Did you know that tomatoes do not h

Did you know that tomatoes do not have to be a deep red color to be an outstanding source of lycopene? Lycopene is a carotenoid pigment that has long been associated with the deep red color of many tomatoes. A small preliminary study on healthy men and women has shown that the lycopene from orange- and tangerine-colored tomatoes may actually be better absorbed than the lycopene from red tomatoes. That's because the lycopene in deep red tomatoes is mostly trans-lycopene, and the lycopene in orange/tangerine tomatoes is mostly tetra-cis-lycopene. In a recent study, this tetra-cis form of lycopene turned out to be more efficiently absorbed by the study participants. While more research is needed in this area, we're encouraged to find that tomatoes may not have to be deep red in order for us to get great lycopene-related benefits.
Tomatoes are widely known for their outstanding antioxidant content, including, of course, their oftentimes-rich concentration of lycopene. Researchers have recently found an important connection between lycopene, its antioxidant properties, and bone health. A study was designed in which tomato and other dietary sources of lycopene were removed from the diets of postmenopausal women for a period of 4 weeks, to see what effect lycopene restriction would have on bone health. At the end of 4 weeks, women in the study started to show increased signs of oxidative stress in their bones and unwanted changes in their bone tissue. The study investigators concluded that removal of lycopene-containing foods (including tomatoes) from the diet was likely to put women at increased risk of osteoporosis. They also argued for the importance of tomatoes and other lycopene-containing foods in the diet. We don't always think about antioxidant protection as being important for bone health, but it is, and tomato lycopene (and other tomato antioxidants) may have a special role to play in this area.
There are literally hundreds of different tomato varieties. We usually choose our favorite varieties by some combination of flavor, texture, and appearance. But a recent study has shown that we may also want to include antioxidant capacity as a factor when we are choosing among tomato varieties. Surprisingly, researchers who compared conventionally grown versus organically grown tomatoes found that growing method (conventional versus organic) made less of an overall difference than variety of tomato. While all tomatoes showed good antioxidant capacity, and while the differences were not huge, the following four varieties of tomatoes turned out to have a higher average antioxidant capacity regardless of whether they were grown conventionally or organically: New Girl, Jet Star, Fantastic, and First Lady. It's only one study, of course, and we're definitely not ready to recommend these four varieties at the exclusion of all others. But these findings are fascinating to us, and they suggest that specific types of nutrient benefits may be provided by specific varieties of tomatoes. Also, if you're seeking good antioxidant protection and you're in the grocery standing in front of a New Girl, Jet Star, Fantastic, or First Lady tomato, you would probably be well-served to place it in your shopping cart.
Intake of tomatoes has long been linked to heart health. Fresh tomatoes and tomato extracts have been shown to help lower total cholesterol, LDL cholesterol, and triglycerides. In addition, tomato extracts have been shown to help prevent unwanted clumping together (aggregation) of platelet cells in the blood - a factor that is especially important in lowering risk of heart problems like atherosclerosis. (In a recent South American study of 26 vegetables, tomatoes and green beans came out best in their anti-aggregation properties.) But only recently are researchers beginning to identify some of the more unusual phytonutrients in tomatoes that help provide us with these heart-protective benefits. One of these phytonutrients is a glycoside called esculeoside A; another is flavonoid called chalconaringenin; and yet another is a fatty-acid type molecule called 9-oxo-octadecadienoic acid. As our knowledge of unique tomato phytonutrients expands, we are likely to learn more about the unique role played by tomatoes in support of heart health. Tomatoes are also likely to rise further and further toward the top of the list as heart healthy foods.

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

คุณรู้ไหมว่ามะเขือเทศไม่จำเป็นต้องเป็นสีแดงเข้มที่จะเป็นแหล่งที่โดดเด่นของไลโคปีน? ไลโคปีนเป็นเม็ดสี carotenoid ที่ได้รับการเชื่อมโยงกับสีแดงเข้มของมะเขือเทศจำนวนมาก การศึกษาเบื้องต้นเล็ก ๆ ในสุขภาพของผู้ชายและผู้หญิงได้แสดงให้เห็นว่าไลโคปีนจากมะเขือเทศสีส้มและสีส้มอาจดูดซึมได้ดีกว่าที่เป็นจริงที่ไลโคปีนจากมะเขือเทศสีแดง นั่นเป็นเพราะไลโคปีนในมะเขือเทศสีแดงเข้มเป็นส่วนใหญ่ทรานส์ไลโคปีนและไลโคปีนในส้ม / มะเขือเทศส้มเขียวหวานเป็นส่วนใหญ่ Tetra-CIS-ไลโคปีน ในการศึกษาล่าสุดในรูปแบบ Tetra-CIS ของไลโคปีนเปิดออกมาจะถูกดูดซึมได้อย่างมีประสิทธิภาพโดยผู้เข้าร่วมการศึกษา ขณะที่การวิจัยเพิ่มเติมเป็นสิ่งจำเป็นในพื้นที่นี้เราได้รับการสนับสนุนที่จะพบว่ามะเขือเทศอาจไม่จำเป็นต้องเป็นสีแดงเข้มในการสั่งซื้อสำหรับเราที่จะได้รับผลประโยชน์ที่เกี่ยวข้องกับไลโคปีนที่ดี.
มะเขือเทศเป็นที่รู้จักกันอย่างกว้างขวางสำหรับเนื้อหาสารต้านอนุมูลอิสระของพวกเขาที่โดดเด่น ได้แก่ แน่นอน ความเข้มข้นที่อุดมไปด้วยอาจเกิดของพวกเขาจากไลโคปีน นักวิจัยได้ค้นพบเมื่อเร็ว ๆ นี้การเชื่อมต่อที่สำคัญระหว่างไลโคปีนคุณสมบัติต้านอนุมูลอิสระและสุขภาพของกระดูก การศึกษาได้รับการออกแบบที่มะเขือเทศและแหล่งอาหารอื่น ๆ ของไลโคปีนที่ถูกถอดออกจากอาหารของสตรีวัยหมดประจำเดือนเป็นระยะเวลา 4 สัปดาห์เพื่อดูว่าข้อ จำกัด ผลกระทบไลโคปีนจะมีต่อสุขภาพของกระดูก ในตอนท้ายของ 4 สัปดาห์ผู้หญิงในการศึกษาที่เริ่มแสดงสัญญาณที่เพิ่มขึ้นของภาวะ oxidative stress ในกระดูกของพวกเขาและการเปลี่ยนแปลงที่ไม่พึงประสงค์ในเนื้อเยื่อกระดูกของพวกเขา การศึกษานักวิจัยสรุปว่าการกำจัดของอาหารที่มีไลโคปีน (รวมถึงมะเขือเทศ) จากอาหารมีแนวโน้มที่จะทำให้ผู้หญิงที่มีความเสี่ยงที่เพิ่มขึ้นของโรคกระดูกพรุน พวกเขายังเป็นที่ถกเถียงกันสำหรับความสำคัญของมะเขือเทศไลโคปีนและอาหารอื่น ๆ ที่มีอยู่ในอาหาร เราไม่เคยคิดเกี่ยวกับการป้องกันสารต้านอนุมูลอิสระเป็นสิ่งสำคัญสำหรับสุขภาพของกระดูก แต่มันเป็นและไลโคปีนมะเขือเทศ (และสารต้านอนุมูลอิสระมะเขือเทศอื่น ๆ ) อาจมีบทบาทพิเศษในการเล่นในพื้นที่นี้.
มีนับหลายร้อยพันธุ์มะเขือเทศที่แตกต่างกัน เรามักจะเลือกพันธุ์ที่เราชื่นชอบด้วยการผสมผสานรสชาติเนื้อสัมผัสและลักษณะ แต่การศึกษาที่ผ่านมาได้แสดงให้เห็นว่าเรายังอาจต้องการที่จะรวมถึงสารต้านอนุมูลอิสระเป็นปัจจัยเมื่อเรามีการเลือกในหมู่พันธุ์มะเขือเทศ น่าแปลกที่เมื่อเทียบกับนักวิจัยที่ปลูกตามอัตภาพเมื่อเทียบกับมะเขือเทศที่ปลูกอินทรีย์พบว่าการเจริญเติบโต (เดิมเมื่อเทียบกับอินทรีย์) ทำน้อยกว่าความแตกต่างโดยรวมความหลากหลายของมะเขือเทศ ในขณะที่มะเขือเทศทั้งหมดแสดงให้เห็นว่าสารต้านอนุมูลอิสระที่ดีและในขณะที่ความแตกต่างที่ไม่ได้ขนาดใหญ่ต่อไปนี้สี่พันธุ์ของมะเขือเทศเปิดออกมาจะมีสารต้านอนุมูลอิสระสูงกว่าค่าเฉลี่ยโดยไม่คำนึงถึงว่าพวกเขาได้รับการปลูกตามอัตภาพหรืออินทรีย์: สาวใหม่, เจ็ทสตาร์ยอดเยี่ยมและ สุภาพสตรีหมายเลขหนึ่ง มันเป็นเพียงการศึกษาหนึ่งของหลักสูตรและเราแน่นอนไม่พร้อมที่จะให้คำแนะนำเหล่านี้สี่สายพันธุ์ที่ยกเว้นของคนอื่น ๆ ทั้งหมด แต่การค้นพบเหล่านี้เป็นที่น่าสนใจให้เราและพวกเขาแสดงให้เห็นว่าการระบุชนิดของผลประโยชน์ของสารอาหารที่อาจจะให้บริการโดยสายพันธุ์ที่เฉพาะเจาะจงของมะเขือเทศ นอกจากนี้ถ้าคุณกำลังมองหาการป้องกันสารต้านอนุมูลอิสระที่ดีและคุณอยู่ในร้านขายของชำยืนอยู่ด้านหน้าของสาวใหม่, เจ็ทสตาร์, Fantastic หรือมะเขือเทศสุภาพสตรีหมายเลขหนึ่งคุณอาจจะได้รับการบริการที่ดีที่จะวางไว้ในรถเข็นของคุณ
การหดตัวของมะเขือเทศได้รับการเชื่อมโยงกับสุขภาพของหัวใจ มะเขือเทศสดและสารสกัดจากมะเขือเทศได้รับการแสดงที่จะช่วยให้คอเลสเตอรอลรวมลดลงคอเลสเตอรอลและไตรกลีเซอไรด์ นอกจากนี้สารสกัดจากมะเขือเทศได้รับการแสดงเพื่อช่วยป้องกันการจับตัวเป็นก้อนที่ไม่พึงประสงค์ร่วมกัน (การรวม) ของเซลล์เกล็ดเลือดในเลือด - ปัจจัยที่มีความสำคัญโดยเฉพาะอย่างยิ่งในการลดความเสี่ยงของโรคหัวใจเช่นหลอดเลือด (ในการศึกษาเมื่อเร็ว ๆ นี้ในอเมริกาใต้ที่ 26 ผักมะเขือเทศและถั่วเขียวออกมาดีที่สุดในคุณสมบัติป้องกันการรวมตัวของพวกเขา.) แต่เมื่อเร็ว ๆ นี้เป็นจุดเริ่มต้นของนักวิจัยที่จะระบุบางส่วนของสารอาหารผิดปกติมากขึ้นในมะเขือเทศที่ช่วยให้เรามีหัวใจ, ทำจเหล่านี้ ป้องกันผลประโยชน์ หนึ่งในสารอาหารเหล่านี้เป็นสิ่งที่เรียกว่า glycoside esculeoside; อื่นเรียกว่า flavonoid chalconaringenin; และอีกหนึ่งเป็นโมเลกุลชนิดกรดไขมันที่เรียกว่ากรด 9-Oxo-octadecadienoic ในฐานะที่เป็นความรู้ของเรา phytonutrients มะเขือเทศที่ไม่ซ้ำกันการขยายตัวที่เรามีแนวโน้มที่จะเรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับบทบาทที่ไม่ซ้ำกันเล่นโดยมะเขือเทศในการสนับสนุนสุขภาพหัวใจ มะเขือเทศยังมีแนวโน้มที่จะเพิ่มขึ้นต่อไปและต่อไปทางด้านบนของรายการเป็นอาหารที่ดีต่อสุขภาพหัวใจ

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

คุณรู้หรือไม่ว่ามะเขือเทศไม่ต้องเป็นสีแดงลึก เป็นแหล่งที่โดดเด่นของไลโคปีน ? ไลโคปีนเป็นรงควัตถุคาโรทีนอยด์ที่ได้รับการเชื่อมโยงกับสีแดงลึกของมะเขือเทศมาก การศึกษาขนาดเล็กในผู้ชายที่มีสุขภาพดี และหญิงพบว่าไลโคปีนจากมะเขือเทศและส้ม - ส้มสีจริงอาจจะดีกว่าดูดซึมไลโคปีนจากมะเขือเทศมากกว่าสีแดงนั่นเป็นเพราะไลโคปีนในมะเขือเทศสีแดงลึกเป็นส่วนใหญ่ ทรานส์ไลโคพีน และไลโคปีนในมะเขือเทศ ส้ม ส้มเขียวหวานส่วนใหญ่ Tetra CIS ไลโคปีน . ในการศึกษาล่าสุดนี้สี่ CIS รูปแบบของไลโคปีนกลายเป็นมีประสิทธิภาพมากขึ้นถูกดูดซึมโดยผู้เข้าร่วมการศึกษา ในขณะที่การวิจัยมากขึ้นเป็นสิ่งจำเป็นในพื้นที่นี้เราควรจะพบว่า มะเขือเทศ อาจจะไม่ต้องเป็นสีแดงลึกเพื่อให้ ดีไลโคปีนที่เกี่ยวข้องผลประโยชน์
มะเขือเทศเป็นรู้จักกันอย่างกว้างขวางสำหรับเนื้อหาสารต้านอนุมูลอิสระของพวกเขาที่โดดเด่นรวมทั้งของหลักสูตรของพวกเขา บ่อยครั้งที่อุดมไปด้วยความเข้มข้นของไลโคปีน . นักวิจัยได้พบเมื่อเร็ว ๆ นี้เชื่อมต่อที่สำคัญระหว่างไลโคปีน เป็นสารต้านอนุมูลอิสระ คุณสมบัติ และสุขภาพกระดูกการศึกษาออกแบบ ซึ่งในมะเขือเทศ และแหล่งอาหารของไลโคปีนถูกลบออกจากอาหารของหญิงวัยทอง เป็นเวลา 4 สัปดาห์ พบว่าผลจำกัดไลโคปีนที่จะมีต่อสุขภาพกระดูก ในตอนท้ายของ 4 สัปดาห์ ผู้หญิงในการศึกษาเริ่มแสดงสัญญาณที่เพิ่มขึ้นของความเครียดออกซิเดชันในกระดูกและการเปลี่ยนแปลงที่ไม่พึงประสงค์ในเนื้อเยื่อของกระดูกของตน