การทดสอบข้าวโพดหวานจำนวน 30 พันธุ์ต่อการเข้าทำลายของเชื้อแบคทีเรีย Erwinia chrysanthemi pathovar zeae สาเหตุโรคลำต้นเน่าของข้าวโพดหวาน ทดสอบทั้งหมด 6 ชุดการทดลอง ได้แก่ เชื้อ 4 ไอโซเลต 151XH104-5-57, 98-12-2-51, ATS5_03-2, ATS5_10, น้ำนึ่งฆ่าเชื้อและเชื้อ Pectobacterium carotovorum subsp. carotovorum (Ecc) จำนวน 10 ต้นต่อชุดการทดลอง โดยปลูกเชื้อด้วยวิธีการใช้ไม้จิ้มฟันที่นึ่งฆ่าเชื้อแล้วเขี่ยโคโลนีของเชื้อแบคทีเรียที่เลี้ยงบนอาหาร NA อายุ 12 ชั่วโมง จิ้มเข้าสู่ลำต้นข้าวโพดลึกประมาณ 0.5 เซนติเมตร ที่ระดับเหนือดิน 2-3 เซนติเมตร ปิดปากแผล ด้วยวาสลีน และคลุมด้วยพลาสติกใสเพื่อควบคุมความชื้นสัมพัทธ์ จากนั้นประเมินดัชนีการเกิดโรค ที่ 2, 4 และ 6 วัน หลังปลูกเชื้อ โดยนำคะแนนการเกิดโรคแต่ละระดับมาคำนวณเป็นเปอร์เซ็นต์ดัชนีการเกิดโรค (disease index, %DI) และแบ่งลักษณะความต้านทานโรคเป็น 6 ลักษณะ พบว่า มีข้าวโพด 18 พันธุ์ ที่มีเปอร์เซ็นต์การเกิดโรคตั้งแต่ 80% ขึ้นไป มีข้าวโพด 3 พันธุ์ ที่ต้านทานเชื้อทั้ง 4 ไอโซเลต ในระดับต้านทาน (Resistant, R) ถึง ต้านทานมาก (Highly resistant, HR) คือ พันธุ์ SM1358, SM1625 และ SN1293 จำนวน 6 พันธุ์ ที่ต้านทานต่อเชื้อ 3 ไอโซเลต ในระดับต้านทาน (R) ถึง ต้านทานมาก (HR) คือ พันธุ์ SM1297, SM1316, SM1351, SM2429, SM1330 และ SN1164 จำนวน 3 พันธุ์ ที่ต้านทานต่อเชื้อ 2 ไอโซเลต ในระดับต้านทาน (R) ถึง ต้านทานมาก (HR) คือ พันธุ์ SK9735, SN1189 และ SN1150 จำนวน 3 พันธุ์ ที่ต้านทานต่อเชื้อ 1 ไอโซเลต ในระดับต้านทาน (R) ถึง ต้านทานมาก (HR) คือ พันธุ์ SK7557, SM1353 และ S3X3070
การทดสอบข้าวโพดหวานจำนวน 30 พันธุ์ต่อการเข้าทำลายของเชื้อแบคทีเรีย Erwinia chrysanthemi pathovar zeae สาเหตุโรคลำต้นเน่าของข้าวโพดหวานทดสอบทั้งหมด 6 ชุดการทดลองได้แก่เชื้อ 4 ไอโซเลต 151XH104-5-57, 98-12-2-51, ATS5_03-2, ATS5_10 น้ำนึ่งฆ่าเชื้อและเชื้อ Pectobacterium carotovorum subsp. carotovoรัม (Ecc) จำนวน 10 ต้นต่อชุดการทดลองโดยปลูกเชื้อด้วยวิธีการใช้ไม้จิ้มฟันที่นึ่งฆ่าเชื้อแล้วเขี่ยโคโลนีของเชื้อแบคทีเรียที่เลี้ยงบนอาหารนาอายุ 12 ชั่วโมงจิ้มเข้าสู่ลำต้นข้าวโพดลึกประมาณ 0.5 เซนติเมตรที่ระดับเหนือดิน 2-3 เซนติเมตรปิดปากแผลด้วยวาสลีนและคลุมด้วยพลาสติกใสเพื่อควบคุมความชื้นสัมพัทธ์จากนั้นประเมินดัชนีการเกิดโรค 2, 4 และ 6 วันหลังปลูกเชื้อโดยนำคะแนนการเกิดโรคแต่ละระดับมาคำนวณเป็นเปอร์เซ็นต์ดัชนีการเกิดโรค (ดัชนีโรค % DI) และแบ่งลักษณะความต้านทานโรคเป็น 6 ลักษณะพบว่ามีข้าวโพด 18 พันธุ์ที่มีเปอร์เซ็นต์การเกิดโรคตั้งแต่ขึ้นไป 80% มีข้าวโพด 3 พันธุ์ที่ต้านทานเชื้อทั้ง 4 ไอโซเลตในระดับต้านทาน (ทน R) ถึงต้านทานมาก (ทนต่อ HR) คือพันธุ์ SM1358, SM1625 และ SN1293 จำนวน 6 พันธุ์ที่ต้านทานต่อเชื้อ 3 ไอโซเลตในระดับต้านทาน (R) ถึงต้านทานมาก (HR) คือพันธุ์ SM1297, SM1316, SM1351, SM2429, SM1330 และ SN1164 จำนวน 3 พันธุ์ที่ต้านทานต่อเชื้อ 2 ไอโซเลตในระดับต้านทาน (R) ถึงต้านทานมาก (HR) คือพันธุ์ SK9735, SN1189 และ SN1150 จำนวน 3 พันธุ์ที่ต้านทานต่อเชื้อ 1 ไอโซเลตในระดับต้านทาน (R) ถึงต้านทานมาก (HR) คือพันธุ์ SK7557 , SM1353 และ S3X3070
การแปล กรุณารอสักครู่..

การทดสอบข้าวโพดหวานจำนวน 30 Erwinia chrysanthemi pathovar zeae สาเหตุโรคลำต้นเน่าของข้าวโพดหวานทดสอบทั้งหมด 6 ชุดการทดลอง ได้แก่ เชื้อ 4 ไอโซเลต 151XH104-5-57, 98-12-2-51, ATS5_03-2, ATS5_10, น้ำนึ่งฆ่าเชื้อและเชื้อ Pectobacterium carotovorum subsp carotovorum (ECC) บริษัท จำนวน 10 ต้นต่อชุดการทดลอง NA อายุ 12 ชั่วโมงจิ้มเข้าสู่ลำต้นข้าวโพดลึกประมาณ 0.5 เซนติเมตรที่ระดับเหนือดิน 2-3 เซนติเมตรปิดปากแผลด้วยวาสลีน จากนั้นประเมินดัชนีการเกิดโรคที่ 2, 4 และ 6 วันหลังปลูกเชื้อ (ดัชนีโรค% DI) และแบ่งลักษณะความต้านทานโรคเป็น 6 ลักษณะพบว่ามีข้าวโพด 18 พันธุ์ที่มีเปอร์เซ็นต์การเกิดโรคตั้งแต่ 80% ขึ้นไปมีข้าวโพด 3 พันธุ์ที่ต้านทานเชื้อทั้ง 4 ไอโซเลตในระดับต้านทาน (Resistant , r) ถึงต้านทานมาก (ทนสูง HR) คือพันธุ์ SM1358, SM1625 และ SN1293 จำนวน 6 พันธุ์ที่ต้านทานต่อเชื้อ 3 ไอโซเลตในระดับต้านทาน (R) ถึงต้านทานมาก (HR) คือพันธุ์ SM1297, SM1316, SM1351, SM2429, SM1330 และ SN1164 จำนวน 3 พันธุ์ที่ต้านทานต่อเชื้อ 2 ไอโซเลตในระดับต้านทาน (R) ถึงต้านทานมาก (HR) คือพันธุ์ SK9735, SN1189 และ SN1150 จำนวน 3 พันธุ์ที่ต้านทานต่อเชื้อ 1 ไอโซเลตในระดับต้านทาน ( R) ถึงต้านทานมาก (HR) คือพันธุ์ SK7557, SM1353 และ S3X3070
การแปล กรุณารอสักครู่..
