Qays Ibn al-Mulawwah fell in love w

Qays Ibn al-Mulawwah fell in love with Layla. He soon began composing poems about his love for her, mentioning her name often. His unselfconscious efforts to woo the girl caused some locals to call him "Majnun" (madman). When he asked for her hand in marriage, her father refused because it would be a scandal for Layla to marry someone considered mentally unbalanced. Soon after, Layla was married to another noble and rich merchant belonging to the Thaqif tribe in Ta'if. He was described as a handsome man with reddish complexion whose name was Ward Althaqafi. The Arabs called him Ward, meaning "rose" in Arabic.

When Majnun heard of her marriage, he fled the tribal camp and began wandering the surrounding desert. His family eventually gave up hope for his return and left food for him in the wilderness. He could sometimes be seen reciting poetry to himself or writing in the sand with a stick.

Layla is generally depicted as having moved to a place in Northern Arabia with her husband, where she became ill and eventually died. In some versions, Layla dies of heartbreak from not being able to see her would-be lover. Majnun was later found dead in the wilderness in 688 AD, near Layla’s grave. He had carved three verses of poetry on a rock near the grave, which are the last three verses attributed to him.


Layla visits Majnun in the wilderness; Indian watercolour held by the Bodleian Library
Many other minor incidents happened between his madness and his death. Most of his recorded poetry was composed before his descent into madness.

“ I pass by these walls, the walls of Layla
And I kiss this wall and that wall
It’s not Love of the walls that has enraptured my heart
But of the One who dwells within them ”
It is a tragic story of undying love much like the later Romeo and Juliet. This type of love is known as "virgin love" because the lovers never marry or consummate their passion. Other famous virgin love stories set in Arabia are the stories of Qays and Lubna, Kuthair and Azza, Marwa and Al Majnoun Al Faransi, Antara and Abla, and Irfan and Zoobi. This literary motif is common throughout the world, notably in the Muslim literature of South Asia, such as Urdu ghazals.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

Qays บินอัล-Mulawwah ตกหลุมรักกับไลลา เขาเร็ว ๆ นี้เริ่มเขียนบทกวีเกี่ยวกับความรักของเขาสำหรับเธอ กล่าวถึงชื่อของเธอมักจะ พยายาม unselfconscious วูสาวเกิดบางคนจะเรียกเขา "Majnun" (คนบ้า) เมื่อเขาขอมือของเธอในการแต่งงาน พ่อของเธอปฏิเสธเนื่องจากมันจะมีเรื่องอื้อฉาวสำหรับเลย์ลาแต่งงานกับคนถือว่าไม่สมดุลทางจิตใจ หลังจาก เลย์ลาได้แต่งงานกับอีกชั้นสูง และอุดมไปด้วยร้านค้าเป็นของชนเผ่า Thaqif ในอัลจูเบล เขาได้อธิบายว่า คนที่หล่อมีผิวสีแดงที่มีชื่อเป็น Ward Althaqafi เรียกว่าเขาโต ความหมาย "ดอกกุหลาบ" ในภาษาอาหรับเมื่อ Majnun ได้ยินของการแต่งงานของเธอ เขาหนีค่ายชนเผ่า และเริ่มหลงทะเลทรายโดยรอบ ครอบครัวของเขาในที่สุดก็แพ้ความหวังสำหรับอาหารของเขาคืนมา และซ้ายสำหรับเขาในถิ่นทุรกันดาร เขาอาจบางครั้งจะเห็นอ่านบทกวีเพื่อตัวเอง หรือเขียนในทรายด้วยไม้ไลลา depicted มักจะเป็นย้ายไปยังตำแหน่งในซาอุดิอาระเบียเหนือพร้อมกับสามี ที่เธอกลายเป็นไม่ดี และในที่สุดก็เสียชีวิต ในบางรุ่น เลย์ลาตายของปวดใจจากการจะดูคนรักของเธอเป็น Majnun พบในภายหลังตายในถิ่นทุรกันดารในโฆษณา 688 ใกล้หลุมฝังศพของไลลา เขามีสลักบทกวีบนหินใกล้กับหลุมฝังศพ สามข้อซึ่งเป็นข้อสามประกอบกับเขาเข้าชมไลลา Majnun ในถิ่นทุรกันดาร จัด โดยห้องสมุด Bodleian อินเดียสีน้ำหลายเหตุการณ์อื่น ๆ เล็กน้อยที่เกิดขึ้นระหว่างความบ้าของเขาและความตายของเขา ส่วนใหญ่ของบทกวีของเขาบันทึกไว้ประกอบด้วยก่อนเชื้อสายของเขาเป็นบ้า"ผมผ่านผนังเหล่านี้ ผนังของไลลาและจูบที่ผนังและกำแพงนี้มันไม่ใช่ความรักของผนังที่มีแล้วหัวใจของฉันแต่ของหนึ่ง ที่สถิตอยู่ภายในพวกเขา"มันเป็นเรื่องน่าเศร้าของรักอมตะเหมือนโรมิโอและจูเลียตใหม่กว่า ความรักชนิดนี้เป็นที่รู้จักกันเป็น "รักบริสุทธิ์" เพราะคู่รักไม่เคยแต่งงาน หรือความหลงใหลในความร เลือดที่มีชื่อเสียงอื่น ๆ รักเรื่องราวในอาระเบียเป็นเรื่องราวของ Qays และ Lubna, Kuthair และ Azza มาร์วาเรย์ และ Al Majnoun Al Faransi แอนทารา และ Abla และต่าง ๆ และ Zoobi ลายนี้วรรณกรรมทั่วโลก โดยเฉพาะในวรรณคดีมุสลิมจากเอเชียใต้ เช่นอูรดูยาวนานได้

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

Qays Ibn al-Mulawwah ตกหลุมรักกับไลลา ไม่ช้าเขาก็เริ่มเขียนบทกวีเกี่ยวกับความรักที่เขามีต่อเธอเอ่ยถึงชื่อของเธอมักจะ ความพยายามของเขาที่จะ unselfconscious จีบสาวที่เกิดจากชาวบ้านบางคนจะเรียกเขาว่า "Majnun" (บ้า) เมื่อเขาขอเธอแต่งงานพ่อของเธอปฏิเสธเพราะมันจะเป็นเรื่องอื้อฉาวสำหรับไลลาแต่งงานกับคนที่ถือว่าเป็นสภาพจิตใจ ไม่นานหลังจากนั้นไลลาแต่งงานกับอีกผู้ประกอบการค้าที่มีเกียรติและอุดมไปด้วยเป็นของชนเผ่า Thaqif ในตาถ้า เขาได้รับการอธิบายว่าเป็นชายหนุ่มรูปหล่อที่มีผิวสีแดงที่มีชื่อเป็นวอร์ด Althaqafi ชาวอาหรับเรียกเขาว่าวอร์ด, ความหมาย "เพิ่มขึ้น" ในภาษาอาหรับ.

เมื่อ Majnun ได้ยินการแต่งงานของเธอเขาหนีออกจากค่ายของชนเผ่าและเริ่มหลงทะเลทรายโดยรอบ ครอบครัวของเขาในที่สุดก็ให้ความหวังสำหรับการกลับมาของเขาและได้ใส่อาหารสำหรับเขาในถิ่นทุรกันดาร เขาอาจจะเห็นบางครั้งอาจจะท่องบทกวีให้กับตัวเองหรือเขียนในทรายด้วยไม้.

ไลลาเป็นภาพโดยทั่วไปว่ามีการย้ายไปยังสถานที่ในภาคเหนือของอารเบียกับสามีของเธอที่เธอกลายเป็นป่วยและตายในที่สุด ในบางรุ่นไลลาเสียชีวิตจากความเสียใจจากการไม่สามารถที่จะเห็นเธอจะเป็นคนรัก Majnun ต่อมาพบถูกฆ่าตายในถิ่นทุรกันดารใน 688 AD ใกล้หลุมฝังศพของไลลา เขาได้แกะสลักสามโองการของบทกวีบนก้อนหินที่อยู่ใกล้กับหลุมฝังศพซึ่งเป็นสามโองการที่ผ่านมาประกอบกับเขา.


ไลลาเข้าชม Majnun ในถิ่นทุรกันดาร สีน้ำอินเดียที่จัดขึ้นโดยห้องสมุดบ๊อด
หลายเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเล็ก ๆ น้อย ๆ อื่น ๆ ที่เกิดขึ้นระหว่างความบ้าและความตายของเขา ส่วนใหญ่ของบทกวีบันทึกของเขาถูกประกอบก่อนที่จะสืบเชื้อสายของเขาเข้าสู่ความบ้า.

"ผมผ่านผนังเหล่านี้ผนังของไลลา
และฉันจูบกำแพงและผนังที่
มันไม่ได้เป็นความรักของผนังที่ได้ทำให้ปิติยินดีหัวใจของฉัน
แต่ของผู้ที่อาศัยอยู่ภายใน พวกเขา "
มันเป็นเรื่องที่น่าเศร้าของความรักอมตะเหมือนภายหลัง Romeo and Juliet ประเภทของความรักนี้เป็นที่รู้จักกันว่า "ความรักบริสุทธิ์" เพราะคนรักไม่เคยแต่งงานหรือบรรลุรักของพวกเขา ที่มีชื่อเสียงเรื่องความรักบริสุทธิ์อื่น ๆ ที่ตั้งอยู่ในอารเบียเรื่องราวของ Qays และ Lubna, Kuthair และ Azza, Marwa และอัลอัล Majnoun Faransi, Antara และ Abla และฟานและ Zoobi นี้แม่ลายวรรณกรรมเป็นเรื่องธรรมดาไปทั่วโลกโดยเฉพาะอย่างยิ่งในวรรณกรรมของชาวมุสลิมเอเชียใต้เช่น ghazals ภาษาอูรดู

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

qays อิบนุ อัล mulawwah ตกหลุมรักเลย์ล่า ทันทีที่เขาเริ่มแต่งบทกวีเกี่ยวกับความรักของเขากับเธอ เอ่ยชื่อเธอบ่อยๆ ความพยายามของเขา unselfconscious จีบสาว ทำให้ชาวบ้านบางส่วนต้องเรียกเขาว่า " มัจญ์นูน " ( คนบ้า ) เมื่อเขาขอเธอแต่งงาน พ่อก็ปฏิเสธไป เพราะมันคงเป็นเรื่องอื้อฉาวให้เลย์ล่าจะแต่งงานกับคนที่ถือว่า จิตใจมั่นคง หลังจากที่ เลย์ล่าแต่งงานกับขุนนาง และพ่อค้าอีกเป็นของ thaqif เผ่าใน ta"if . เขาอธิบายว่า ผู้ชายหล่อๆ กับแดงๆผิวที่มีชื่อวอร์ด althaqafi . ชาวอาหรับเรียกเขา วอร์ด , ความหมาย " กุหลาบ " ในภาษาอาหรับเมื่อมัจญ์นูนได้ยินของการแต่งงานของเธอ เขาหนีออกจากค่ายและเริ่มเดินไปรอบๆชนเผ่าทะเลทราย ครอบครัวของเขาก็เลิกหวังของเขากลับและอาหารให้เขาในถิ่นทุรกันดาร เขาสามารถบางครั้งจะเห็นท่องบทกวีให้ตัวเอง หรือเขียนในทรายด้วยไม้เลย์ล่าทั่วไปปรากฎว่ามีย้ายไปยังสถานที่ในภาคเหนือของซาอุดีอาระเบียกับสามีของเธอที่เธอป่วย และตายในที่สุด ในบางรุ่น เลย์ล่า ตายเพราะอกหักจากการไม่สามารถที่จะเห็นคนรักจังเธอ มัจญ์นูนต่อมาพบศพในป่าในตอนนี้ โฆษณา ใกล้สุสานเลย์ล่า . เขามีแกะสามข้อของบทกวีบนโขดหินใกล้หลุมศพ ซึ่งอีก 3 ข้อ ประกอบกับ เขาเยี่ยมไลลามัจญ์นูนในถิ่นทุรกันดาร อินเดียสีน้ำ ซึ่งจัดขึ้นโดยโบดเลียนห้องสมุดเกิดอุบัติเหตุเล็กน้อยหลายอื่น ๆเกิดขึ้นระหว่างเขาบ้าและความตายของเขา ที่สุดของบทกวีบันทึกประกอบด้วยเชื้อสายของเขา ก่อนที่จะเข้าไปในบ้า ." ฉันผ่านกำแพง ผนังของไลลาและฉันจูบกำแพงและผนังที่ไม่ใช่ความรักของผนังที่มีังหัวใจแต่คนที่อาศัยอยู่ในพวกเขา "มันคือเรื่องราวความรักอมตะเหมือนนะโรมิโอ กับจูเลียต ความรักชนิดนี้เรียกว่า " บริสุทธิ์ ความรัก เพราะคนรัก ไม่เคยแต่งงาน หรือบรรลุตัณหาของตน อื่น ๆที่มีชื่อเสียงบริสุทธิ์รักเรื่องราวในซาอุดิอาระเบียมีเรื่องราวของ qays lubna kuthair azza และ , และ , และอัลมาร์วา อัล majnoun faransi , หมู่ และ abla และอีร์ฟาน และ zoobi . ศิลปะวรรณกรรมนี้พบได้ทั่วโลก โดยเฉพาะมุสลิมในวรรณกรรมของเอเชียใต้ เช่นภาษาอูรดู ghazals .