ย้อนเวลากลับไปตอนที่ยังเป็นเด็ก ๆ นึกถึงเวลาที่เรียนวิชาภาษไทยจะต้องได้เขียนเรียงความเรื่อง “ ความฝันของฉัน ” อยู่บ่อยครั้ง ในตอนนั้นความฝันของเพื่อน ๆ ฉันไม่แตกต่างกันมากเท่าไรนัก ฉันคิดว่าเด็กทุก ๆ คนก็คงจะมีความฝันเหมือนกันเกือบทุกคน
อาชีพในฝันที่เป็นอาชีพยอดนิยมของเด็ก ๆ อยู่ไม่กี่อาชีพหรอก ถ้าเป็นเด็กผู้ชายก็อยากเป็นทหาร ตำรวจ เพราะเด็กผู้ชายส่วนใหญ่ชอบเรื่องการต่อสู้เป็นชีวิตจิตใจ และยิ่งได้แต่งชุดเท่ ๆ ยิ่งทำให้คิดว่าคงดูดีน่าดู แต่ก็มีเด็กผู้ชายบ้างคนนะ ที่อยากเป็นนางพยาบาลหรือนางงาม ตอนนี้ฉันก็ไม่ค่อยเข้าใจหรอกว่าทำไมเขาจึงอยากเป็นแบบนั้น ทั้ง ๆ ที่เขาเป็นผู้ชาย ส่วนเด็กผู้หญิงก็มีอาชีพในดวงใจเหมือนกัน นั่นก็คือ คุณครู คุณหมอ และก็แอร์โฮสเตส และเหตุผลที่อยากเป็นก็ไม่ต่างกันอีกเช่นกัน ที่อยากเป็นคุณหมอก็เพราะ อยากช่วยเหลือคนป่วย และจะได้ดูแลคุณพ่อคุณเวลาที่ท่านไม่สบาย ส่วนเหตุผลที่อยากเป็นแอร์โฮสเตสเพราะ จะได้แต่งตัวสวย ๆ ได้ทำงานบนเครื่องบิน และที่สำคัญได้ดินทางท่องเที่ยวไปรอบโลกอีกด้วย แต่สำหรับฉันแล้ว ในตอนเด็ก ๆ ฉันไม่มีอาชีพพวกนี้อยู่ในฝันของฉันเลย ความฝันสูงสุดและเป็นความฝันอย่างเดียวของฉันในตอนนั้นก็คือ อาชีพช่างเสริมสวย ฉันคิดว่าเป็นอาชีพที่สบาย ได้ทำอยู่กับความสวยความงาม และฉันคิดว่ามันเป็นอาชีพที่เหมาะกับฉันที่สุด แต่เมื่อเวลาผ่านไปความฝันของฉันก็เปลี่ยนไปด้วย มันเริ่มขึ้นเมื่อฉันเข้าเรียนชั้นมัธยมต้น ตอนนั้นฉันยังเลือกไม่ได้ว่าอยากจะเป็นอะไร ทำงานในอาชีพไหน มีอาชีพมากมายอยู่ในหัวของฉัน ไม่ว่าจะเป็น ทันตแพทย์ ทนายความ และแอร์โฮสเตส ฉันเริ่มมีความคิดเหมือนเด็ก ๆ ทั่วไปแล้ว พอได้เรียนไปซักพักนึง ฉันคิดว่าฉันคงไม่เหมาะสมที่จะเป็นทันตแพทย์อย่างแน่นอน หลังจากที่ดูจากเกรดเฉลี่ยของฉันแล้ว ฉันจึงตัดความฝันนี้ทิ้งไป แล้วจนวันหนึ่งฉันได้มีโอกาสดูหนังที่เกี่ยวกับเด็กผู้หญิงคนนึ่งที่อยากเป็นแอร์โฮสเตสและต้องเป็นแอร์โฮสเตสที่ดีด้วย หนังเรื่องนั้นมีชื่อว่า “ Big Wing ” เป็นเรื่องบันดาลใจในที่ทำให้ฉันอยากเป็นแอร์โฮสเตส และตั้งใจเรียนภาษาอังกฤษมากยิ่งขึ้น เพราะฉันรู้ดีว่าการที่จะเป็นแอร์โฮสเตสได้นั้นต้องเก่งและชำนาญภาษาอังกฤษมากเลยทีเดียว เพราะการสอบเข้าทุกอย่างต้องเป็นภาษอังกฤษหมด ดังนั้นฉันจึงพยายามตั้งใจเรียนและเรียนพิเศษภาษาอังกฤษ เพื่อความฝันของฉันจะได้เป็นจริง ทิศทางในการดำเนินชีวิตมีหนทางมากมายที่จะทำให้คนเราประสบความสำเร็จ อย่างความพยายามก็เป็นอีกหนึ่งที่จะทำให้ใครต่อใครเดินทางสู่ความสำเร็จมาแล้ว แต่อย่างไรก็ตามที หนทางที่เราดำเนินการอยู่จะเห็นผลในวันนี้ แต่จะเห็นผลในระยะยาว ฉะนั้นการที่เราจะเดินไปถึงจุดหมายได้นั้นอยู่ที่ตัวเราเป็นผู้เลือก หากเลือกดีก็จะทำให้คุณประสบความสำเร็จ หากเลือกแล้วไม่ทำตามความตั้งใจหนทางที่ตั้งไว้ก็ไม่มีค่าแม้แต่เงาของความสำเร็จ เช่นเดียวกับการทำงาน มีหลายคนที่ไม่พอใจกับงานของตนเอง แต่ก็น่าแปลกที่มีน้อยคนที่จะให้นิยามของงานที่เขาชอบเพื่อที่จะนำตนเองไปสู่ทิศทางที่เหมาะสม เมื่อใดก็ตามที่คนทำงานที่เขาไม่ชอบ หรือไม่สามารถที่จะทำได้ดี เขาก็จะสะท้อนความไม่พอใจของเขาออกมาโดยอารมณ์ และจากการที่เราไม่สามารถประสบความสำเร็จได้นั้น เขาก็ย่อมไม่ได้สิ่งที่ปรารถนา หากเราเป็นบุคคลดังที่ได้กล่าว ควรที่จะหยุดพฤติกรรมเหล่านี้แล้วใครครวญ ไตร่ตรองบ้างเพื่อดูความผิดพลาดที่เกิดขึ้น หากทำอย่างนั้นได้งานที่เราทำก็มีความเหมาะสมอย่างแน่นอน “คนที่ทำงานไม่เหมาะสมกับตนเอง และล้มเหลวในงานนั้นตลอดเวลา ย่อมพบกับความยากลำบากมากกว่าคนที่ทำงานที่เหมาะสมกับตนเองแล้วประสบความสำเร็จ การทำงานที่เราเผชิญอยู่อาจแตกต่างจากคนอื่นตรงที่เรามีความชอบแตกต่างกัน บ้างก็ชอบงานอีกรูปแบบหนึ่ง บ้างก็ไปอีกอย่าง ไม่แน่นอนเสมอไป ซึ่งเราอาจจะคิดว่ามันเป็นเรื่องเพ้อฝัน แต่มันก็เป็นเรื่องจริงที่เราไม่ได้ฝัน ดังนั้นหากเราต้องการเงินมากกว่านี้ จงอย่าพยายามพูดถึงมันเท่านั้น และอย่ากำหนดมันกว้างๆ ต้องกำหนดให้เฉพาะเจาะจง จดและบันทึกมันไว้ในสมุดบันทึกของท่านที่มีแนวโน้มจะหาเงินมาใช้ได้ คนทุกคนต่างมุมมอง ต่างความคิด แต่คนทุกคนต่างมีจุดหมายเดียวกันนั่นก็คือ การมีชีวิตที่ดีขึ้น ฉะนั้นสิ่งแรกที่เราต้องมองตัวเราเองก่อนว่าเราเป็นเช่นไรบ้าง สำรวจดูให้ทั่วแล้วจะรู้ความบกพร่องของตัวเรา เมื่อเรารู้ทุกสิ่งแล้วก็ควรแก้ไขสิ่งเหล่านั้น เช่นเดียวกับความคิดที่เราสับสนอยู่ในขณะนี้ อย่าลืมการสร้างความมีมนุษยสัมพันธ์ที่ดีและการมองโลกที่ดี เพื่อพัฒนาบุคลิกภาพของตัวเราเอง หากเราทำอย่างนี้ได้ อนาคตเราก็จะเป็นผู้ชนะอย่างแท้จริง หลังจากนั้นฉันได้พยายามศึกษาเกี่ยวกับอาชีพแอร์โฮสเตสมาตลอดว่าการที่จะเป็นแอร์โฮสเตสได้นั้น ต้องทำอย่างไรบ้าง การเป็นแฮร์โฮสเตสไม่ได้ง่ายอย่างที่ใครหลาย ๆ คนคิด บางคนคิดว่าแค่สวย แล้วก็เก่งภาษาอังกฤษก็สามารถเป็นได้แล้ว แต่แท้ที่จริงแล้ว แอร์โฮสเตสต้องเป็นมากกว่านั้นอีกเยอะ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของความอดทนในการทำงาน ความอดทน เป็นคุณธรรมสำคัญมากข้อหนึ่งในคุณธรรมของผู้นำ อดทนเพื่อบรรลุความดีบางครั้งถูกกระทบด้วยสิ่งที่ไม่พึงปรารถนา เป็นลักษณะของกายและใจที่พร้อมจะเผชิญกับเหตุการณ์ที่จะเกิดขึ้นในทุกรูปแบบ โดยไม่ยอมแพ้หรืออ่อนแอ คนเราเกิดมาถ้าไม่มีความอดทนแล้ว ชีวิตดูเหมือนไร้ค่า ไม่มีความหมาย และไม่สามารถทำงานให้สำเร็จได้ ลักษณะความอดทน 3 ประการ คือ 1.อดทนต่อความยากลำบาก กับสภาพแวดล้อมที่เป็นอยู่ ความหิวโหย และความทุกข์ที่เกิดจากโรคภัยไข้เจ็บ ทำให้เสียสุขภาพ เสียเงิน เสียเวลา เสียการงาน เมื่อเกิดทุกขเวทนา ไม่ควรแสดงอาการทุรนทุราย ควรสร้างกำลังใจให้เข้มแข็งโดยการพิจารณาถึงธรรมที่พระพุทธเจ้าตรัสสอนไว้ว่า บรรพชิตหรือคฤหัสถ์ ควรพิจารณาเนื่องๆ ถึงความแก่ ความเจ็บ และความตาย ว่าเป็นของธรรมดา ไม่สามารถล่วงพ้นไปได้ เป็นต้น 2.อดทนต่อความตรากตรำ ความทุกข์ยากจากการทำงาน เพราะคนทุกคนจะสามารถดำรงชีวิตอยู่ได้