DDT (dichlorodiphenyltrichloroethan

DDT (dichlorodiphenyltrichloroethane) is a colorless, crystalline, tasteless and almost odorless organochlorine known for its insecticidal properties and environmental impacts. DDT has been formulated in multiple forms, including solutions in xylene or petroleum distillates, emulsifiable concentrates, water-wettable powders, granules, aerosols, smoke candles and charges for vaporizers and lotions.[7][8]

First synthesized in 1874, DDT's insecticidal action was discovered by the Swiss chemist Paul Hermann Müller in 1939. It was used in the second half of World War II to control malaria and typhus among civilians and troops. After the war, DDT was also used as an agricultural insecticide and its production and use duly increased.[9] Müller was awarded the Nobel Prize in Physiology or Medicine "for his discovery of the high efficiency of DDT as a contact poison against several arthropods" in 1948.[10]

In 1962, Rachel Carson's book Silent Spring was published. It cataloged many circumstantial environmental impacts that coincided with widespread DDT spraying in the United States and questioned the logic of releasing large amounts of potentially dangerous chemicals into the environment without understanding their effects on the environment or human health. The book claimed that DDT and other pesticides had been shown to cause cancer and that their agricultural use was a threat to wildlife, particularly birds. Its publication was a seminal event for the environmental movement and resulted in a large public outcry that eventually led, in 1972, to a ban on DDT's agricultural use in the United States.[11] A worldwide ban on agricultural use was formalized under the Stockholm Convention on Persistent Organic Pollutants, but its limited and still-controversial use in disease vector control continues,[12][13] because of its effectiveness in reducing malarial infections, balanced by environmental and other health concerns.

Along with the passage of the Endangered Species Act, the United States ban on DDT is cited[why?] by scientists as a major factor in the comeback of the bald eagle (the national bird of the United States) and the peregrine falcon from near-extinction in the contiguous United

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ดีดีที (dichlorodiphenyltrichloroethane) เป็น organochlorine สีซีด ผลึก รสจืด และกลิ่นเกือบ insecticidal คุณสมบัติและผลกระทบสิ่งแวดล้อม ดีดีทีผลิตในหลายรูปแบบ วิธีการแก้ไขในไซลีนหรือปิโตรเลียม distillates ข้น emulsifiable, wettable น้ำผง เม็ด สเปรย์ ควันเทียน และค่าการกลั่นและโลชั่น [7] [8]สังเคราะห์ครั้งแรก ในปี 1874 การกระทำของดีดีที insecticidal ถูกค้นพบ โดยนักเคมีสวิสพอล Hermann Müller ในปีพ.ศ. 2482 มันถูกใช้ในสงครามโลกครั้งที่สองครึ่งเพื่อควบคุมโรคมาลาเรียและไข้รากสาดใหญ่ระหว่างพลเรือนและทหาร หลังจากสงคราม ดีดีทียังใช้แมลงการเกษตร และการผลิต และการใช้ที่ถูกต้องเพิ่มขึ้นด้วย [9] Müller ได้รับรางวัลโนเบลสาขาสรีรวิทยาหรือการแพทย์ "สำหรับการค้นพบของเขาประสิทธิภาพสูงของดีดีทีเป็นยาพิษติดต่อกับหลายมันขึ้นมา" ในปี 1948 [10]ในปี 1962 ราเชลคาร์สันสมุดเงียบสปริงถูกตีพิมพ์ มัน cataloged หลายใจกลางกรุงมะนิลาสิ่งแวดล้อมที่สอดคล้องกับอย่างกว้างขวางดีดีทีฉีดพ่นในสหรัฐ และสอบสวนตรรกะของการปล่อยสารเคมีอันตรายจำนวนมากในสภาพแวดล้อมที่ไม่เข้าใจผลสภาพแวดล้อมหรือสุขภาพของมนุษย์ หนังสือเล่มนี้อ้างว่า ดีดีที และสารกำจัดศัตรูพืชอื่น ๆ ได้รับการแสดงเพื่อทำให้เกิดมะเร็ง และการใช้ทางการเกษตรว่าเป็นภัยคุกคามต่อสัตว์ป่า โดยเฉพาะอย่างยิ่งนก ตีพิมพ์เป็นเหตุการณ์การบรรลุสำหรับการเคลื่อนไหวด้านสิ่งแวดล้อม และส่งผลให้ร้องขนาดใหญ่ที่สุดนำ 1972 การห้ามของดีดีทีเกษตรใช้ในสหรัฐอเมริกา [11] ทั่วโลกห้ามใช้ทางการเกษตรคือมีสถานะเป็นภายใต้อนุสัญญาสตอกโฮล์มว่าด้วยสารมลพิษอินทรีย์แบบถาวร แต่การใช้งานจำกัด และยังคงถกเถียงกันในการควบคุมเวกเตอร์โรค ยังคง, [12] [13] เพราะประสิทธิภาพในการลดการติดเชื้อมาเลเรีย ความสมดุล โดยความกังวลเรื่องสุขภาพ และสิ่งแวดล้อมพร้อมกับทางของพระราชบัญญัติพันธุ์ใกล้สูญพันธุ์ บ้านไทยบนดีดีทีอ้างว่า [ทำไม] โดยนักวิทยาศาสตร์เป็นปัจจัยสำคัญในการคัมแบ็กของนกอินทรีหัวล้าน (นกประจำชาติของสหรัฐอเมริกา) และเหยี่ยว peregrine จากใกล้สูญพันธุ์ในสหรัฐอยู่ติดกัน

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ดีดีที (ดีดีที) เป็นสีผลึกรสจืดและไม่มีกลิ่นเกือบ organochlorine ที่รู้จักสำหรับคุณสมบัติฆ่าแมลงและผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม ดีดีทีสูตรได้ในหลายรูปแบบรวมถึงการแก้ปัญหาในไซลีนปิโตรเลียมกลั่นเข้มข้น emulsifiable ผงน้ำเปียก, เม็ดละอองควันเทียนและค่าใช้จ่ายสำหรับไอระเหยและโลชั่น. [7] [8]

สังเคราะห์เป็นครั้งแรกในปี 1874 ดำเนินการฆ่าแมลงดีดีทีถูกค้นพบโดยนักเคมีชาวสวิสพอลแฮร์มันน์Müllerในปี 1939 มันถูกใช้ในช่วงครึ่งหลังสงครามโลกครั้งที่สองในการควบคุมโรคมาลาเรียและโรคไข้รากสาดใหญ่ในหมู่พลเรือนและทหาร หลังจากที่สงครามดีดีทีก็ยังใช้เป็นยาฆ่าแมลงทางการเกษตรและการผลิตและการใช้งานที่เพิ่มขึ้นรับรองสำเนาถูกต้อง. [9] Müllerได้รับรางวัลรางวัลโนเบลสาขาสรีรวิทยาหรือการ แพทย์ "สำหรับการค้นพบของเขามีประสิทธิภาพสูงของดีดีทีเป็นพิษติดต่อกับหลายรพ" ในปี 1948 [10]

ในปี 1962 หนังสือราเชลคาร์สันเงียบฤดูใบไม้ผลิรับการตีพิมพ์ มัน cataloged ผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมตามสถานการณ์หลายอย่างที่ใกล้เคียงกับการฉีดพ่นยาฆ่ายุงอย่างแพร่หลายในสหรัฐอเมริกาและถามเหตุผลของการปล่อยจำนวนมากของสารเคมีที่อาจเป็นอันตรายในสภาพแวดล้อมที่ไม่มีความเข้าใจผลกระทบที่มีต่อสิ่งแวดล้อมหรือสุขภาพของมนุษย์ หนังสือเล่มนี้อ้างว่าดีดีทีและยาฆ่าแมลงอื่น ๆ ที่ได้รับการแสดงที่ทำให้เกิดโรคมะเร็งและที่ใช้ในการเกษตรของพวกเขาเป็นภัยคุกคามต่อสัตว์ป่าโดยเฉพาะนก ที่ตีพิมพ์เป็นเหตุการณ์น้ำเชื้อสำหรับการเคลื่อนไหวด้านสิ่งแวดล้อมและส่งผลให้ประชาชนโวยขนาดใหญ่ที่นำที่สุดในปี 1972 ที่จะห้ามในการใช้ในการเกษตรดีดีทีในประเทศสหรัฐอเมริกา. [11] ห้ามทั่วโลกใช้ในการเกษตรเป็นทางการภายใต้อนุสัญญาสตอกโฮล์มว่าด้วยสารมลพิษที่ตกค้างยาวนาน แต่ จำกัด และการใช้งานยังคงมีความขัดแย้งในการควบคุมโรคเวกเตอร์อย่างต่อเนื่อง [12] [13] เนื่องจากประสิทธิภาพในการลดการติดเชื้อไข้จากสิ่งแวดล้อมและ ความกังวลเรื่องสุขภาพอื่น ๆ

พร้อมกับเนื้อเรื่องของพระราชบัญญัติสัตว์ใกล้สูญพันธุ์, บ้านสหรัฐอเมริกาที่ยุงจะถูกอ้างถึง [ทำไม?] โดยนักวิทยาศาสตร์ที่เป็นปัจจัยสำคัญในการคัมแบ็กของนกอินทรีหัวล้าน (นกประจำชาติของประเทศสหรัฐอเมริกา) และเหยี่ยวเพเรกรินใกล้ -extinction ในใกล้ชิดประเทศ

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ดีดีที ( dichlorodiphenyltrichloroethane ) คือ ไม่มีสี ไม่มีกลิ่น ปริมาณผลึก รสจืดและเกือบจะเป็นที่รู้จักสำหรับคุณสมบัติ ) และผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม ดีดีทีได้ถูกกำหนดในหลายรูปแบบรวมถึงโซลูชั่นในไซลีนหรือกลั่นปิโตรเลียมรัฐควีนส์แลนด์เข้มข้น , น้ำ wettable ผง , เม็ด , สเปรย์ , เทียนควันและค่าใช้จ่าย vaporizers และโลชั่น [ 7 ] [ 8 ]สังเคราะห์ครั้งแรกใน 1874 , การกระทําของยาฆ่าแมลงดีดีทีถูกค้นพบโดยนักเคมีชาวสวิสพอล Hermann M ü ller ใน 1939 มันถูกใช้ในช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง ในการควบคุมโรคมาลาเรียและไข้รากสาดระหว่างพลเรือนและทหาร หลังจากสงคราม ดีดีที ก็ใช้เป็นยาฆ่าแมลงในการเกษตรและการผลิตและการใช้ นามเพิ่มขึ้น . [ 9 ] M มึลเลอร์ได้รับรางวัลโนเบลสาขาสรีรวิทยาหรือการแพทย์ " สำหรับการค้นพบประสิทธิภาพสูงของดีดีทีเป็นติดต่อกับแมลงพิษหลาย " ในปี 1948 [ 10 ]1962 Rachel Carson Silent Spring หนังสือถูกตีพิมพ์ มัน cataloged หลายแวดล้อมผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมที่สอดคล้องกับฉาวพ่นดีดีทีในสหรัฐอเมริกา และถามเหตุผลของการปล่อยจำนวนมากของสารเคมีอันตรายสู่สิ่งแวดล้อมโดยไม่เข้าใจผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมหรือสุขภาพของมนุษย์ หนังสือ DDT และยาฆ่าแมลงอื่น ๆอ้างว่าได้รับการแสดงเพื่อก่อให้เกิดมะเร็งและที่เกษตรกรรมถูกคุกคามสัตว์ป่า โดยเฉพาะนก ประกาศเป็นเหตุการณ์ที่อุดมสมบูรณ์สำหรับการเคลื่อนไหวด้านสิ่งแวดล้อมและทำให้เกิดโวยสาธารณะขนาดใหญ่ที่ในที่สุดนำในปี 1972 เพื่อห้ามการใช้ดีดีทีเป็นเกษตรในสหรัฐอเมริกา . [ 11 ] บ้านทั่วโลกที่ใช้ทางการเกษตรจริงจังภายใต้อนุสัญญาสตอกโฮล์มอินทรีย์สารมลพิษ แต่การใช้งานจำกัด และยังคงขัดแย้งเวกเตอร์ในการควบคุมโรคยังคง [ 12 ] [ 13 ] เนื่องจากประสิทธิภาพในการลดเชื้อมาลาเรีย สมดุล จากสิ่งแวดล้อม และความกังวลเรื่องสุขภาพอื่น ๆตามทางเดินของสัตว์ใกล้สูญพันธุ์พระราชบัญญัติห้ามประเทศสหรัฐอเมริกาดีดีทีถูกอ้าง [ ทำไม ? ] โดยนักวิทยาศาสตร์เป็นปัจจัยสําคัญในการกลับมาของนกอินทรีหัวล้าน ( นกแห่งชาติของสหรัฐอเมริกา ) และเหยี่ยวจากใกล้สูญพันธุ์ในติดกัน ยูไนเต็ด