the chedi.

The courtyard took its present shape under Chao Kawila in 1805. It is lined by a cloister which contains Buddha images and murals depicting the life of the Buddha. In the middle of the east and west sides of the cloister are two ornate viharn. The inside walls of both are covered with murals. The murals of the eastern viharn show the legend of the elephant and the relic, while those of the western hall show the Vessantara Jataka. Devotees go to the western viharn to receive blessings and lustral water from monks sitting on a dais.

On the south and northern sides of the cloister, smaller shrines are the subject of much veneration. Thais prostrate themselves and then shake a holder with 28 sticks to see which one falls to the ground first. A fortune reading for each of the numbers may be found in a cabinet nearby.

The power of the chedi and the sanctuary attract many visitors who are invited to make merit. The sanctuary contains numerous boxes for donations to worthy causes, such as the education of the needy.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ตามตำนานเว็บไซต์วัดได้รับเลือกจากช้างแบกของที่ระลึกศักดิ์สิทธิ์ เดิมของที่ระลึกก็จะประดิษฐานอยู่ที่วัดสวนดอกใน 1371 แต่มันแยกออกเป็นสอง ชิ้นที่สองถูกวางลงบนหลังช้างซึ่งดำเนินการปีนขึ้นไปดอยสุเทพหยุดสองครั้ง.

สามวันหลังช้างในที่สุดก็มาถึงชิ้นส่วนระดับของพื้นวงกลมสามครั้งคุกเข่าลงและเสียชีวิตแล้ว หลุมถูกขุดที่เว็บไซต์สำหรับของที่ระลึกซึ่งถูกปกคลุมไปด้วยเจดีย์กว่าเจ็ดเมตรสูง.

จนถนนถูกสร้างขึ้นในปี 1935 มีผู้แสวงบุญที่จะเดินขึ้นไปบนภูเขาแล้วขึ้นกว่า 200 ขั้นตอน บันไดนาคยาวไปถึงวัด บันไดนี้ถูกสร้างขึ้นครั้งแรกในช่วงกลางศตวรรษที่ 16 ในรัชสมัยของพระ mekutiเช่นเดียวกับส่วนที่เหลือของวัดบันไดได้รับตั้งแต่ได้รับการบูรณะหลายครั้ง.

กระเบื้องขนาดเล็กสลักชื่อของผู้บริจาคและจำนวนเงินที่ได้รับจะถูกสร้างขึ้นเป็นกำแพงเพียงข้างต้นในแต่ละขั้นตอน.

สถานที่ศักดิ์สิทธิ์ที่มีกำแพงล้อมรอบด้านถูกล้อมรอบด้วย ระเบียงที่ต่ำกว่า จากระดับนี้มีมุมมองที่ดีกว่าจังหวัดเชียงใหม่และหุบเขาซื่อสัตย์ต้องการแหวนระฆังฆ้องและรอบฐานของวิหาร รูปปั้นของช้างเอกราชที่ตั้งของวัด.

สถานที่ศักดิ์สิทธิ์ภายในเป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวที่คลาสสิกของเชียงใหม่ เจดีย์ชุบทองอยู่ในช่วงกลางของลานสแควร์กระเบื้องหินอ่อน เจดีย์สูงถึงปัจจุบันกว่า 16 เมตรใน 1525 ในรัชสมัยของกษัตริย์เมืองแก้วรั้วโดยรอบฐานสี่เหลี่ยมของเจดีย์ล้อมรอบทางเดินรอบสักการะเจดีย์ (ผู้หญิงไม่อาจป้อนนี้) ร่มกันแดดสัญลักษณ์ของพระราชกกุธภัณฑ์ได้รับการวางไว้ที่มุมทั้งสี่ของเจดีย์.

ลานเอารูปปัจจุบันของตนภายใต้เจ้ากาวิละใน 1805 มันเป็นที่เรียงรายไปด้วยวัดที่มีพระพุทธรูปและภาพจิตรกรรมฝาผนังภาพวาดชีวิตของพระพุทธเจ้าในช่วงกลางของด้านทิศตะวันออกและทิศตะวันตกของวัดทั้งสองวิหารหรูหราเป็น ผนังด้านในของทั้งสองจะถูกปกคลุมไปด้วยภาพจิตรกรรมฝาผนัง ภาพจิตรกรรมฝาผนังของวิหารตะวันออกแสดงตำนานของช้างและของที่ระลึกในขณะที่ทางตะวันตกของห้องโถงแสดงเวสสันดรชาดก ที่ชื่นชอบไปที่วิหารตะวันตกจะได้รับพรและน้ำทำให้บริสุทธิ์จากพระสงฆ์นั่งอยู่บนเวที.

ด้านทิศใต้และทิศเหนือของวัดศาลเจ้าที่มีขนาดเล็กเป็นเรื่องของการเคารพบูชามาก คนไทยกราบตัวเองและแล้วเขย่าถือที่มี 28 แท่งไปดูที่หนึ่งตกลงไปที่พื้นเป็นครั้งแรก อ่านโชคลาภสำหรับแต่ละตัวเลขที่อาจพบได้ในตู้ที่ใกล้เคียง.

อำนาจของเจดีย์และวิหารดึงดูดผู้เข้าชมจำนวนมากที่ได้รับเชิญไปทำบุญทำทานสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ประกอบด้วยกล่องมากมายสำหรับการบริจาคเงินให้กับสาเหตุที่คุ้มค่าเช่นการศึกษาของคนยากจน.

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ตำนาน เว็บไซต์วัดถูกเลือก โดยช้างแบกพระธาตุศักดิ์สิทธิ์ เดิม ระลึกที่จะมาประดิษฐานที่วัดสวนดอกใน 1371 แต่มันแบ่งสอง ชิ้นที่สองถูกวางบนหลังช้างซึ่งครอบครัวปีนดอยสุเทพ หยุดสอง

หลังจากสามวันช้างจนถึงชิ้นส่วนระดับของพื้นดิน จัดสามครั้ง knelt ลง และเสียชีวิตแล้ว หลุมที่ขุดที่ไซต์ของระลึก ซึ่งถูกแล้วรวมกับเจดีย์เจ็ดเมตรในความสูง

จนถนนถูกสร้างขึ้นในปี 1935 พิลกริมส์ได้เดิน ขึ้นภูเขา แล้ว ค่ากว่า 200 ตอนบันไดนาคยาวไปถึงวัด บันไดนี้เดิมได้ถูกสร้างขึ้นในศตวรรษ 16 กลางในรัชสมัยของพระ Mekuti เหมือนกับวัด บันไดได้ตั้งแต่รับการบูรณะหลายครั้งด้วย

กระเบื้องเล็กจารึก ด้วยชื่อของผู้บริจาคและจำนวนเงินที่กำหนดได้ถูกสร้างเป็นผนังเหนือขั้นตอนละกัน

แซงกำแพงภายในล้อมรอบ ด้วยระเบียงล่าง จากระดับนี้ ได้เข้าพักเชียงใหม่และหุบเขา ซื่อสัตย์ชอบแหวนระฆัง และ gongs รอบฐานของเขตรักษาพันธุ์ รูปปั้นช้าง commemorates ก่อตั้งของวัด

รี่ภายในเป็นหนึ่งแหล่งคลาสสิกของเชียงใหม่ เจดีย์แบบชุบทองอยู่ตรงกลางลานหญ้าเหลี่ยมหินอ่อนกระเบื้อง เจดีย์หมายถึงความสูงปัจจุบันกว่า 16 เมตรในกลึงในรัชสมัยของพระเมืองแก้ว ความคับแค้นใจที่ล้อมรอบฐานเจดีย์สี่เหลี่ยมใส่ทางเดินสำหรับ devotional รอบเจดีย์ (ผู้หญิงอาจไม่ใส่ข้อมูลนี้) ร่มกันแดด สัญลักษณ์ของกกุธภัณฑ์ ไว้ที่มุมของเจดีย์สี่

คอร์ตยาร์ดเอารูปอยู่ภายใต้เจ้ากาวิละ 1805 มันจะเต็มไป ด้วยวิหารคดซึ่งประกอบด้วยพระพุทธรูปและภาพจิตรกรรมที่แสดงชีวิตของพระพุทธเจ้า กลางด้านตะวันออก และตะวันตกของวิหารคดมีองค์สองสม ภายในกำแพงทั้งถูกปกคลุม ด้วยภาพจิตรกรรม จิตรกรรมขององค์ตะวันออกแสดงตำนานของช้างและระลึก ในขณะที่ตะวันตกศาลาแสดงมหาเวสสันดรชาดก เลือกสรรค์ไปองค์ตะวันตกเพื่อรับพรและน้ำมนต์จากพระสงฆ์ที่นั่งอยู่บน dais

ในด้านใต้และด้านเหนือของวิหารคด ศาลเจ้าที่ขนาดเล็กเป็นประธานของ veneration มาก คนไทย prostrate เอง และจับยึดกับไม้ 28 ดูซึ่งตกอยู่กับพื้นดินก่อนแล้ว ฟอร์จูนอ่านสำหรับแต่ละหมายเลขอาจพบในตู้ใกล้เคียง

ของเจดีย์และสถานดึงดูดนักท่องเที่ยวที่ได้รับเชิญทำบุญ พันธุ์ประกอบด้วยกล่องจำนวนมากสำหรับการบริจาคให้คุ้มค่าทำให้ เช่นการศึกษาของที่ยากจน

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ตามตำนานของวัดได้รับการเลือกสรรโดยช้างที่อนุสรณ์สถานที่ศักดิ์สิทธิ์ แต่แรกเริ่มนั้นถึงแก่กรรมไปแล้วที่จะประดิษฐานอยู่ที่วัดสวนดอกใน 1371 แต่นี้ได้แบ่งออกเป็นสองส่วน ส่วนที่สองที่ถูกวางไว้ที่ด้านหลังของช้างซึ่งเป็นไปเพื่อการปีนเขาดอยสุเทพหยุดสองครั้ง.

หลังจากที่ทั้งสามวันช้างที่ได้รับไปถึงชิ้นระดับของวงกลมสามครั้งคุกเข่าลงแล้วตาย ขุดหลุมที่มีพื้นที่อยู่สำหรับถึงแก่กรรมไปแล้วซึ่งก็มีเจดีย์ที่มากกว่าเจ็ดเมตรในระดับความสูง.

จนถนนที่ได้ถูกสร้างขึ้นในเมื่อปี 1935 ผู้แสวงบุญต้องเดินขึ้นไปบน ภูเขา และจากนั้นจึงขึ้นไปมากกว่า 200 ขั้นในนาคยาวที่บันไดเพื่อเข้าถึงยังวัดแล้ว บันไดแห่งนี้ได้ถูกสร้างขึ้นในศตวรรษที่ 16 กลางที่อยู่ในครอบครองของพระ mekuti เดิมเหมือนกับส่วนที่เหลือของวัดที่มีบันไดที่ได้รับการปรับปรุงใหม่หลายครั้ง.กระเบื้อง

ขนาดเล็กจารึกไว้พร้อมด้วยชื่อของผู้บริจาคและจำนวนเงินที่ได้รับได้ถูกสร้างขึ้นในผนังที่อยู่เหนือขึ้นไปแต่ละขั้นตอน.

เนื่องจากสถานที่มีกำแพงด้านในที่ได้รับการแวดล้อมด้วยด้วยระเบียงด้านล่าง จากระดับนี้มีวิวทิวทัศน์ที่ดีเยี่ยมเหนือเมืองเชียงใหม่และหุบเขาความศรัทธาต้องการเรียกเข้าเสียงระฆังและกลองฆ้องฐานของสถานบริสุทธิ์ มีรูปปั้นของช้างที่ร่วมรำลึกการก่อตั้งของวัดที่.

Sanctuary ด้านในที่เป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆในแบบคลาสสิกของเชียงใหม่ เจดีย์ด้วยสีทองที่ทอดตัวอยู่ในส่วนกลางของพื้นที่ลานกว้างที่ปูพื้นกระเบื้องหินอ่อน Square เจดีย์ที่มาถึงความสูงปัจจุบันของพื้นที่มากกว่า 16 ตารางเมตรใน 1525 มในรัชสมัยของพระเจ้าทรงม่วงแก้วราวโดยรอบฐานสี่เหลี่ยมของเจดีย์ฉบับเกลอผมมักแนบเหรียญเส้นทางเดินเท้าที่ในรอบ ภัยอันตราย อ่านของเจดีย์(ผู้หญิงไม่สามารถใส่นี้) ร่มกันแดดสัญลักษณ์ของราชกกุธ ภัณฑ์ พระราชมีการวางไว้ที่มุมทั้งสี่ของเจดีย์.

พื้นที่ลานกว้างที่เอารูปมาตามแม่น้ำเจ้าพระยา Kawila ประวัติศาสตร์ใน 1805 เป็นเรียงรายไปด้วยระเบียงโบสถ์ซึ่งประกอบด้วย ภาพ จิตรกรรมฝาผนังและ ภาพ พระพุทธรูปที่บรรยายถึงชีวิตของพระพุทธเจ้าในส่วนกลางในแบบตะวันออกและตะวันตกด้านข้างทั้งสองด้านของวัดโบสถ์ที่มีทั้งสองอย่างหรูหรา ผนังด้านในของทั้งสองจะถูกปกคลุมด้วย ภาพ จิตรกรรมฝาผนัง ภาพ จิตรกรรมฝาผนังของโบสถ์ตะวันออกที่แสดงคำอธิบายสัญลักษณ์ของช้างและอนุสรณ์สถานที่ที่ห้องโถงแบบตะวันตกในขณะที่ผู้ที่แสดง vessantara Buddhist Jataka ที่ ผู้ศรัทธาไปยังโบสถ์แบบตะวันตกที่จะรับน้ำพระพุทธมนต์และขอพรจากพระที่นั่งบนเวที.

อยู่ทางด้านใต้ตอนเหนือและด้านข้างของวัดเจดีย์ที่มีขนาดเล็กกว่าจะเป็นเรื่องการเคารพบูชา,มาก คนไทยด้วยกันเองและนอนคว่ำจากนั้นเขย่าที่ใส่พร้อมด้วย 28 แท่งเพื่อดูว่าหนึ่งอยู่กับพื้นเป็นครั้งแรก Fortune ที่อ่านหนังสือสำหรับตัวเลขที่แต่ละรายอาจพบได้ในตู้ที่อยู่ในบริเวณใกล้เคียง.

พลังงานของเจดีย์และสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ที่ดึงดูดความสนใจนักท่องเที่ยวจำนวนมากที่จะได้รับการเชื้อเชิญเพื่อทำบุญเขตสงวนพันธุ์ประกอบด้วยกล่องโต้ตอบจำนวนมากสำหรับเงินบริจาคเพื่อจะทำให้มีคุณค่าเช่นการศึกษาของคนขัดสน.