2331 he emphasized as a Buddhist monk in the temple of the Emerald Buddha Temple This is his first ordination in this temple is to memorize. At the end of three months. At present is วัดสมอราย emperor temple, after he had telephone network that year.Tags: event her daughters in her Royal Highness The Princess กรมพระศรีสุดารักษ์
.The 2336 fund started by his father City Dawei time 2
BCประวัติของรัชกาลที่ 1-9
พระราชประวัติรัชกาลที่ 1 แห่งราชวงศ์จักรีพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช ( ประสูติพ . ศ . 2279 ขึ้นครองราชย์พ . ศ . พ.ศ. 2325 - พ . ศ . 2352 )
มีพระนามเดิมว่าทองด้วงพระราชประวัติธรณินทราธิราชรัตนากาศภาสกรวงศ์องค์ปรมาธิเบศรตรีภูวเนตรวรนารถนายกดิลกรัตนสมุทัยวโรมนต์สกลจักรฬาธิเบนทร์สุริเยนทราธิบดินทรหริหรินทรธาดาธิ
ชาติอาชาวศรัยบดีศรีสุวิบุลยคุณธขนิษฐ์ฤทธิราเมศวรมหันต์บรมธรรมิกราชาธิราชเดโชไชยพรหมเทพาดิเทพนฤดินทร์ภูมินทรปรามาธิเบศรโลกเชฎฐวิสุทธิ์รัตนมกุฎประเทศคตามหาพุทธางกูร
บรมบพิตรพระพุทธเจ้าอยู่หัว "พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกทรงเป็นปฐมกษัตริย์แห่งพระบรมราชวงศ์จักรี
ทรงพระนามเต็มว่าพระบาทสมเด็จพระบรมราชาธิราชรามาธิบดีศรีสินทรบรมมหาจักรพรรดิราชาธิบดินทร์
"ทรงประสูติเมื่อวันที่ 20 มีนาคมพ . ศ . 2279 พระราชบิดาทรงพระนามว่าออกอักษรสุนทร
ศาสตร์พระราชมารดาทรงพระนามว่าดาวเรืองมีบุตรและธิดารวมทั้งหมดคนความ
5คนที่ 1 เป็นหญิงชื่อ " สา " ( ต่อมาได้รับสถาปนาเป็นพระเจ้าพี่นางเธอกรมสมเด็จพระเทพสุดาวดี )
คนที่ 2 เป็นชายชื่อ " ขุนรามนรงค์ " ( ถึงแก่กรรมก่อนที่จะเสียกรุงศรีอยุธยาแก่พม่าครั้งที่
2 )คนที่ 3 เป็นหญิงชื่อ " แก้ว " ( ต่อมาได้รับสถาปนาเป็นพระเจ้าพี่นางเธอกรมสมเด็จพระศรีสุดารักษ์ )
คนที่ 4 เป็นชายชื่อ " ด้วง " ( พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช )
คนที่ 5 เป็นชายชื่อ " บุญมา " ( ต่อมาได้รับสถาปนาเป็นกรมพระราชวังบวรมหาสุรสิงหนาทสมเด็จพระอนุชาธิราช )
เมื่อเจริญวัยได้ถวายตัวเป็นมหาดเล็กในสมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอเจ้าฟ้าอุทุมพรพระชนมายุ 21 พรรษาออกบวชที่วัดมหาทลายแล้วกลับมาเป็นมหาดเล็กหลวงในแผ่นดินพระเจ้าอุทุมพร
พระชนมายุ 25 พรรษาได้รับตัวแหน่งเป็นหลวงยกกระบัตรประจําเมืองราชบุรีในแผ่นดินพระที่นั่งสุริยามรินทร์พระองค์ได้วิวาห์กับธิดานาคธิดาของท่านเศรษฐี
ทองกับส้มศ . 2218 ได้เลื่อนเป็นพระยายมราชที่สมุหนายก
เมื่อพระเจ้ากรุงธนบุรีไปปราบชุมนุมเจ้าพระฝางพระชนมายุ 35 พรรษาพ . ศ . 2314 ได้เลื่อนเป็นเจ้าพระยาจักรีเมื่อคราวเป็น 2
แม่ทัพไปตีเขมรครั้งที่พระชนมายุ 41 พรรษาพ . ศ .2321 เมื่อคราวเป็นแม่ทัพใหญ่ไปตีเมืองลาวตะวันออกได้เลื่อนเป็นสมเด็จเจ้าพระยามหากษัตริย์ศึก
พ . ศ . พ.ศ. 2323 เป็นครั้งสุดท้ายที่ไปปราบเขมรขณะเดียวกับที่กรุงธนบุรีเกิดจลาจล
จึงเสด็จยกกองทัพกลับมากรุงธนบุรีเมื่อพ . ศ .พระชนมายุ 32 พรรษาในระหว่างที่รับราชการอยู่กับพระเจ้ากรุงธนบุรีได้เลื่อน
ตําแหน่งดังนี้พระชนมายุ 33 พรรษาพ . ศ . 2312 ได้เลื่อนเป็นพระยาอภัยรณฤทธิ์เมื่อพระเจ้า
กรุงธนบุรีปราบชุมนุมเจ้าพิมายพระชนมายุ 34 พรรษาพ .2325 พระองค์ทรงปราบปราม
เสี้ยนหนามแผ่นดินเสร็จแล้วจึงเสด็จขึ้นครองราชสมบัติปราบดาภิเษกแล้วได้มีพระราชดํารัสให้ขุดเอาหีบพระบรมศพของพระเจ้ากรุงธนบุรีขึ้นตั้งณเมรุวัดบาง
ยี่เรือพระราชทานพระสงฆ์บังสุกุลแล้วถวายพระเพลิงพระบรมศพการมหรสพเสร็จแล้วให้มี
( พระราชประวัติรัชกาลที่ 2 แห่งราชวงศ์จักรีพระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัยประสูติพ . ศ . 2310 ขึ้นครองราชย์พ . ศ . 2353 - พ . ศ . 2367 )
มีพระนามเดิมว่าฉิม
พระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัยพระราชประวัติทรงเป็นพระมหากษัตริย์ไทยองค์ที่ 2 แห่งราชวงศ์จักรีทรงประสูติเมื่อ 24 กุมภาพันธ์พ . ศ .2310 ตรงกับวันพุธขึ้น 7 คํ่าเดือน 3 ปีกุนมีพระนามเดิมว่า " ฉิม " พระองค์ทรงเป็นพระบรมราชโอรสองค์ที่ 4 ในพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราชและกรมสมเด็จพระอมรินทรามาตย์พระบรมราชชนนีพันปีหลวงประสูติฃแขวงเมืองสมุทรสงครามขณะนั้นพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราชเป็นหลวงยกกรับัตรเมืองราชบุรีพระบิดาได้ให้เข้าศึกษากับสมเด็จพระวันรัต ( ทองอยู่ ) ณวัดบางหว้าใหญ่พระองค์ทรงมีพระชายาเท่าที่ปรากฎ
1 . กรมสมเด็จพระศรีสุริเยนทรามาตย์พระอัครมเหสี
2 กรมสมเด็จพระศรีสุราลัยพระสนมเอกขณะขึ้นครองราชย์ในปีพ . ศ . 2352 มีพระชนมายุได้ 42 พรรษา
พระราชกรณียกิจที่สําคัญพ . ศ .2322 พระราชบิดาไปราชการสงครามกรุงศรีสัตนาคนหุตก็ติดตามไป
พ . ศ . พ.ศ. 2323 พระชนมายุ 13 พรรษาได้เข้าเป็นศิษย์สมเด็จพระวันรัต ( ทองอยู่ )
พ . ศ .ที่พระราชบิดาได้เลื่อนเป็นสมเด็จเจ้าพระยามหากษัตริย์ศึกฯไปร่วมปราบปรามเขมรกับพระบิดา
พ . ศ .1660 ขณะที่เพิ่งมีพระชนมายุได้ 8 พรรษาได้ติดตามไปสงครามเชียงใหม่อยู่ในเหตุการณ์ครั้งที่บิดามีราชการไปปราบปรามเมืองนางรองนครจําปาศักดิ์และบางแก้วราชบุรีจนถึงอายุ 11 พรรษา
พ . ศ .2325 พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกได้ปราบดาภิเษกแล้วได้ทรงสถาปนาขึ้นเป็น " สมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอเจ้าฟ้ากรมหลวงอิศรสุนทร "
พ . ศ .2329 พระชนมายุ 19 พรรษาได้โดยเสด็จสมเด็จพระบรมชนกนาถไปสงครามตําบลลาดหญ้าและทางหัวเมืองฝ่ายเหนือ
พ . ศ . 2330 ได้โดยเสด็จพระบรมชนกนาถไปสงครามที่ตําบลท่าดินแดงและตีเมืองทวาย
พ . ศ .พระธิดาในพระพี่นางเธอสมเด็จเจ้าฟ้าหญิงกรมพระศรีสุดารักษ์
พ . ศ . 3508 โดยเสด็จพระราชบิดาไปตีเมืองทวายครั้งที่ 2
พ . ศ .2349 ( วันอาทิตย์เดือน 8 ขึ้น 7 คํ่าปีขาล ) ทรงพระชนมายุได้ 40 พรรษาได้รับสถาปนาเป็น " กรมพระราชวังบวรสถานมงคล " ซึ่งดํารงตําแหน่งพระมหาอุปราชขึ้นแทนกรมพระราชวังบวรมหาสุรสีหนาทที่ได้สวรรคตแล้วเมื่อพ . ศ .
- 23461 ทรงผนวชเป็นพระภิกษุในพระอุโบสถวัดพระศรีรัตนศาสดารามซึ่งเป็นพระองค์แรกที่อุปสมบทในวัดนี้เสด็จไปจําพรรษาเมื่อครบสามเดือนณวัดสมอรายปัจจุบันคือวัดราชาธิราชครั้นทรงลาผนวชในปีนั้นพระราชประวัติรัชกาลที่ 3 แห่งราชวงศ์จักรี
( พระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัวประสูติพ . ศ . 2330 ขึ้นครองราชย์พ . ศ . 2367 - พ . ศ . 2083 )
มีพระนามเดิมว่าพระองค์ชายทับพระราชประวัติพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงเป็นพระมหากษัตริย์ไทยองค์ที่ 3 แห่งราชวงศ์จักรีเป็นพระราชโอรสในพระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัยและสมเด็จพระศรีสุราลัย ( เจ้าจอมมารดาเรียม ) ประสูติณวันจันทร์
การแปล กรุณารอสักครู่..