Key findings • While the official p

Key findings
• While the official poverty rate has declined from 22 percent to 15 percent since 1959, most of this progress occurred before the early 1970s. Since then, the direct connection between poverty and economic growth has weakened.
• Some subgroups, like young adults and less-educated Americans, have fared worse than others, as poverty rates for these subgroups have risen over time. Others, such as the elderly, have fared much better than others.
• The Official Poverty Measure masks important progress that has been made in fighting poverty because it doesn’t count many of the antipoverty programs that have accounted for an increasing share of all safety net benefits in recent years.
• If the benefits from noncash programs like food stamps and the Earned Income Tax Credit are counted, the poverty rate would stand at about 11 percent today instead of 15.
• Poverty remains high primarily because the economy has failed the poor. The expanded safety net has kept poverty from being even higher than it is today

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ประเด็นสำคัญ •ในขณะที่อัตราความยากจนอย่างเป็นทางปฏิเสธจาก 22 เปอร์เซ็นต์ถึง 15 เปอร์เซ็นต์ตั้งแต่พ.ศ. 2502 ทั้งนี้ความคืบหน้าเกิดขึ้นก่อนปี 1970 ช่วง การเชื่อมต่อโดยตรงระหว่างความยากจนและการเติบโตทางเศรษฐกิจได้ลดลงตั้งแต่นั้น •มี fared ย่อยบาง เช่นผู้ใหญ่และศึกษาน้อยกว่าชาวอเมริกัน แย่กว่าคนอื่น ๆ เป็นอัตราความยากจนในกลุ่มย่อยเหล่านี้ได้เกิดขึ้นเมื่อเวลาผ่าน อื่น ๆ เช่นผู้สูงอายุ มี fared ดีกว่าผู้อื่น •การวัดความยากจนอย่างเป็นทางมาสก์ความคืบหน้าสำคัญที่ได้ในการต่อสู้กับความยากจน เพราะมันไม่นับโปรแกรม antipoverty ที่มีการลงบัญชีสำหรับหุ้นเพิ่มขึ้นของผลประโยชน์ความปลอดภัยทั้งหมดในปีที่ผ่านมา มากมาย •ถ้าจะนับจากโปรแกรม noncash เช่นแสตมป์อาหารและเครดิตภาษีเงินได้ อัตราความยากจนจะยืนอยู่ที่ประมาณ 11 เปอร์เซ็นต์วันนี้แทน 15 •ความยากจนยังคงสูงเป็นหลักเนื่องจากเศรษฐกิจล้มเหลวคนจน นิรภัยขยายเก็บความยากจนจากความสูงกว่าวันนี้

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ค้นพบที่สำคัญ•ในขณะที่อัตราความยากจนอย่างเป็นทางการได้ลดลงจากร้อยละ 22 ถึงร้อยละ 15 ตั้งแต่ปี 1959 ส่วนใหญ่ของความคืบหน้าเรื่องนี้เกิดขึ้นก่อนที่จะต้นปี 1970
ตั้งแต่นั้นมาเชื่อมต่อโดยตรงระหว่างความยากจนและการเติบโตทางเศรษฐกิจมีความอ่อนแอ.
•กลุ่มย่อยบางอย่างเช่นคนหนุ่มสาวและชาวอเมริกันน้อยการศึกษามีอาการแย่กว่าคนอื่น ๆ ในขณะที่อัตราความยากจนสำหรับกลุ่มย่อยเหล่านี้ได้เกิดขึ้นเมื่อเวลาผ่านไป อื่น ๆ เช่นผู้สูงอายุที่มีอาการดีขึ้นมากกว่าคนอื่น ๆ .
•หน้ากากวัดความยากจนอย่างเป็นทางการความคืบหน้าสำคัญที่ได้รับการทำในการต่อสู้กับความยากจนเพราะมันไม่ได้นับหลายโปรแกรม antipoverty ที่มีสัดส่วนหุ้นที่เพิ่มขึ้นของความปลอดภัยทั้งหมด ผลประโยชน์สุทธิในปีที่ผ่านมา.
•หากได้รับประโยชน์จากโปรแกรมสิ่งของเช่นแสตมป์อาหารและเครดิตภาษีรายได้ที่มีการนับอัตราความยากจนจะยืนอยู่ที่ประมาณร้อยละ 11 ในวันนี้แทน 15.
•ความยากจนยังคงสูงเนื่องจากเศรษฐกิจได้ล้มเหลว น่าสงสาร สุทธิความปลอดภัยขยายได้เก็บความยากจนจากการสูงขึ้นกว่าที่เป็นอยู่ในวันนี้

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

คีย์ข้อมูล
- ขณะที่อัตราความยากจนอย่างเป็นทางการได้ลดลงจากร้อยละ 22 ถึง 15 เปอร์เซ็นต์ ตั้งแต่ 1959 , ที่สุดของความก้าวหน้านี้เกิดขึ้นก่อนปี 1970 ตั้งแต่นั้นมา การเชื่อมต่อโดยตรงระหว่างความยากจนและการเติบโตทางเศรษฐกิจที่อ่อนแอมาก
- บางกลุ่มย่อย เช่น หนุ่มสาวและมีการศึกษาน้อยกว่าคนอเมริกัน จะมีอาการรุนแรงกว่าผู้อื่น เช่น ความยากจน อัตราสำหรับกลุ่มย่อยเหล่านี้มีเพิ่มขึ้นตลอดเวลาอื่นๆ เช่น ผู้สูงอายุ มี fared ดีกว่าคนอื่นๆ .
- วัดความยากจนอย่างเป็นทางการหน้ากากที่สำคัญความคืบหน้าที่ได้รับการทำในการต่อสู้ความยากจน เพราะมันไม่นับหลายของ antipoverty โปรแกรมที่มีสัดส่วนหุ้นที่เพิ่มขึ้นของความปลอดภัยสุทธิประโยชน์ในปีที่ผ่านมา .
- ถ้าได้รับประโยชน์จากโปรแกรม noncash เช่นแสตมป์อาหารและเครดิตภาษีเงินได้จะนับอัตราความยากจน จะอยู่ที่ประมาณร้อยละ 11 วันนี้แทน 15 .
- ความยากจนยังคงสูงเป็นหลักเพราะเศรษฐกิจล้มเหลวและยากจน ขยายเครือข่ายความปลอดภัยยังมีความยากจนเป็นมากกว่ามันคือวันนี้