The new species, P. robustus, can b

The new species, P. robustus, can be assigned to the genus Psilorhynchus (sensu Rainboth, 1983) based on the following combination of characters: back arched, ventral surface flattened; mouth small and inferior; barbels absent; gill-membranes joined broadly to isthmus with aperture extending ventrally to base of pectoral fin; paired fins inserted horizontally; scales large, 32–34 in lateral line; dorsal fin with iii.9 rays, anal fin with iii.6 rays, pectoral with v.11–12 rays, pelvic fin with ii.7 rays; 5th ceratobranchial with 4 pharyngeal teeth, arranged in a single row; pre-epiphysial fontanel present; posterior swimbladder chamber greatly reduced, anterior chamber partially enclosed in a bony capsule formed anteriorly by the lateral process of the 2nd vertebral centrum and laterally by the outer arm of the os suspensorium (= 4th pleural rib of other authors). Though the interrelationships within the genus Psilorhynchus are currently unknown, the new species appears to be more closely related to those species of Psilorhynchus with a papillated skin fold at the posterolateral most corner of the mouth (Fig. 2), specifically P. balitora, P. gracilis and P. sucatio. Of these three species, P. robustus is most similar in terms of meristics to P. balitora and P. gracilis (Table 2) as both have 9 branched dorsal-fin rays and 3 unbranched anal-fin rays (vs. 8 and 2, respectively). Based on examination of the four Indian species available to them (P. balitora, P. homaloptera, P. pseudecheneis, P. sucatio), Yazdani et al., (1990) divided the species of Psilorhynchus into two genera, Psilorhynchus sensu stricto and Psilorhynchoides for the inclusion of P. homaloptera (type species) and P. pseudecheneis. This decision was based on a number of differences that they observed between the external appearance of P. homaloptera and P. pseudecheneis, and P. balitora and P. sucatio, and in the osteology of P. homaloptera and P. balitora, including: body flattened anteriorly and compressed laterally towards posterior half of the body in Psilorhynchoides (vs. body more or less spindle shaped with distinct convexity of the dorsal profile with peak at dorsal-fin origin in Psilorhynchus); broad based paired fins, well spread out horizontally (vs. narrow based, not so much spread out horizontally); small eyes (vs. eyes fairly large); scales absent on chest (vs. present); 8–10 unbranched pectoral-fin rays (vs. 4–6); lateral line scales numbering above 40 (vs. 32–33, as counted by Yazdani et al.); skull broad (vs. long and slender); supraethmoid fossa (= post-epiphysial fontanelle) present in P. homaloptera (vs. absent in P. balitora); ethmoid-frontal fontanelle (= pre-epiphysial fontanelle) long and slender in P. homaloptera (vs. short and broad in P. balitora); dorsal ribs of second and fourth vertebrae forming a bony capsule enclosing the anterior swim bladder chamber in P. homaloptera (vs. dorsal ribs of second and fourth vertebrae just folded with lateral openings); urohyal thick and catapult shaped with forked anterior tips in P. homaloptera (vs. urohyal a more compact shaft-like structure with anterior tips only a little forked in P. balitora); lateral foramen present on postero-lateral border of basipterygium in P. homaloptera (vs. absent in P. balitora). P. robustus P. balitora P. gracilis P. microphthalmus P. sucatio P. homaloptera P. pseudecheneis Dorsal-fin rays iii.9 iii.9 iii.9 ii.8 ii.8 ii.8 ii.8 Anal-fin rays ii.6 ii.6 iii.6 ii.6 ii.6 ii.6 ii.6 Branched caudal-fin rays 8–9+8–9 7–8+7–8 9+8 8+7 9+8 9+8 9+8 Pelvic-fin rays ii.7 ii.7 ii.7 ii.7 ii.7 ii.7 ii.7 Pectoral-fin rays v.11–12 vi-vii.10–11 iv–v.11–13 vii.10 iv.8–9 viii–ix.10–12 ix–x.10–12 Lateral-line scales 32–34 32–34 33–34 39–40 32–35 43–44 46–48 Scales between dorsal and pelvic fins 3.5/1/2. 3.5/1/2. 3.5/1/2. 3.5/1/2. 3.5/1/2. 4/1/2. 4/1/2. Circumpeduncular scales 10 10 10 10 10 10 8 Abdominal vertebrae 18–19 16–18 17 - 18–19 - 23–25 Caudal vertebrae 16 15–16 17 - 16–18 - 24–25 Total vertebrae 34–35 31–34 34 - 34–37 - 47–50 56 • Zootaxa 1663 © 2007 Magnolia Press CONWAY & KOTTELAT TABLE 3. Summary of characters used by Yazdani et al. (1990) to distinguish

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

สายพันธุ์ใหม่ P. robustus สามารถกำหนดสกุล Psilorhynchus (แอ Rainboth, 1983) ตามชุดอักขระต่อไปนี้: หลังโค้ง ทางสัญญาณด้านล่างพื้นผิวแบน รอง และปากเล็ก ลักษณะขาด เยื่อหุ้มเหงือกเข้าร่วมอย่างกว้างขวางกับคอคอด ด้วยรูรับแสงที่บดบังการขยายฐานของครีบ จับคู่ครีบแนวนอน แทรก เครื่องชั่งขนาดใหญ่ เส้นข้างใน 32-34 ครีบครีบก้น ด้วยรังสี iii.6 ครีบ ด้วยรังสี v.11–12 กระดูกเชิงกรานครีบ ด้วยรังสี ii.7 iii.9 รังสี ceratobranchial 5 กับ 4 ฟันคอหอย จัดเรียงในแถวเดียว ก่อน epiphysial fontanel ปัจจุบัน swimbladder หลังหอค้าที่ลด หน้าหอเพียงบางส่วนในแคปซูลกระดูกเกิดครีบหลัง โดยการเซนทรัมกระดูกสันหลัง 2 ข้าง และข้างแขนด้านนอกของ suspensorium ระบบปฏิบัติการ (= 4 มีน้ำท่วมซี่โครงของผู้เขียนอื่น ๆ) ว่า interrelationships อยู่ในสกุล Psilorhynchus เป็นที่รู้จักในขณะนี้ สายพันธุ์ใหม่จะ ไม่เพิ่มเติมสัมพันธ์ใกล้ชิดกับเหล่าพันธุ์ Psilorhynchus กับสกิน papillated พับที่ posterolateral มุมสุดของช่องปาก (รูป 2), โดยเฉพาะ P. balitora, P. ตา และ P. sucatio สามสายพันธุ์ P. robustus ใกล้เคียงสุดในแง่ของ meristics P. balitora และ P. ตาแดง (ตารางที่ 2) ทั้งสองมี 9 กิ่งหลังครีบรังสีและรังสี anal fin unbranched 3 (เทียบกับ 8 และ 2 ตามลำดับ) จากการตรวจสอบสายพันธุ์อินเดียสี่พวกเขา (P. balitora ปลาจิ้งจก P., P. pseudecheneis, P. sucatio), Yazdani et al., (1990) แบ่งพันธุ์ Psilorhynchus เป็นสองสกุล stricto แอ Psilorhynchus และ Psilorhynchoides สำหรับการรวมของ P. ปลาจิ้งจก (ชนิด) และ P. pseudecheneis ตัดสินใจนี้ขึ้นอยู่กับจำนวนของความแตกต่างที่พวกเขาสังเกตเห็นระหว่างลักษณะภายนอก ของปลาจิ้งจก P. P. pseudecheneis และ P. balitora และ P. sucatio และ ใน osteology ของปลาจิ้งจก P. P. balitora รวมทั้ง: ร่างกายแบนครีบหลัง และบีบอัดแบบแนวนอนต่อช่วงครึ่งหลังของร่างกายใน Psilorhynchoides (เทียบ กับร่างกายมากกว่า หรือน้อย กว่าแกนที่มีรูปทรงแตกต่าง convexity ของโพรไฟล์ที่หลังกับได้สูงสุดที่จุดเริ่มต้นของครีบหลังใน Psilorhynchus); กว้างตามครีบคู่ กระจายออกในแนวนอน (เทียบกับแคบขึ้น ไม่มากกางออกในแนวนอน); ตาเล็ก (เจอตาค่อนข้างใหญ่); เครื่องชั่งขาดบนอก (เทียบกับปัจจุบัน); 8-10 unbranched-ครีบรังสี (เทียบกับ 4 – 6); เส้นข้างเครื่องชั่งเลขสูงกว่า 40. (32 – 33 ที่นับโดย Yazdani et al); กะโหลกกว้าง (เจอยาว และเรียว); แอ่ง supraethmoid (= epiphysial หลังกระหม่อม) ในปลาจิ้งจก P. (เจอใน P. balitora); กระหม่อมหน้าผากทมอยด์ (= epiphysial ก่อนกระหม่อม) ยาว และเรียวในปลาจิ้งจก P.. (สั้นและกว้างใน P. balitora); หลังซี่โครงของกระดูกสันหลังสอง และสี่รูปแคปซูลกระดูกล้อมหอหน้ากระเพาะปลาในปลาจิ้งจก P. (เจอหลังซี่โครงของกระดูกสันหลังสอง และสี่เพียงพับเปิดข้าง); urohyal หนาและหนังสติ๊กทรง forked เคล็ดลับการรักษาในปลาจิ้งจก P. (เทียบกับ urohyal เพลาเหมือนโครงสร้างกะทัดรัด ด้วยเคล็ดลับการรักษาเพียงเล็กน้อย forked ใน P. balitora); ด้านข้างช่องที่อยู่บนเส้นขอบข้าง postero ของ basipterygium ในปลาจิ้งจก P. (เจอใน P. balitora) P. robustus P. balitora P. ตา P. microphthalmus P. sucatio P. ปลาจิ้งจก P. pseudecheneis-ครีบรังสี iii.9 iii.9 iii.9 ii.8 ii.8 ii.8 ii.8 ครีบก้นรังสี ii.6 ii.6 iii.6 ii.6 ii.6 ii.6 ii.6 Branched จางรังสี 8 – 9 + 7 8 – 9 – 8 + 7-8 9 + 8 8 + 7 9 + 8 8 9 + 9 + 8 ii.7 ii.7 ii.7 ii.7 ii.7 ii.7 ii.7-ครีบรังสีรังสีกระดูกเชิงกรานครีบ v.11–12 vi vii.10–11 iv–v.11–13 vii.10 iv.8–9 viii–ix.10–12 ix–x.10–12 เส้นข้างชั่ง 32 – 34 32 – 34 33 – 34 39 – 40 43 32 – 35 – 44 46 – 48 ระหว่างครีบหลัง และอุ้งเชิงกราน 3.5/1/2 3.5/1/2 3.5/1/2 3.5/1/2 3.5/1/2 4/1/2 4/1/2 Circumpeduncular เครื่องชั่ง 10 10 10 10 10 10 8 หน้าท้องกระดูกสันหลัง 18 – 19 16 – 18 17 - 18-19 - 23 – 25 ครีบกระดูกสันหลัง 16 15 – 16 17 - 16-18 - 24-25 กระดูกสันหลังรวม 34 – 35 31 – 34 34 - 34-37 - 47-50 56 • Zootaxa 1663 © 2007 แมกกดคอนเวย์ & KOTTELAT ตาราง 3 สรุปของอักขระที่ใช้โดย Yazdani et al. (1990)

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

สายพันธุ์ใหม่พี robustus, สามารถกำหนดให้ประเภท Psilorhynchus (sensu Rainboth, 1983) บนพื้นฐานของการรวมกันดังต่อไปนี้ของตัวอักษร: โค้งกลับพื้นผิวท้องบี้; ปากเล็กและด้อยกว่า; หนวดขาด; ปลาเยื่อเข้าร่วมในวงกว้างเพื่อคอคอดกับรูรับแสงขยายช่องท้องไปที่ฐานของครีบอกครีบ; ครีบคู่แทรกแนวนอน; เครื่องชั่งน้ำหนักขนาดใหญ่ 32-34 ในเส้นข้างลำตัว; ครีบหลังครีบกับรังสี iii.9 ครีบทวารหนักกับรังสี iii.6, ครีบอกกับ v.11-12 รังสีเชิงกรานครีบกับ ii.7 รังสี; ceratobranchial 5 มี 4 ฟันคอหอยจัดให้อยู่ในแถวเดียว; ก่อน epiphysial กระหม่อมปัจจุบัน หลัง swimbladder ห้องลดลงอย่างมากหน้าห้องปิดล้อมบางส่วนในแคปซูลกระดูกรูป anteriorly โดยการดำเนินการด้านข้างของกระดูกสันหลัง Centrum 2 และด้านข้างโดยแขนด้านนอกของ OS suspensorium (= 4 ซี่โครงเยื่อหุ้มปอดของผู้เขียนอื่น ๆ ) แม้ว่าความสัมพันธ์ภายใน Psilorhynchus สกุลอยู่ในขณะนี้ไม่ทราบสายพันธุ์ใหม่จะปรากฏขึ้นจะเกี่ยวข้องอย่างใกล้ชิดกับสายพันธุ์ของผู้ Psilorhynchus กับพับผิว papillated ที่มุมมากที่สุด posterolateral ของปาก (รูปที่ 2.) โดยเฉพาะพี Balitora, P . gracilis พี sucatio ของทั้งสามสายพันธุ์พี robustus เป็นคล้ายกันมากที่สุดในแง่ของ meristics พีพี Balitora gracilis (ตารางที่ 2) ในขณะที่ทั้งสองมี 9 กิ่งรังสีหลังครีบและ 3 unbranched ทวารครีบรังสี (เทียบกับ 8 และ 2 ตามลำดับ) ขึ้นอยู่กับการตรวจสอบของทั้งสี่สายพันธุ์อินเดียมีให้พวกเขา ( P. Balitora, P. ปลาจิ้งจก, P. pseudecheneis, P. sucatio) Yazdani et al. (1990) แบ่งสายพันธุ์ของ Psilorhynchus เป็นสองจำพวก Psilorhynchus sensu stricto และ Psilorhynchoides สำหรับการรวมของพีปลาจิ้งจก (ชนิดสายพันธุ์) และพี pseudecheneis การตัดสินใจนี้ถูกขึ้นอยู่กับจำนวนของความแตกต่างที่พวกเขาสังเกตเห็นระหว่างรูปลักษณ์ภายนอกของปลาจิ้งจกพีพี pseudecheneis และพีพี Balitora sucatio และใน osteology พีพีปลาจิ้งจก Balitora รวมทั้งร่างกาย บี้ anteriorly และบีบอัดขวางต่อครึ่งหลังของร่างกายใน Psilorhynchoides (เทียบกับร่างกายมากขึ้นหรือน้อยแกนรูปนูนที่แตกต่างของรายละเอียดด้านหลังที่มีจุดสูงสุดที่จุดกำเนิดครีบหลังครีบใน Psilorhynchus); ในวงกว้างตามครีบคู่ดีกระจายออกไปในแนวนอน (เทียบกับแคบตามไม่ได้แพร่กระจายมากออกแนวนอน); ตาเล็ก (เทียบกับดวงตาขนาดใหญ่พอสมควร); เครื่องชั่งน้ำหนักที่หายไปบนหน้าอก (เทียบกับปัจจุบัน); 8-10 unbranched รังสีทรวงอกครีบ (เทียบกับ 4-6); เส้นข้างลำตัวเครื่องชั่งนับกว่า 40 (เทียบกับ 32-33 นับเป็นโดย Yazdani et al.); กะโหลกศีรษะกว้าง (เมื่อเทียบกับความยาวและเรียว); แอ่ง supraethmoid (= โพสต์ epiphysial กระหม่อม) อยู่ในพีปลาจิ้งจก (เทียบกับอยู่ในพี Balitora); ethmoid หน้าผากกระหม่อม (= ก่อน epiphysial กระหม่อม) ยาวเรียวพีปลาจิ้งจก (เทียบกับระยะสั้นและกว้างในพี Balitora); ครีบหลังซี่โครงของกระดูกสันหลังที่สองและสี่รูปแคปซูลกระดูกล้อมรอบห้องกระเพาะปัสสาวะว่ายน้ำหน้าในพีปลาจิ้งจก (เทียบกับซี่โครงด้านหลังของกระดูกสันหลังที่สองและสี่เพียงแค่พับที่มีช่องเปิดด้านข้าง); urohyal หนาและหนังสติ๊กรูปกับเคล็ดลับหน้าคดเคี้ยวในพีปลาจิ้งจก (เทียบกับ urohyal โครงสร้างเพลาเหมือนขนาดกะทัดรัดมากขึ้นด้วยเคล็ดลับหน้าเพียงเล็กน้อยคดเคี้ยวในพี Balitora); foramen ด้านข้างอยู่บนชายแดน postero ด้านข้างของ basipterygium พีปลาจิ้งจก (เทียบกับอยู่ในพี Balitora) พีพี robustus Balitora พีพี gracilis microphthalmus พีพี sucatio ปลาจิ้งจกพี pseudecheneis ครีบหลังครีบรังสี iii.9 iii.9 iii.9 ii.8 ii.8 ii.8 ii.8 รังสีครีบก้น ii.6 ii.6 iii.6 ii.6 ii.6 ii.6 ii.6 กิ่งรังสีหางครีบ + 8-9 8-9 7-8 7-8 + 9 + 8 + 7 8 9 + 8 9 8 9 + 8 รังสีกระดูกเชิงกรานครีบ ii.7 ii.7 รังสี ii.7 ii.7 ii.7 ii.7 ii.7 ช่วงอกครีบ v.11-12 VI-vii.10-11 IV-V 11-13 vii.10 iv.8-9 VIII-ix.10-12 IX-x.10-12 เส้นด้านข้างเครื่องชั่งน้ำหนัก 32-34 32-34 33-34 39-40 32-35 43-44 46-48 เครื่องชั่งน้ำหนักระหว่างครีบหลังและครีบกระดูกเชิงกราน 3.5 / 02/01 3.5 / 02/01 3.5 / 02/01 3.5 / 02/01 3.5 / 02/01 4/1/2 4/1/2 Circumpeduncular ตาชั่ง 10 10 10 10 10 10 8 ช่องท้องกระดูกสันหลัง 18-19 16-18 17 - วันที่ 18-19 - 23-25 ​​หางกระดูกสันหลัง 16 15-16 17 - 16-18 - 24-25 รวมกระดูกสันหลัง 34-35 31-34 34 - 34-37 - 47-50 56 • Zootaxa 1663 © 2007 Magnolia กด CONWAY & KOTTELAT ตาราง 3. สรุปของตัวละครที่ใช้โดย Yazdani et al, (1990) ที่จะแยกแยะ