3. Put the ingredients and brown su

3. Put the ingredients and brown sugar in a large wide container and mix them with your hands. Cover with porous paper or newspaper and leave for 1 to 2 hours.
4. Put the mixture into the clay pot. It should Fill up ¾ of jar. It is important that the jar is not too full or under full. The empty space is not empty. It is filled with air, for optimum fermentation to occur.
5. Put weight (Stone or bag of water sealed properly) on the mixture to control the amount of air in it.
6. Put on the cover and tie the jar. A cover is needed to prevent insects from getting into the mixture. Paper is ideal because it lets the air in and out.
7. Remove the weight after 1 or 2 days. After the air has escaped , put back the cover again
8. Put the jar in a cool and shaded place. Do not open, move or stir the ingredients during the process of fermentation for 5-7 days.
9.After seven days filter the material to extract the juice.
10. The extracted juice can be stored in a glass or plastic bottle in a cool, dark place for up to 6 months. It is important not to tighten the cap completely on the bottle to allow aeration.
11. Shake the bottle once a week to provide air to microorganisms.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

3. ใส่ส่วนผสมและน้ำตาลในภาชนะที่กว้างใหญ่ และผสมพวกเขา ด้วยมือของคุณ ครอบคลุม ด้วยหนังสือพิมพ์หรือกระดาษที่มีรูพรุน และทิ้ง 1-2 ชั่วโมง4. ใส่ส่วนผสมลงในหม้อดิน มันควรเติมขึ้น 3 ใน 4 ของขวด มันเป็นสิ่งสำคัญว่า โถไม่เต็มหน้าจอ หรือ ใต้เต็ม ว่างไม่ว่างเปล่า มันเต็มไป ด้วยอากาศ การหมักที่เหมาะสมจะเกิดขึ้น5. ใส่น้ำหนัก (หินหรือถุงน้ำที่ปิดผนึกอย่างถูกต้อง) ในส่วนผสมเพื่อควบคุมปริมาณอากาศในนั้น6. ใส่ฝาครอบ และผูกขวด จำเป็นต้องมีฝาปิดเพื่อป้องกันแมลงจากการเป็นส่วนผสม กระดาษเหมาะเนื่องจากมันช่วยให้อากาศเข้าและออก7. เอาน้ำหนักหลัง 1 หรือ 2 วัน หลังจากที่อากาศได้หนี กลับหน้าปกอีกครั้ง 8. ใส่ขวดในเย็น และร่มรื่น อย่าเปิด ย้าย หรือกวนส่วนผสมในการหมัก 5-7 วัน9.หลังจากเจ็ดวันกรองวัสดุที่สกัดน้ำผลไม้10. น้ำผลไม้สกัดสามารถเก็บไว้ในแก้วหรือขวดพลาสติกในเย็น มืดนานถึง 6 เดือน มันเป็นสิ่งสำคัญที่ไม่กระชับหมวกอย่างสมบูรณ์บนขวดเพื่อให้อากาศ11. เขย่าขวดให้สัปดาห์ละครั้งเพื่อให้อากาศแก่จุลินทรีย์

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

3. ใส่ส่วนผสมและน้ำตาลในภาชนะที่กว้างขนาดใหญ่และผสมให้เข้ากันด้วยมือของคุณ คลุมด้วยกระดาษที่มีรูพรุนหรือหนังสือพิมพ์และปล่อยให้เวลา 1 ถึง 2 ชั่วโมง.
4 ใส่ผสมลงไปในหม้อดิน มันควรเติม¾ของขวด มันเป็นสิ่งสำคัญที่ขวดก็ไม่เต็มเกินไปหรือภายใต้เต็มรูปแบบ พื้นที่ว่างไม่ว่างเปล่า มันเต็มไปด้วยอากาศสำหรับการหมักที่เหมาะสมที่จะเกิดขึ้น.
5 ใส่น้ำหนัก (หินหรือถุงน้ำปิดผนึกอย่างถูกต้อง) ในส่วนผสมในการควบคุมปริมาณของอากาศในนั้น.
6 วางบนหน้าปกและผูกขวด ปกเป็นสิ่งจำเป็นเพื่อป้องกันไม่ให้แมลงจากการเป็นส่วนผสม กระดาษเหมาะเพราะจะช่วยให้อากาศเข้าและออก.
7 นำน้ำหนักหลังวันที่ 1 หรือ 2 วัน หลังจากอากาศได้หลบหนีออกใส่ฝาครอบด้านหลังอีกครั้ง
ที่ 8 ใส่ขวดในที่เย็นและสีเทา อย่าเปิดเคลื่อนย้ายหรือกวนส่วนผสมในระหว่างขั้นตอนของการหมักสำหรับ 5-7 วัน.
9.After เจ็ดวันกรองวัสดุในการสกัดน้ำผลไม้.
10 น้ำผลไม้สกัดสามารถเก็บไว้ในขวดแก้วหรือพลาสติกในที่เย็นและมืดได้นานถึง 6 เดือน มันเป็นสิ่งสำคัญที่จะไม่กระชับหมวกสมบูรณ์ในขวดเพื่อให้การเติมอากาศ.
11 เขย่าขวดสัปดาห์ละครั้งเพื่อให้อากาศจุลินทรีย์

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

3 . ใส่ส่วนผสมน้ำตาลในภาชนะกว้างขนาดใหญ่และผสมมันกับมือ คลุมด้วยหนังสือพิมพ์หรือกระดาษ พรุน และทิ้ง 1 ถึง 2 ชั่วโมง4 . ใส่ส่วนผสมลงในหม้อดิน . ควรเติม¾ของโหล มันเป็นสิ่งสำคัญที่ขวดไม่เต็มหรือเต็ม . ว่างไม่ว่างเปล่า . มันเต็มไป ด้วยอากาศ น้ำหมักเกิดขึ้น5 . ใส่น้ำหนัก ( หิน หรือถุงน้ำปิดผนึกอย่างถูกต้อง ) เมื่อผสมกับการควบคุมปริมาณอากาศในนั้น6 . ใส่ฝาครอบและผูกขวด ปกเป็นสิ่งจำเป็นเพื่อป้องกันแมลงจากการลงในส่วนผสม กระดาษเหมาะ เพราะจะช่วยให้อากาศเข้าและออก7 . เอาน้ำหนักหลัง 1 หรือ 2 วัน หลังจากอากาศหนีเอาฝาอีก8 . ใส่ขวดในที่เย็นและการแรเงา ไม่เปิด , ย้าย หรือ ผัดส่วนผสมในระหว่างกระบวนการหมักไว้ 5-7 วัน9 . หลังจากเจ็ดวัน กรองสารสกัดน้ำผลไม้10 . สกัดน้ำผลไม้สามารถเก็บไว้ในแก้วหรือขวดพลาสติกในที่เย็นและมืด นานถึง 6 เดือน มันเป็นสิ่งสำคัญที่จะไม่กระชับหมวกที่สมบูรณ์ในขวดเพื่อให้อากาศ11 . เขย่าขวด อาทิตย์ละครั้ง เพื่อให้อากาศกับจุลินทรีย์