Colorectal cancer (CRC), also known

Colorectal cancer (CRC), also known as bowel cancer, is the development of cancer from the colon or rectum (parts of the large intestine).[1] It is due to the abnormal growth of cells that have the ability to invade or spread to other parts of the body.[2] Signs and symptoms may include blood in the stool, a change in bowel movements, weight loss, and feeling tired all the time.[3]

Most colorectal cancers are due to old age and lifestyle factors with only a small number of cases due to underlying genetic disorders.[4][5] Some risk factors include diet, obesity, smoking, and lack of physical activity.[4][5] Dietary factors that increase the risk include red and processed meat as well as alcohol.[4] Another risk factor is inflammatory bowel disease, which includes Crohn's disease and ulcerative colitis.[4] Some of the inherited genetic disorders that can cause colorectal cancer include familial adenomatous polyposis and hereditary non-polyposis colon cancer; however, these represent less than 5% of cases.[4][5] It typically starts as a benign tumor, often in the form of a polyp, which over time becomes cancerous.[4]

Bowel cancer may be diagnosed by obtaining a sample of the colon during a sigmoidoscopy or colonoscopy.[3] This is then followed by medical imaging to determine if the disease has spread.[1] Screening is effective for preventing and decreasing deaths from colorectal cancer.[6] Screening is recommended starting from the age of 50 to 75.[6] During colonoscopy, small polyps may be removed if found. If a large polyp or tumor is found, a biopsy may be performed to check if it is cancerous. Aspirin and other non-steroidal anti-inflammatory drugs decrease the risk.[4][7] Their general use is not recommended for this purpose, however, due to side effects.[8]

Treatments used for colorectal cancer may include some combination of surgery, radiation therapy, chemotherapy and targeted therapy.[1] Cancers that are confined within the wall of the colon may be curable with surgery while cancer that has spread widely are usually not curable, with management focusing on improving quality of life and symptoms.[1] Five year survival rates in the United States are around 65%.[9] This, however, depends on how advanced the cancer is, whether or not all the cancer can be removed with surgery, and the person's overall health.[3] Globally, colorectal cancer is the third most common type of cancer making up about 10% of all cases.[10] In 2012, there were 1.4 million new cases and 694,000 deaths from the disease.[10] It is more common in developed countries, where more than 65% of cases are found.[4] It is less common in women than men.[4]

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

มะเร็ง (CRC), เรียกอีกอย่างว่าโรคมะเร็งลำไส้ คือ การพัฒนามะเร็งจากลำไส้ใหญ่หรือทวารหนัก (ส่วนของลำไส้ใหญ่) [1] ได้เนื่องจากการเติบโตที่ผิดปกติของเซลล์ที่มีความสามารถในการรุกราน หรือแพร่กระจายไปส่วนอื่น ๆ ของร่างกาย [2] อาการและอาการแสดงอาจมีเลือดในอุจจาระ การเปลี่ยนแปลงในการเคลื่อนไหวของลำไส้ ลดน้ำหนัก และรู้สึกเหนื่อยตลอดเวลา [3]มะเร็งลำไส้ใหญ่ที่สุดเป็น เพราะอายุและไลฟ์สไตล์ปัจจัย มีเพียงจำนวนน้อยของผู้ป่วยเนื่องจากโรคทางพันธุกรรมที่อยู่ภายใต้ [4] [5] ปัจจัยเสี่ยงได้แก่อาหาร โรคอ้วน การสูบบุหรี่ และขาดกิจกรรมทางกายภาพ [4] [5] อาหารปัจจัยที่เพิ่มความเสี่ยงได้แก่เนื้อสัตว์สีแดง และแปรรูปเป็นแอลกอฮอล์ [4] ปัจจัยเสี่ยงคือ โรคลำไส้อักเสบ ลำไส้ใหญ่และโรค Crohn ของ [4] บางในความผิดปกติทางพันธุกรรมที่สืบทอดมาที่สามารถทำให้เกิดมะเร็งได้แก่ภาวะ adenomatous polyposis และมะเร็งลำไส้ใหญ่ไม่ใช่ polyposis ทางพันธุกรรม อย่างไรก็ตาม เหล่านี้เป็นตัวแทนน้อยกว่า 5% ของผู้ป่วย [4] [5]โดยทั่วไปเริ่มต้นเป็นงอก มักจะอยู่ในรูปของโปลิปทำ ซึ่งเวลากลายเป็นมะเร็ง [4]โรคมะเร็งลำไส้อาจจะวินิจฉัย โดยการขอรับตัวอย่างของลำไส้ใหญ่ระหว่าง sigmoidoscopy หรือ colonoscopy [3]แล้วตาม ด้วยการสร้างภาพทางการแพทย์เพื่อตรวจสอบถ้ามีแพร่กระจายโรค [1] การตรวจมีประสิทธิภาพป้องกัน และลดการเสียชีวิตจากโรคมะเร็งลำไส้ใหญ่ [6] การตรวจแนะนำเริ่มต้นที่อายุ 50-75 [6] ระหว่าง colonoscopy ติ่งเล็กอาจถูกเอาออกถ้าพบ หากพบโปลิปปากใหญ่หรือเนื้องอก การตรวจชิ้นเนื้ออาจจะดำเนินการตรวจสอบว่าเป็นมะเร็ง ยาแอสไพรินและยาต้านการอักเสบอื่น ๆ ไม่ steroidal ลดความเสี่ยง [4] [7] การใช้งานทั่วไปไม่แนะนำสำหรับวัตถุประสงค์นี้ อย่างไรก็ตาม เนื่องจากผลข้างเคียง [8]ใช้สำหรับมะเร็งการรักษาอาจรวมถึงการรวมกันของการผ่าตัด รังสีรักษา เคมีบำบัด และเป้าหมาย [1] โรคมะเร็งที่ถูกคุมขังภายในผนังของลำไส้ใหญ่อาจรักษาได้ ด้วยการผ่าตัดในขณะที่มะเร็งที่ลุกลามแพร่หลายมักไม่รักษาได้ มีการจัดการที่เน้นการพัฒนาคุณภาพชีวิตและอาการ [1] ห้าปีอัตราการอยู่รอดในสหรัฐอยู่ประมาณ 65% [9] นี้ แต่ ขึ้นอยู่กับวิธีที่ขั้นสูงมะเร็งคือ หรือไม่ว่ามะเร็งทั้งหมดออกผ่าตัด และสุขภาพโดยรวมของบุคคล [3] โลก มะเร็งลำไส้ใหญ่ซึ่งเป็นชนิดที่พบมากที่สุดสามโรคมะเร็งถึงประมาณ 10% ของกรณีทั้งหมด ค.ศ. 2012 ได้ 1.4 ล้านและ 694,000 เสียชีวิตจากโรค [10] ได้ทั่วไปในประเทศที่พัฒนาแล้ว ซึ่งพบมากกว่า 65% ของผู้ป่วย [4] มันเป็นน้อยพบในผู้หญิงมากกว่าผู้ชาย [4]

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

โรคมะเร็งลำไส้ใหญ่ (CRC) ยังเป็นที่รู้จักกันเป็นมะเร็งลำไส้คือการพัฒนาของโรคมะเร็งจากลำไส้ใหญ่หรือทวารหนัก (ชิ้นส่วนของลำไส้ใหญ่). [1] มันเกิดจากการเจริญเติบโตที่ผิดปกติของเซลล์ที่มีความสามารถที่จะบุกหรือกระจายไปยังส่วนอื่น ๆ ของร่างกาย. [2] อาการและอาการอาจรวมถึงเลือดในอุจจาระการเปลี่ยนแปลงในการเคลื่อนไหวของลำไส้, การสูญเสียน้ำหนักและความรู้สึกเหนื่อยตลอดเวลา. [3]

การเกิดโรคมะเร็งลำไส้ใหญ่และทวารหนักส่วนใหญ่เป็นเพราะอายุและวิถีชีวิตเก่าของปัจจัยที่มีเพียงจำนวนน้อยของกรณีเนื่องจากพื้นฐาน ผิดปกติทางพันธุกรรม. [4] [5] บางปัจจัยเสี่ยง ได้แก่ อาหาร, โรคอ้วน, การสูบบุหรี่และขาดการออกกำลังกาย. [4] [5] ปัจจัยการบริโภคอาหารที่เพิ่มความเสี่ยง ได้แก่ เนื้อแดงและประมวลผลเช่นเดียวกับการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์. [4] อีกหนึ่งปัจจัยเสี่ยงเป็นโรคลำไส้อักเสบซึ่งรวมถึงโรค Crohn และลำไส้ใหญ่. [4] บางส่วนของความผิดปกติทางพันธุกรรมที่สามารถทำให้เกิดโรคมะเร็งลำไส้ใหญ่ ได้แก่ polyposis adenomatous ครอบครัวและมะเร็งลำไส้ใหญ่ไม่ใช่ polyposis ทางพันธุกรรม; แต่เหล่านี้เป็นตัวแทนน้อยกว่า 5% ของกรณี. [4] [5] มันมักจะเริ่มต้นเป็นเนื้องอกมักจะอยู่ในรูปแบบของปะการังซึ่งเมื่อเวลาผ่านไปจะกลายเป็นมะเร็ง. [4]

มะเร็งลำไส้อาจได้รับการวินิจฉัยโดยได้รับตัวอย่างของลำไส้ใหญ่ในระหว่างการ sigmoidoscopy หรือลำไส้. [3] นี้จะแล้วตามด้วยการถ่ายภาพทางการแพทย์เพื่อตรวจสอบว่าโรคมีการแพร่กระจาย. [1] การตรวจคัดกรองที่มีประสิทธิภาพในการป้องกันและลดการเสียชีวิตจากโรคมะเร็งลำไส้ใหญ่. [6] การตรวจคัดกรองจะแนะนำเริ่มต้นตั้งแต่อายุ 50 ถึง 75 [6] ในช่วง colonoscopy ติ่งเล็ก ๆ อาจถูกลบออกหากพบว่า หากมีติ่งเนื้องอกขนาดใหญ่หรือพบเนื้อเยื่ออาจจะดำเนินการตรวจสอบว่าเป็นมะเร็ง แอสไพรินและ non-steroidal ยาต้านการอักเสบอื่น ๆ ลดความเสี่ยง. [4] [7] การใช้งานทั่วไปของพวกเขาจะไม่แนะนำสำหรับวัตถุประสงค์นี้ แต่เนื่องจากผลข้างเคียง. [8]

การรักษาที่ใช้สำหรับโรคมะเร็งลำไส้ใหญ่อาจรวมถึงการรวมกันของการผ่าตัดรักษาด้วยรังสีรักษาด้วยเคมีบำบัดและการรักษาด้วยการกำหนดเป้าหมายบางอย่าง. [1] โรคมะเร็งที่ถูกคุมขังอยู่ภายในผนังของลำไส้ใหญ่อาจจะรักษาได้ด้วยการผ่าตัดในขณะที่โรคมะเร็งที่มีการแพร่กระจายอย่างกว้างขวางมักจะไม่รักษาให้หายได้ด้วยการจัดการมุ่งเน้นไปที่การพัฒนาคุณภาพชีวิตและอาการ. [1] อัตราการรอดตายห้าปีในประเทศสหรัฐอเมริกาอยู่ที่ประมาณ 65%. [9] นี้ แต่ขึ้นอยู่กับวิธีขั้นสูงเป็นมะเร็งหรือไม่ทุกโรคมะเร็งสามารถลบออกได้ด้วยการผ่าตัดและสุขภาพโดยรวมของบุคคลนั้น. [3] ทั่วโลกเป็นโรคมะเร็งลำไส้ใหญ่เป็นครั้งที่สามชนิดที่พบบ่อยที่สุดของโรคมะเร็งทำขึ้นประมาณ 10% ของทุกกรณี. [10] ในปี 2012 มี 1.4 ล้านรายใหม่และ 694,000 ผู้เสียชีวิตจากโรค. [10] มันเป็นเรื่องธรรมดามากขึ้นในประเทศที่พัฒนาแล้วซึ่งกว่า 65% ของกรณีที่พบ. [4] มันเป็นเรื่องธรรมดาน้อยกว่าในผู้หญิงมากกว่าผู้ชาย. [4]

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

มะเร็งลำไส้ใหญ่และทวารหนัก ( CRC ) , ยังเรียกว่ามะเร็งลำไส้ มีการพัฒนาของมะเร็งลำไส้ใหญ่หรือทวารหนัก ( จากส่วนของลำไส้ใหญ่ ) . [ 1 ] มันเกิดจากการเจริญเติบโตที่ผิดปกติของเซลล์ที่มีความสามารถในการบุกรุกหรือแพร่กระจายไปยังส่วนอื่นๆ ของร่างกาย [ 2 ] และอาการอาจ มีเลือดในอุจจาระ การเปลี่ยนแปลงในการเคลื่อนไหวของลำไส้ , การสูญเสียน้ำหนักและรู้สึกเหนื่อยตลอดเวลา [ 2 ]มะเร็งลําไส้ใหญ่ที่สุดเนื่องจากอายุและปัจจัยวิถีชีวิตที่มีเพียงจำนวนน้อยราย เนื่องจากพื้นฐานทางพันธุกรรม [ 4 ] [ 5 ] บางปัจจัยเสี่ยงได้แก่อาหาร โรคอ้วน การสูบบุหรี่ และการขาดกิจกรรมทางกาย [ 4 ] [ 5 ] ในปัจจัยที่เพิ่มความเสี่ยง ได้แก่ สีแดง และเนื้อแปรรูป เช่น รวมทั้งแอลกอฮอล์ [ 4 ] อีกหนึ่งปัจจัยเสี่ยง คือ โรคลำไส้อักเสบ ซึ่งรวมถึงโรค Crohn และ ulcerative colitis . [ 4 ] บางส่วนของการสืบทอดความผิดปกติทางพันธุกรรมที่สามารถก่อให้เกิดมะเร็งเป็นกรรมพันธุ์ adenomatous polyposis รวมกับโรคมะเร็งลำใส้ในครอบครัว อย่างไรก็ตาม เหล่านี้เป็นตัวแทนน้อยกว่า 5% กรณี [ 4 ] 5 ] มันมักจะเริ่มต้นเป็นเนื้องอกมักจะอยู่ในรูปแบบของหินปะการัง ซึ่งเมื่อเวลาผ่านไปจะกลายเป็นมะเร็ง . [ 5 ]มะเร็งลำไส้อาจจะวินิจฉัยโดยได้รับตัวอย่างของลำไส้ใหญ่ในซิกมอยโดสโคปหรือ colonoscopy [ 3 ] นี่ แล้วตามด้วยการถ่ายภาพทางการแพทย์ ระบุว่า โรคนี้ได้แพร่ [ 1 ] การคัดกรองที่มีประสิทธิภาพในการป้องกันและลดการตายจากมะเร็งลำไส้ใหญ่ [ 6 ] การแนะนำเริ่มจากอายุ 50 75 . [ 6 ] ในระหว่าง colonoscopy , polyps ขนาดเล็กอาจถูกลบออก ถ้าพบ ถ้าเนื้องอกโพลิปที่มีขนาดใหญ่หรือพบชิ้นเนื้ออาจจะดำเนินการเพื่อตรวจสอบว่าเป็นมะเร็ง . แอสไพริน และ อื่น ๆ ยาต้านอักเสบที่ไม่ใช่สเตียรอยด์ลดความเสี่ยง [ 4 ] [ 7 ] ทั่วไปใช้ไม่แนะนำสำหรับวัตถุประสงค์นี้ อย่างไรก็ตาม เนื่องจากผลข้างเคียง . [ 8 ]การรักษาที่ใช้สำหรับมะเร็งลำไส้ใหญ่อาจรวมถึงการรวมกันของการผ่าตัด รังสีรักษา เคมีบำบัด และเป้าหมายการรักษา [ 1 ] มะเร็งที่อยู่ภายในผนังของลำไส้ใหญ่อาจรักษาให้หายได้ด้วยการผ่าตัดในขณะที่มะเร็งที่แพร่กระจายอย่างกว้างขวางมักจะไม่หายขาด มีการจัดการที่เน้นการปรับปรุงคุณภาพของชีวิตและอาการ อัตราการอยู่รอด 5 ปี [ 1 ] ในสหรัฐอเมริกามีประมาณ 65 % [ 9 ] นี้ อย่างไรก็ตาม ขึ้นอยู่กับโรคมะเร็งเป็นวิธีการขั้นสูงหรือไม่ทุกโรคมะเร็งสามารถเอาออกได้ด้วยการผ่าตัด และสุขภาพโดยรวมของบุคคล [ 3 ] ทั่วโลก , มะเร็งลำไส้ใหญ่เป็นชนิดที่พบมากที่สุดในสามของโรคมะเร็งที่ทำเกี่ยวกับ 10% ของทุกกรณี [ 10 ] 2012 มีจำนวน 1.4 ล้านรายใหม่ และ 694000 การตายจากโรค [ 10 ] มันเป็นเรื่องปกติมากขึ้นในประเทศที่พัฒนาแล้วที่มากกว่า 65% ของกรณีพบ [ 4 ] โดยทั่วไปน้อยกว่าในผู้หญิงมากกว่าผู้ชาย [ 5 ]