RESULTSTable 1 describes the demogr

RESULTS
Table 1 describes the demographic information of participants. As can be seen in Table 1, no significant difference was found between Continuous primary nursing care and task-centered nursing care groups for all items except for hospitalized days.
There were significantly less hospitalized days in the Continuous primary nursing care group with seven days or less than in the task-centered nursing care group with more than seven days.
Table 2 presents the mean scores and standard deviations of 30 questions about satisfaction with nursing care on the HPWS questionnaire for participants in Continuous primary nursing care and task-centered nursing care groups.
As can be seen in Table 2, the satisfaction scores for all 30 questions in the Continuous primary nursing care group were higher than those in the task-centered nursing care group.
Statistical analysis using independent t-tests indicated that participants in the Continuous primary nursing care group reported significantly higher satisfaction scores for nursing care than those in the task-centered nursing care group for all questions except for questions 4, 20, and 21.
The 30 questions on satisfaction with nursing care on the hospitalized pregnant women satisfaction questionnaire were further divided into five subgroups of questions based on the nature of the questions.
Questions 1–4 formed the subgroup Environment and Facilities, 5–9 formed the subgroup Attitude and Communication, 10–13 formed the subgroup Ward Administration, 14–18 formed the subgroup Practice Skills and Ability, and 19–30 formed the subgroup Health Education/Guidance.

Table 3 presents the mean scores and standard deviations of the five subgroups of questions and overall satisfaction by participants with nursing care for Continuous primary nursing care and task-centered nursing care groups.
Statistical analysis indicated that the mean satisfaction scores of hospitalized pregnant women were significantly higher in the Continuous primary nursing care group than those in the task-centered nursing care group for all subgroups: Environment and Facility (t(468) = 4.578, p < .001), Attitude and Communication (t(468) = 5.671, p < .001), Ward Administration (t(468) = 6.006, p < .001),
Practice Skills and Ability (t(468) = 6.08, p < .001), and Health Education/Guidance (t(468) = 5.222, p < .001).
The overall satisfaction scores were also significantly higher in the Continuous primary nursing care group than those in the TCNC group (t(468) = 5.936, p < .001).
Table 4 presents the mean scores and standard deviations of 17 questions on the BFK questionnaire for participants in Continuous primary nursing care and task-centered nursing care groups.
As can be seen in Table 4, the mean scores of the 17 questions in the Continuous primary nursing care group were all higher than those in the task-centered nursing care group.
Statistical analysis indicated that participants in the Continuous primary nursing care group showed significantly higher scores for each

Table 5 presents the occurrence of participants’ early postpartum health problems in Continuous primary nursing care and task-centered nursing care groups.
As can be seen in Table 5, the breastfeeding rate for new mothers in the Continuous primary nursing care group was significantly higher than that in the task-centered nursing care group during hospitalization (Fisher exact test was used, p < .001) and six weeks after deliver (χ2 (1) = 39.237, p < .001).
The scores for breastfeeding knowledge for new mothers in the Continuous primary nursing care group were significantly higher than those
in the task-centered nursing care group (t(468) = 5.633, p < .001).
The postpartum urinary retention rate of new mothers in the Continuous primary nursing care group was significantly lower than that in the task-centered nursing care group (Fisher exact test was used, p < .002). Furthermore, the percentage of participants who did not develop postpartum breast discomfort was 81.30% in the Continuous primary nursing care group and 59.17% in the task-centered nursing care group.
The statistical analysis showed that the percentage of participants who did not develop postpartum breast discomfort in
the Continuous primary nursing care group was significantly higher than that in the task-centered nursing care group (χ2(3) = 34.482, p < .001). Post hocpower analysis indicated that the sample sizes were sufficiently large enough to show significant differences between the Continuous primary nursing care and task-centered nursing care groups breastfeeding rate (power = .98), breastfeeding knowledge (power = .90), urinary retention rate (power = .93), breast discomfort (power = .80), and patients’ satisfaction (power = .89).

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ผล
ตารางที่ 1 อธิบายข้อมูลทางด้านประชากรศาสตร์ของผู้เข้าร่วม ที่สามารถเห็นได้ในตารางที่ 1 ไม่มีความแตกต่างอย่างมีนัยสำคัญถูกพบระหว่างการดูแลรักษาพยาบาลอย่างต่อเนื่องหลักและงานที่เป็นศูนย์กลางของกลุ่มการพยาบาลสำหรับทุกรายการยกเว้นวันในโรงพยาบาล.
มีนัยสำคัญน้อยวันที่โรงพยาบาลในกลุ่มการพยาบาลหลักอย่างต่อเนื่องกับเจ็ดวันหรือ น้อยกว่าในกลุ่มงานการพยาบาลเป็นศูนย์กลางการดูแลที่มีมากกว่าเจ็ดวัน.
ตารางที่ 2 แสดงค่าเฉลี่ยและค่าเบี่ยงเบนมาตรฐานของ 30 คำถามเกี่ยวกับความพึงพอใจกับการดูแลรักษาพยาบาลในแบบสอบถาม HPWS สำหรับผู้เข้าร่วมในการดูแลรักษาพยาบาลอย่างต่อเนื่องหลักและการดูแลรักษาพยาบาลงานที่เป็นศูนย์กลาง กลุ่ม.
ที่สามารถเห็นได้ในตารางที่ 2 คะแนนความพึงพอใจสำหรับทุกคำถาม 30 ข้อในกลุ่มการพยาบาลหลักอย่างต่อเนื่องสูงกว่าผู้ที่อยู่ในกลุ่มงานการพยาบาลเป็นศูนย์กลาง.
การวิเคราะห์ทางสถิติโดยใช้การทดสอบเสื้ออิสระแสดงให้เห็นว่าผู้เข้าร่วมในอย่างต่อเนื่อง กลุ่มการพยาบาลหลักรายงานคะแนนความพึงพอใจอย่างมีนัยสำคัญที่สูงขึ้นสำหรับการดูแลรักษาพยาบาลกว่าผู้ที่อยู่ในกลุ่มงานการพยาบาลเป็นศูนย์กลางสำหรับคำถามทุกข้อยกเว้นสำหรับคำถามที่ 4, 20, 21 และ
30 คำถามเกี่ยวกับความพึงพอใจกับการดูแลรักษาพยาบาลในหญิงตั้งครรภ์ในโรงพยาบาลแบบสอบถามความพึงพอใจ ถูกแบ่งออกเป็นห้ากลุ่มย่อยของคำถามที่ขึ้นอยู่กับลักษณะของคำถาม.
คำถามที่เกิดขึ้น 1-4 กลุ่มย่อยสิ่งแวดล้อมและสิ่งอำนวยความสะดวกที่เกิดขึ้น 5-9 ทัศนคติกลุ่มย่อยและการสื่อสารที่เกิดขึ้นวันที่ 10-13 กลุ่มย่อยวอร์ดบริหารที่เกิดขึ้นวันที่ 14-18 กลุ่มย่อยทักษะความสามารถในการปฏิบัติและการและ 19-30 ที่เกิดขึ้นกลุ่มย่อยสุขภาพการศึกษา / การแนะแนว. ตารางที่ 3 แสดงค่าเฉลี่ยและค่าเบี่ยงเบนมาตรฐานของห้ากลุ่มย่อยของคำถามและความพึงพอใจโดยรวมโดยผู้เข้าร่วมกับการดูแลรักษาพยาบาลสำหรับการดูแลพยาบาลหลักอย่างต่อเนื่องและ task- . เป็นศูนย์กลางของกลุ่มการพยาบาลการวิเคราะห์ทางสถิติชี้ให้เห็นว่าคะแนนความพึงพอใจเฉลี่ยของหญิงตั้งครรภ์ในโรงพยาบาลอย่างมีนัยสำคัญที่สูงขึ้นในกลุ่มการพยาบาลหลักอย่างต่อเนื่องกว่าผู้ที่อยู่ในงานพยาบาลเป็นศูนย์กลางการดูแลกลุ่มสำหรับกลุ่มย่อยทั้งหมด: สภาพแวดล้อมและสิ่งอำนวยความสะดวก (t (468) = 4.578, p <0.001) ทัศนคติและการสื่อสาร (t (468) = 5.671, p <0.001) การบริหารวอร์ด (t (468) = 6.006, p <0.001) ทักษะการปฏิบัติและความสามารถ (t (468) = 6.08, p <0.001) และสุขภาพการศึกษา / การแนะแนว (t (468) = 5.222, p <0.001). คะแนนความพึงพอใจโดยรวมได้อย่างมีนัยสำคัญที่สูงขึ้นในกลุ่มการพยาบาลหลักอย่างต่อเนื่องกว่าผู้ที่อยู่ในกลุ่ม TCNC ( ตัน (468) = 5.936, p <0.001). ตารางที่ 4 แสดงค่าเฉลี่ยและค่าเบี่ยงเบนมาตรฐานของ 17 คำถามเกี่ยวกับแบบสอบถาม BFK สำหรับผู้เข้าร่วมในการดูแลรักษาพยาบาลอย่างต่อเนื่องหลักและงานที่เป็นศูนย์กลางของกลุ่มการพยาบาล. ที่สามารถเห็นได้ในตาราง 4 คะแนนเฉลี่ยของ 17 คำถามในกลุ่มการพยาบาลหลักอย่างต่อเนื่องทุกคนที่สูงกว่าผู้ที่อยู่ในกลุ่มงานการพยาบาลเป็นศูนย์กลาง. การวิเคราะห์ทางสถิติชี้ให้เห็นว่าผู้เข้าร่วมในกลุ่มการพยาบาลหลักอย่างต่อเนื่องมีคะแนนที่สูงขึ้นอย่างมีนัยสำคัญสำหรับแต่ละตารางที่ 5 นำเสนอการเกิดขึ้นของผู้เข้าร่วม 'ปัญหาสุขภาพหลังคลอดในช่วงต้นของการดูแลรักษาพยาบาลอย่างต่อเนื่องหลักและงานที่เป็นศูนย์กลางของกลุ่มการพยาบาล. ที่สามารถเห็นได้ในตารางที่ 5 อัตราการเลี้ยงลูกด้วยนมสำหรับคุณแม่ใหม่ในกลุ่มการพยาบาลหลักอย่างต่อเนื่องอย่างมีนัยสำคัญสูงกว่า กลุ่มงานการพยาบาลเป็นศูนย์กลางในระหว่างการรักษาในโรงพยาบาล (ทดสอบฟิชเชอร์ที่แน่นอนถูกนำมาใช้, p <0.001) และหกสัปดาห์หลังจากการส่งมอบ (χ2 (1) = 39.237, p <0.001). คะแนนสำหรับความรู้สำหรับคุณแม่ที่เลี้ยงลูกด้วยนมใหม่ใน กลุ่มการพยาบาลหลักอย่างต่อเนื่องอย่างมีนัยสำคัญสูงกว่าในงานที่เป็นศูนย์กลางของกลุ่มการพยาบาล (t (468) = 5.633, p <0.001). อัตราการเก็บปัสสาวะหลังคลอดของมารดาใหม่ในกลุ่มการพยาบาลหลักอย่างต่อเนื่องอย่างมีนัยสำคัญลดลง กว่ากลุ่มงานการพยาบาลเป็นศูนย์กลาง (ทดสอบฟิชเชอร์ที่แน่นอนถูกนำมาใช้, p <0.002) นอกจากนี้ร้อยละของผู้เข้าร่วมที่ไม่ได้พัฒนาความรู้สึกไม่สบายเต้านมหลังคลอดเป็น 81.30% ในกลุ่มการพยาบาลหลักอย่างต่อเนื่องและ 59.17% ในกลุ่มงานการพยาบาลเป็นศูนย์กลาง. การวิเคราะห์ทางสถิติพบว่าร้อยละของผู้เข้าร่วมที่ไม่ได้พัฒนาเต้านมหลังคลอด ความรู้สึกไม่สบายในการดูแลรักษาพยาบาลกลุ่มหลักอย่างต่อเนื่องอย่างมีนัยสำคัญสูงกว่าในการพยาบาลงานที่เป็นศูนย์กลางการดูแลกลุ่ม (χ2 (3) = 34.482, p <0.001) โพสต์ hocpower วิเคราะห์ชี้ให้เห็นว่าขนาดตัวอย่างมีขนาดใหญ่พอสมควรพอที่จะแสดงความแตกต่างที่สำคัญระหว่างการดูแลรักษาพยาบาลอย่างต่อเนื่องหลักและงานที่เป็นศูนย์กลางของกลุ่มการพยาบาลอัตราการเลี้ยงลูกด้วยนม (อำนาจ = 0.98) ความรู้ที่เลี้ยงลูกด้วยนม (อำนาจ = 0.90) อัตราการเก็บปัสสาวะ (อำนาจ = 0.93) ความรู้สึกไม่สบายเต้านม (อำนาจ = 0.80) และความพึงพอใจของผู้ป่วย (อำนาจ = 0.89)

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

All schools must be broken tuition to study
we use ten appraisal in the classroom.All schools must be broken tuition to study
we use ten appraisal in the classroom.All schools must be broken tuition to study
we use ten appraisal in the classroom.All schools must be broken tuition to study
we use ten appraisal in the classroom.All schools must be broken tuition to study
we use ten appraisal in the classroom.All schools must be broken tuition to study
we use ten appraisal in the classroom.All schools must be broken tuition to study
we use ten appraisal in the classroom.All schools must be broken tuition to study
we use ten appraisal in the classroom.All schools must be broken tuition to study
we use ten appraisal in the classroom.All schools must be broken tuition to study
we use ten appraisal in the classroom.All schools must be broken tuition to study
we use ten appraisal in the classroom.All schools must be broken tuition to study
we use ten appraisal in the classroom.All schools must be broken tuition to study
we use ten appraisal in the classroom.All schools must be broken tuition to study
we use ten appraisal in the classroom.All schools must be broken tuition to study
we use ten appraisal in the classroom.All schools must be broken tuition to study
we use ten appraisal in the classroom.