The transactional leader works thro

The transactional leader works through creating clear structures whereby it is clear what is required of their subordinates, and the rewards that they get for following orders. Punishments are not always mentioned, but they are also well-understood and formal systems of discipline are usually in place.
The early stage of Transactional Leadership is in negotiating the contract whereby the subordinate is given a salary and other benefits, and the company (and by implication the subordinate's manager) gets authority over the subordinate.
When the Transactional Leader allocates work to a subordinate, they are considered to be fully responsible for it, whether or not they have the resources or capability to carry it out. When things go wrong, then the subordinate is considered to be personally at fault, and is punished for their failure (just as they are rewarded for succeeding).
The transactional leader often uses management by exception, working on the principle that if something is operating to defined (and hence expected) performance then it does not need attention. Exceptions to expectation require praise and reward for exceeding expectation, whilst some kind of corrective action is applied for performance below expectation.
Whereas Transformational Leadership has more of a 'selling' style, Transactional Leadership, once the contract is in place, takes a 'telling' style.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ผู้นำการทำธุรกรรมทำงานผ่านการสร้างโครงสร้างที่ชัดเจนด้วยเหตุนี้ก็เป็นที่ชัดเจนสิ่งที่จำเป็นของผู้ใต้บังคับบัญชาของพวกเขาและผลตอบแทนที่พวกเขาได้รับสำหรับการสั่งซื้อต่อไปนี้ การลงโทษที่ไม่เคยกล่าวถึง แต่พวกเขายังมีความเข้าใจที่ดีและระบบอย่างเป็นทางการของวินัยมักจะอยู่ในสถานที่.
ในช่วงเริ่มต้นของการเป็นผู้นำการทำธุรกรรมที่อยู่ในการเจรจาต่อรองสัญญาโดยผู้ใต้บังคับบัญชาจะได้รับเงินเดือนและผลประโยชน์อื่น ๆ และ บริษัท (โดยปริยายและผู้จัดการของผู้ใต้บังคับบัญชา) ได้รับอำนาจเหนือผู้ใต้บังคับบัญชา.
เมื่อจัดสรรผู้นำการทำธุรกรรมการทำงานเพื่อผู้ใต้บังคับบัญชา, พวกเขาจะถือว่าเป็นความรับผิดชอบอย่างเต็มที่สำหรับมันหรือไม่พวกเขามีทรัพยากรหรือความสามารถในการพกมันออก เมื่อสิ่งที่ผิดไปแล้วผู้ใต้บังคับบัญชาจะถือเป็นบุคคลที่ผิดและการลงโทษสำหรับความล้มเหลว (เช่นเดียวกับที่พวกเขาจะได้รับรางวัลสำหรับการประสบความสำเร็จ). ของพวกเขา
ผู้นำการทำธุรกรรมมักจะใช้การจัดการโดยข้อยกเว้นทำงานบนหลักการที่ว่าหากสิ่งที่มีการดำเนินงานผลการดำเนินงานที่กำหนดไว้ (และคาดว่าจะด้วยเหตุนี้) แล้วก็ไม่จำเป็นต้องให้ความสนใจ ข้อยกเว้นความคาดหวังต้องยกย่องและรางวัลสำหรับการเกินความคาดหวังในขณะที่ชนิดของการดำเนินการแก้ไขบางส่วนถูกนำไปใช้ในการดำเนินงานต่ำกว่าที่คาด.
ภาวะผู้นำการเปลี่ยนแปลงในขณะที่มีมากขึ้นของ 'ขาย' สไตล์ความเป็นผู้นำการทำธุรกรรม,ที่ครั้งหนึ่งเคยสัญญาอยู่ในสถานที่ที่ใช้สไตล์ 'บอก'

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ผู้นำทรานแซคชันทำงานผ่านการสร้างโครงสร้างที่ชัดเจนโดยจะล้างความต้องของผู้ใต้บังคับบัญชา และรางวัลที่จะได้รับสำหรับใบสั่งต่อไปนี้ ลงโทษอยู่เสมอ กล่าว แต่พวกเขาก็เข้าใจดี และระบบทางวินัยมักอยู่ในตำแหน่ง
ระยะแรก ๆ ของการเป็นผู้นำธุรกรรมอยู่ในการเจรจาต่อรองสัญญาโดยย่อยได้รับเงินเดือน และสิทธิประโยชน์อื่น ๆ และบริษัท (และ โดยปริยายของน้องผู้จัดการ) ได้รับอำนาจเหนือน้อง
เมื่อเดอะทรานแซคชันนำจัดสรรงานให้น้อง ว่าจะรับผิดชอบเต็มที่สำหรับมัน หรือไม่มีทรัพยากรหรือความสามารถในการดำเนินการก็ เมื่อสิ่งที่ไม่ถูกต้อง แล้วย่อยถือเป็นบุคคลที่บกพร่อง และโทษสำหรับความล้มเหลวของพวกเขา (เหมือนจะมีรางวัลสำหรับ succeeding) .
ผู้นำธุรกรรมมักจะใช้จัดการข้อยกเว้น ทำงานบนหลักการว่า ถ้าสิ่งที่ทำงานเพื่อประสิทธิภาพที่กำหนดไว้ (และจึงคาด) แล้วไม่ต้องสนใจ ข้อยกเว้นของความคาดหวังที่ต้องสรรเสริญและรางวัลเกินความคาดหวัง ขณะที่มีใช้บางชนิดของการดำเนินการแก้ไขผลการปฏิบัติงานต่ำกว่าความคาดหวัง
โดยภาวะผู้นำมีลักษณะ 'ขาย' เป็นผู้นำธุรกรรม เพิ่มเติม เมื่อสัญญาที่ ใช้แบบ 'บอก'

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ผู้นำการทำรายการที่ใช้งานได้ผ่านทางการสร้างโครงสร้างชัดเจนซึ่งเป็นที่ชัดเจนว่ามีความจำเป็นของผู้ใต้บังคับบัญชาและให้รางวัลที่เขาได้รับใบสั่งซื้อสำหรับรายการต่อไปนี้: การลงโทษจะไม่ได้กล่าวถึงอยู่เสมอแต่พวกเขายังเป็นอย่างดี - ทำความเข้าใจและระบบอย่างเป็นทางการโดยปกติแล้วการมีวินัยมีในสถานที่.
ช่วงแรกของการทำรายการความเป็นผู้นำในการเจรจาสัญญาซึ่งผู้อยู่ใต้บังคับบัญชาจะได้รับเงินเดือนและสิทธิประโยชน์อื่นๆและบริษัท(และโดยปริยายผู้จัดการของผู้อยู่ใต้บังคับบัญชา)จะได้รับสิทธิ์ใช้งานมากกว่าผู้อยู่ใต้บังคับบัญชาที่.
เมื่อทำเป็นผู้นำที่จัดสรรงานให้ผู้อยู่ใต้บังคับบัญชาที่พวกเขาจะได้รับการพิจารณาให้เป็นผู้รับผิดชอบการได้ไม่ว่าหรือไม่ได้ก็มีความสามารถหรือทรัพยากรที่นั้นออกไป เมื่อผิดแล้วผู้อยู่ใต้บังคับบัญชาที่ได้รับการพิจารณาให้เป็นส่วนตัวในความผิดและมีความผิดต้องระวางโทษสำหรับความล้มเหลว(ตอนที่เขาจะได้รับรางวัลสำหรับการประสบความสำเร็จ)..
ผู้นำการทำรายการที่มักใช้การจัดการของพวกเขาโดยมีข้อยกเว้นการทำงานบนหลักการที่ว่าถ้ามีปัญหาบางอย่างจะทำงานเพื่อ ประสิทธิภาพ ที่กำหนด(และคาดว่าหลังจากนี้ไป)จากนั้นจึงไม่จำเป็นต้องให้ความสนใจ ข้อยกเว้น( Don ’ t allow exceptions )เพื่อความคาดหวังต้องการเงินรางวัลและยกย่องสรรเสริญเพราะความหวังเกินในขณะที่บางชนิดของการดำเนินการแก้ไขเป็นการนำมาใช้เพื่อ ประสิทธิภาพ ด้านล่างการคาดการณ์.
ขณะที่ยากไร้ด้อยโอกาสให้เปลี่ยนแปลงไปสู่ความเป็นผู้นำได้มีมากกว่าของ'สไตล์'การขายที่เป็นผู้นำการทำรายการเมื่อสัญญานี้อยู่ในสถานที่ที่จะพา'บอก'สไตล์